“อเมริกัน วิสกี้” (American Whiskey) ก่อกำเนิดครั้งแรกบนผืนแผ่นดินอเมริการาวปี 1791เริ่มจากรัฐเวอร์จิเนีย (Verginia) จากการใช้ข้าวไรย์ (Rye) ที่เจริญงอกงามเติบโตได้ดีในแถบชายฝั่งตะวันออกเป็นหลัก ขณะที่ข้าวบาร์เลย์ (Barley) ที่ใช้ทำวิสกี้ในยุโรปถูกนำมาปลูกในอาณาบริเวณนี้เพื่อหวังจะใช้ทำวิสกี้กลับไม่ได้ผลผลิตตามที่ต้องการ ก่อนจะพัฒนาการใช้ธัญพืชอื่น ๆ อีกหลายอย่าง พร้อมกรรมวิธีการผลิตที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป
สังเกตว่า “American Whiskey” จะมีตัว e อยู่หลังตัว k และหน้าตัว y ด้วย เป็นการเริ่มใช้ในช่วงศตวรรษที่ 18 (1870 – 1900) นัยว่าต้องการให้เห็นถึงความแตกต่างและโชว์คุณภาพและรสชาติที่นิ่งของอเมริกัน วิสกี้ (American Whiskey) และไอริช วิสกี้ (Irish Whiskey) ต่างจากสก็อต วิสกี้ (Scotch Whisky) ที่ไม่มีตัว e อยู่หลังตัว k และหน้าตัว y โดยมีข้อกล่าวอ้างว่าช่วงหลัง ๆ นี้ คุณภาพของสก็อต วิสกี้ ไม่ค่อยนิ่ง เพราะหลาย ๆ ยี่ห้อเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ
ตามกฎหมายของสหรัฐฯ สามารถจำแนก American Whiskey ได้หลัก ๆ 7 ประเภท โดยอาศัยสัดส่วนของวัตถุดิบเป็นสำคัญคือ
1.ไรย์ วิสกี้ (Rye Whiskey) ต้องใช้ข้าวไรย์ (Rye) อย่างน้อย 51% ที่เหลืออีก 49% จะเป็นธัญพืชชนิดอื่น ๆ ตามที่โรงกลั่นจะคิดขึ้นเป็นสูตรของตัวเอง
2.ไรย์ มอลต์ วิสกี้ (Rye Malt Whiskey) ต้องทำจากข้าวไรย์อย่างน้อย 51% เหมือนไรย์ วิสกี้ในข้อ 1 แตกต่างกันอยู่ตรงที่ประเภทนี้ต้องนำข้าวไปแช่น้ำแล้วทำให้แห้งเป็นมอลต์ (Malt) ก่อน
3.มอลต์ วิสกี้ (Malt Whiskey) เป็นวิสกี้ที่เหมือนกับของประเทศอื่น ๆ คือทำจากมอลเต็ด บาร์เลย์ (Malted Barley) ขั้นต่ำ 51% และกระบวนการผลิตอยู่ในสหรัฐ
4.วีท วิสกี้ (Wheat Whiskey) เป็นประเภทที่ต้องทำจากข้าวสาลี (Wheat) อย่างน้อย 51% และถ้าบ่มในถังโอคใหม่เผาไฟ ไม่ต่ำกว่า 2 ปี สามารถระบุฉลากว่า สเทรท (Straight) ได้
5.เบอร์เบิ้น วิสกี้ (Bourbon Whiskey) ชื่อของ วิสกี้ (Whiskey) ประเภทนี้คนไทยคุ้นเคยกันดี ทำจากข้าวโพดอย่างน้อย 51%
6.คอร์น วิสกี้ (Corn Whiskey) ประเภทนี้ต้องทำจากข้าวโพดไม่ต่ำกว่า 80% ไม่ต้องบ่มในถังโอค ไม่ต้องแต่งสีและกลิ่น แต่ถ้าจะบ่มอนุญาตให้บ่มในถังโอคที่ไม่เผาไฟ
7.เทนเนสซี วิสกี้ (Tennessee Whiskey) ประเภทนี้ใช้ข้าวโพดไม่ต่ำกว่า 51% คล้ายเบอร์เบิ้น แต่กระบวนการผลิตต่างจากเบอร์เบิน เช่น การใช้น้ำ การกรองด้วยถ่านไม้เมเปิ้ล (Maple Charcoal) ฯลฯ
หนึ่งในจำนวนโรงกลั่นอเมริกัน วิสกี้ ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐคือ “มิชเตอร์ส” (Michter’s) ถูกก่อตั้งเมื่อปี 1753 อยู่ในชีเวรี (Shively) เมืองหลุยส์วิลล์ (Louisville) ดินแดนของการผลิตอเมริกัน วิสกี้ โดย Shenk’s Whiskey บริษัท อเมริกันวิสกี้เจ้าแรก ก่อนการปฏิวัติ อเมริกา ที่เพนซีลวาเนีย Pennsylvania ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 1950 ลู ฟอร์แมน (Lou Forman) เจ้าของโรงกลั่น ได้ตัดสินใจผลิตแบรนด์ใหม่ ด้วยการนำชื่อของลูกชาย 2 คนของเขาผสมกัน คือ Michael และ Peter กลายเป็น Michter’s
โรงกลั่น Michter’s ซึ่งมีพื้นที่ 12.8 เอเคอร์ ผลิตวิสกี้หลากหลายชนิดและหลากหลายสไตล์ ที่ล้วนแล้วแต่คว้ารางวัลมาแล้วเยอะแยะ เช่น Single barrel, Small batch Bourbons, Ryes และ Whiskies แต่ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือ “ไรย์” (Rye) โดยในเมืองไทยนำเข้าโดยบริษัท แบรนด์ คอนเนค (ไทยแลนด์) จำกัด (Brand Connect Thailand Co.,Ltd.) ซึ่งล่าสุดได้จัดกิจกรรมขึ้นที่ร้านซอลต์ (Salt) ซอยอารีย์
มิชเตอร์ส ยูเอส*1 สมอลล์ แบทช์ อเมริกัน วิสกี้ (Michter’s US*1 Small Batch American Whiskey) : เป็นอเมริกัน วิสกี้ ที่ควรลิ้มลองสักครั้ง ผลิตในจำนวนน้อย (Small Batch) หรือจำนวนจำกัด (Limited Quantities) และไม่เบลนด์ (Unblended) แหล่งผลิตคือเมืองหลุยส์วิลล์ (Louisville) รัฐเคนตั๊กกี้ (Kentucky) แอลกอฮอล์ 41.7% ผ่านการบ่มในถังโอคเบอร์เบิน และถังอเมริกัน ไวท์ โอค (American White Oak) สีเหลืองอำพัน ดมครั้งแรกหอมกลิ่นคาราเมล แอปเปิ้ล และลูกเกด ตามด้วยวานิลลา สไปซีเฮิร์บ กล้วยหอม ทอฟฟีกาแฟ จบยาวด้วยวานิลลาและหวานปะแล่ม ๆ จากโอค
มิชเตอร์ส ยูเอส*1 ซิงเกิ้ล บาร์เรล สเทรท ไรย์ วิสกี้ (Michter’s US* Single Barrel Straight Rye Whiskey) : เป็นหนึ่งในคลาสสิค ไรย์ วิสกี้ (Classic Rye Whiskey) จากเคนตั๊กกี้ (Kentucky) โดยสเทรท ไรย์ วิสกี้ (Straight Rye Whiskey) ทุกขวดของมิชเตอร์ส จะเป็นซิงเกิ้ล บาร์เรล (Single Barrel) และไม่มีการเบลนด์หรือตกแต่งใด ๆ จึงผลิตจำนวนจำกัด แอลกอฮอล์ 42.8% สีทองคล้าย ๆ ไม้มะฮอกกานี ดมครั้งแรกได้กลิ่นขนมปังกรอบ แกลบ และซีทรัส ตามด้วยสไปซี เปปเปอร์ เนย ลูกเกด และกลิ่นโอค จบยาวและนุ่มเนียน
มีเรื่องเล่าว่า จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) อดีตประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐ เป็นคนที่ชอบไรย์ วิสกี้เป็นอย่างมาก หลังจากลุกจากเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการแล้ว เขาได้กลับไปบ้านเกิดที่เมาท์ เวอร์นอน (Mount Vernon) ในเวอร์จีเนีย นอกจากทำฟาร์มแล้ว เขายังทำโรงกลั่นไรย์ เล็ก ๆ ด้วย
มิชเตอร์ส ยูเอส*1 สมอลล์ แบทช์ เคนตั๊กกี้ สเทรท เบอร์เบิน วิสกี้ (Michter’s US*1 Small Batch Kentucky Straight Bourbon Whiskey) : เป็นรุ่นที่ได้รับรางวัล Flaviar Community Awards 2018 ในประเภทเบอร์เบิน ผลิตในจำนวนจำกัด และบ่มประมาณ 8 ปีในถังที่ผ่านการเผาด้านในและถังโอคอเมริกันใหม่ แอลกอฮอล์ 45.7% …สีทองอำพัน หอมกลิ่น คาราเมล วานิลลา พรุน ผลไม้ตากแห้ง ควันไฟ สไปซีเปปเปอร์ อบเชย จบยาวด้วยเปปเปอร์ โอคหอมกรุ่นและหวานนิด ๆ
มิชเตอร์ส ยูเอส*1 สมอลล์ แบทช์ ซาวร์ แมช วิสกี้ (Michter’s US*1 Small Batch Sour Mash Whiskey) : เป็นรุ่นที่ผลิตในจำนวนน้อยเช่นกัน บ่มในถังที่ผ่านการเผาด้านในและถังโอคอเมริกันใหม่ แอลกอฮอล์ 43% กลิ่นหอมหวานของวานิลลา และคาราเมล ตามด้วย สไปซี บัตเตอร์ อัลมอนด์ จบยาวด้วยอบเชย บัตเตอร์ และสไปซีเปปเปอร์
มิชเตอร์ส ยูเอส*1 สมอลล์ แบทช์ 10 เยียร์ โอลด์ เคนตั๊กกี้ สเทรท เบอร์เบิน วิสกี้ (Michter’s US*1 Small Batch 10 Year Old Kentucky Straight Bourbon Whiskey) : เป็นรุ่นที่ผลิตน้อยในจำนวนจำกัด ผ่านการบ่ม 10 ปีในถังที่ผ่านการเผาด้านในและถังโอคอเมริกันใหม่ แอลกอฮอล์ 47.2% เป็นเบอร์เบินสไตล์หนักแน่นหอมกรุ่น …สีทองเข้ม หอมกลิ่นคาราเมล ทอฟฟีกาแฟ ขนมปังกรอบ น้ำเชื่อมเมเปิ้ล วานิลลา ควันไฟ สไปซี จบยาวด้วยวานิลลา สไปซี ความนุ่มเนียนหอมหวาน
นั่นคือส่วนหนึ่งของ “มิชเตอร์ส” โรงกลั่นอเมริกัน วิสกี้ที่เก่าแก่และยึดถือคุณภาพเป็นหลักอย่างเหนียวแน่น..!!!
