“กอส์เซต์” หนึ่งในตำนานแห่งแชมเปญ

Gosset Champagne House

เก่าแก่กว่า 500 ปี

เซลลาร์ที่ลึกลงไปใต้ดิน

เซอเลอบรีส์ โฮเซ 2008

บูทกอส์เซต์ในงาน Vinexpo 2023 สิงค์โปร์

รุ่น กรองด์ มิลเลซีม

รุ่น กรองด์ มิลเลซีม 2015

รุ่น บลอง เดอ บลองส์ เอ็นวี

รุ่นกรองด์ รีเสิร์ฟ เอ็นวี

รุ่นกรองด์ เฮรเสิร์ฟ เอ็นวี

รุ่นกรองด์ โฮรเซ เอ็นวี

ส่วนหนึ่งของห้องหมัก

โฮรเซ รุ่น วินเทจ“แชมเปญ หรือ ชอมปาญ” (Champagne) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีของเครื่องดื่มทั้งมวล” คำว่า “แชมเปญ” อ่านตามสำเนียงอังกฤษ – อเมริกัน ขณะที่ฝรั่งเศสเจ้าของผลิตภัณท์อ่านว่า “ชองปาญ” (Champagne)
คำว่า Champagne มาจากภาษาละตินว่า “กัมปาเนีย” (Campania) แปลว่าทุ่ง หรือดินแดนแห่งหินปูน เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ปลูกอะไรไม่ได้ ขณะเดียวกันที่นี่ยังเป็นสมรภูมิสงครามแทบทุกครั้ง เพราะอยู่ใกล้ปารีส แต่กลับมีเพียงองุ่นเท่านั้นที่สามารถหลั่งรากฝังลึก ทำให้ผู้คนมีชีวิตรอดอยู่ได้
แคว้น Champagne อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีสไปประมาณ 90 ไมล์ เคยผลิตไวน์ขาว ไวน์แดง มากว่า 2000 ปี เพิ่งจะมาผลิต Champagne ในปี 1668 นี่เอง โดยผลิตจากองุ่น 3 พันธุ์หลัก คือองุ่นเขียวชาร์โดห์เนย์ (Chardonnay) และองุ่นแดงอีก 2 พันธุ์คือปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และปิโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier)
“ฟอง” ของ Champagne เป็นฟองที่เกิดตามธรรมชาติของกระบวนการหมักบ่ม และเป็นฟองที่ดื่มแล้วไม่อืดเหมือนฟองจากน้ำอัดลม และ “ฟอง” ของ Champagne เป็นเครื่องชี้วัดอย่างหนึ่งที่บอกได้ว่า Champagne นั้นดีหรือไม่ดี ? ถ้าฟองเล็กละเอียดอ่อนเท่าไข่กบไข่เขียด เมื่อเทลงแก้วแล้วฟองคงอยู่นาน แสดงว่าเป็นของดีมีราคา แต่ถ้าฟองโตและเทลงแก้วปุ๊บหายวูบไปทันทีแสดงว่าเป็นแชมเปญคุณภาพด้อย
ชื่อแชมเปญ (Champagne) ถูกคุ้มครองโดยกฏหมายกรุงมาดริด 1891 (Treaty of Madrid 1891) เกี่ยวกับการผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ในเขตผลิตที่กำหนด (Appellation d’Origine Contrôlée) กฏหมายนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้งโดย (Treaty of Versailles) หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ประเทศต่าง ๆ ให้การยอมรับ กฏหมายดังกล่าวระบุว่าคำว่า Champagne ต้องผลิตในแคว้น (Champagne region) เท่านั้น จึงจะใช้คำว่า Champagne ระบุในฉลากได้ นอกเหนือจากนั้นไม่สามารถใช้ได้
ประการสำคัญ Champagne สามารถรับประทานกับอาหารไทยประเภทซีฟู้ดมีซอสหรือน้ำจิ้มเผ็ด ๆ ได้ดี รวมทั้งอาหารไทบที่ปรุงแบบเผ็ด ๆ เช่น ส้มตำ ยำต่าง ๆ ขณะที่เดือนหน้า กุมภาพันธ์ เป็น “เดือนแห่งความรัก” ท่านที่ต้องการแชมเปญเพ่อเฉลิมฉลอง ขอแนะนำแชมเปญเก่าแก่ระดับตำนานหน้าหนึ่งของแคว้นแชมเปญ..
“กอส์เซต์” (Gosset) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแชมเปญที่เป็นยิ่งกว่าตำนาน เพราะทำแชมเปญมากว่า 500 ปี สืบทอดมาถึงทายาทรุ่นที่ 16
เรื่องราวของ “กอส์เซต์” เริ่มจุดประกายในปี 1584 จากปิแอร์ กอส์เซต์ (Pierre Gosset) ซึ่ง ณ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเทศมนตรีแห่งเมืองแอ (Aÿ) ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ผลิตสติลล์ ไวน์ (Still Wine) ด้วย โดยใช้องุ่นจากไร่ของเขาเองผลิตไวน์แดงเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญไวน์ของเขาถูกเลือกใช้เพื่อเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารของกษัตย์แห่งฝรั่งเศสด้วย
ศตวรรษที่ 18 กาลเวลาเปลี่ยนไป ไวน์ที่ถูกผลิตภายในเมือง Aÿ ส่วนมากได้ผันตัวมาผลิตไวน์ฟอง (Sparkling Wine) รวมทั้ง “กอส์เซต์” ที่สำคัญปัจจุบันแชมเปญ“กอส์เซต์” ยังบรรจุขวดทรงโบราณที่นิยมใช้กันมากในช่วงที่ศตวรรษที่ 18 โดยในปี 1760 ฌอง กอส์เซต์ (Jean Gosset) ทายาทคนต่อมาได้ตัดสินใจเลือกใช้ขวดดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยไม่รู้ว่าจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของแชมเปญกอส์เซต์ตราบจนทุกวันนี้
ปี 1994 ถูกขายให้กับกลุ่มบริษัทเฮรโนด์ คอนโตร (Renaud-Cointreau) ซึ่งเป็นเจ้าคอนยักฟราแปง (Cognac Frapin) ด้วย
ปี 2005 Gosset ผลิตแชมเปญครบ 1 ล้านขวด
ปี 2009 ครบรอบวันเกิด 425 ปี ของ Gosset มีการซื้อที่ในเมืองเออแปร์เนย์ (Epernay) 2 แล้วสร้างเป็นเซลลาร์ใต้ดินความยาว 1.7 กิโลเมตรภายในบรรจุแชมเปญ 2.5 ล้านขวดพร้อมน้ำคูเวอีก 26,000 เฮกโตลิตร
ปัจจุบัน Gosset ซึ่งนำทัพโดยฌอง ปิแอร์ คอนโตร (Jean-Pierre Cointreau) ผลิต Gosset ส่งออก 65% โดยมีขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยซึ่งนำเข้าโดยบริษัท Ambrose Wine & Spirit จำกัด
Gosset ผลิตแชมเปญจากองุ่น 3 พันธุ์เป็นหลักคือ ปินต์ นัวร์ (Pinot Noir) ชาร์โดเนย์ (Chardonnay) และปิโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) โดยรุ่นที่สร้างชื่อมายาวนานคือรุ่น Brut Excellence ซึ่งรสหวานนิด ๆ นอกจากนั้นยังมีรุ่นวินเทจ prestige cuvée คือ Célebris,Grand Millésime Célebris และ Grand Millésime รวมทั้งรุ่นที่เป็นที่ระลึกคือ Quatrième Centenaire เป็นต้น
แชมเปญ ”กอสเซต์” เข้ามาเมืองไทยนานแล้ว อาจจะไม่โด่งดังเหมือนบางยี่ห้อ แต่เป็นที่รู้ในหมู่คนชอบแชมเปญว่านี่คือหนึ่งในแชมเปญคุณภาพจริง ๆ ไม่ได้โด่งดังจากระบบการตลาด
ครั้งล่าสุดที่ผมได้ชิม ”กอสเซต์” มากที่สุดคือในงาน Vinexpo 2023 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อกลางปี 2023 ประมาณ 7-8 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันออกไป ท่านใดที่จะหาแชมเปญสำหรับฉลองวันวาเลนไทน์นี้หรือมอบให้กับคนที่คนรัก แนะนำเป็นโฮรเซ (Rose) ซึ่งมีความหอมหวลเป็นพิเศษ ลองดูว่ารุ่นต่าง ๆ ว่ามีความต่างกันอย่างไร
กรองด์ เฮรเสิร์ฟ บรุต (Grande Réserve Brut) เป็นรุ่นไม่มีวินเทจหรือนอน วินเทจ (Non-Vintage = NV) ทำจากชาร์โดเนย์ (Chardonnay) 46% ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) 39% และปิโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) 15% หลังจากปี 1980 มีการปรับสูตรเป็นปิโนต์ นัวร์ 65% ชาร์โดเนย์ 35% มีทั้งขวดธรรมดา (750 มิลลิลิตร)แม็กนั่ม (Magnum / 1.5 ลิตร) และเฌอโรบูม (Jeroboam / 4.5 ลิตร)….เป็นรุ่นที่หอมผลไม้ เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ซีททรัส ดอกส้ม ขนมปังปิ้ง บอดี้หนักแน่น คอมเพล็กซ์ ฟองละเอียด
กรองด์ โฮเซ บรุต (Grand Rosé Brut) เป็นนอน วินเทจ (Non-vintage) ส่วนผสมเป็นชาร์โดเนย์ 56% และปิโนต์ นัวร์จากเขตกรองด์ ครู 35% อีก 9% เป็นไวน์แดงจาก Bouzyและ Ambonnay รุ่นนี้ทำทั้งขวดธรรมดา แม็กนั่นม และขนาดครึ่งขวดปรกติ (Half / 375 มิลลิลิตร)….เป็นรุ่นที่หอมผลไม้ แอปเปิ้ลเขียว แพร์ พีช เลมอน ดอกไม้ ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ดอกส้ม
กรองด์ มิลเลซีม บรุต (Grand Millésime Brut) เป็นรุ่นที่มีวินเทจ เดิมเบลนด์จากชาร์โดเนย์ 56% และปิโนต์ นัวร์ 44% เป็นองุ่นจากไร่ในเขตกรองด์ ครู (Grand Cru) และเปรอะมิเยร์ ครู (Premier Cru) หลังจากปี 1980 มีการปรับสูตรเป็นปิโนต์ นัวร์ 60% ชาร์โดเนย์ 40%….เป็นรุ่นคอแชมเปญบอกว่าต้องไม่พลาดในการชิม หอมผลไม้ เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี เรดเบอร์รี พีช มิเนอรัล ดอกไม้ ยีสต์หอมกรุ่น พรายฟองละเอียดยิบพริ้ว คอมเพล็กซ์ สมบูรณ์แบบ
กรองด์ บลอง เดอ บลองส์ บรุต (Grand Blanc de Blancs Brut) เป็นรุ่นไม่มีวินเทจ (Non-vintage) ทำทั้งขวดธรรมดาและแม็กนั่ม….เป็นรุ่นที่หอมผลไม้ แพร์ พีช แอปเปิ้ลเขียว ซีททรัส ดอกส้ม ดอกกล้วยไม้ เฮิร์บเขียว ๆ สด ๆ
เซอเลอบรีส์ โฮเซ เอ็กซ์ตรา บรุต (Celebris Rosé Extra Brut) เป็นรุ่นมีวินเทจ เป็นหนึ่งในรุ่นสุดยอดของกอส์เซต์โดยเฉพาะโฮรเซ ทำจากชาร์โดเนย์ 72% ปิโนต์ นัวร์ 28% ตามรูปจะเห็นเป็นวินเทจ 2008 ซึ่งชิมแล้วไม่อยากหยุด ..หอมกลิ่นผลไม้ ราสพ์เบอร์รี เรดเคอร์แรนท์ เกรฟฟรุต เมลอน สตรอว์เบอร์รี เลมอน มิเนอรัล ขนมปังปิ้ง น้ำผึ้ง ครีมมี สไปซีเปปเปอร์ คอมเพล็กซ์ด้วยประการทั้งปวง
ทั้งหมดทั้งมวลนั้นคือส่วนเศษเสี้ยวหนึ่งของ ”กอสเซต์” ซึ่งผลิตแชมเปญมากว่าครึ่งศตวรรษ ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ต้องสอบถามจากผู้นำเข้า บริษัท แอมโบรส ไวน์ แอนด์ สปิริต จำกัด (Ambrose Wine & Spirits Co.,LTD) โทร.02 7198260
********************

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...