“Making a great Cognac is easy.All you need is great-grandfather,a grandfather and a father who have done it before you.”
ฌอง-ปอล คามูส์ (Jean – Pale Camus ทายาทรุ่นที่ 4 ของ “คามูส์” (Camus) หนึ่งในสุดยอดคอนยัคที่เก่าแก่และมีตำนานกล่าวเช่นนั้น เขาเป็นผู้มีส่วนทำให้คามูส์เจริญเติบโตมาจนถึงวันนี้ ด้วยการขยายโรงกลั่น สร้างแวร์เฮาส์ และทำให้คามูส์เป็นผู้นำในตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
คามูส์ (Camus) ก่อตั้งในปี 1863 โดยฌอง บาปตีสต์ คามูส์ (Jean Baptiste Camus :1835-1901) ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตคอนยัคหรือคอนยัค เฮาส์ (Cognac House) ที่ใหญ่ที่สุด และครอบครองโดยตระกูลคามูส์มาจนถึงปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของทายาทรุ่น 5 คือซีริล คามูส์ (Cyril Camus) ที่ยังคงรักษาสิ่งที่บรรพบุรุษยึดถือมาตลอด และบริหารภายใต้ชื่อ“คามูส์ ไวน์ แอนด์ สปิริต” (Camus Wines & Spirits) เนื่องจากมีการขายไวน์และสปิริตต่าง ๆ ด้วย
คามูส์ มีฐานการปลูกองุ่นผลิตบรั่นดีอยู่ในเขตบอร์เดอรีส์ (Borderies) ซึ่งเป็นพื้นที่เล็กที่สุดในจำนวน 6 แคว้นระดับกรองด์ ครูส์ (Grand Crus) ของแคว้นคอนยัคทั้ง 6 เขต (Grand Champagne,Petite Champagne,Fins Bois,Bons Bois,Bois Ordinaires,Borderies) ซึ่งผลผลิตในเขตนี้คิดเป็นเพียง 5% ของการผลิตรวมของทั้ง 6 เขต ทำให้คอนยัคจากเขตนี้หายากและมีราคาค่อนข้างสูง
ในเมืองไทยคามูส์เข้ามาหลายสิบปีแล้ว และได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่มคนรักคอนยัคพอสมควร ส่วนใหญ่คนไทยออกเสียงว่า “คามุส” ขณะที่กิจกรรมต่าง ๆ น้อยมาก แต่ล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา บริษัท อิตาเลเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการได้จัดงานพิเศษแนะนำคามูส์ 5 รุ่น พร้อมดินเนอร์สุดหรูสไตล์ฝรั่งเศส ณ ร้านอาหารลีออง ซอยร่วมฤดี 3
แม็กซองซ์ โกยเนียร์ (Maxence Goinere) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คามูส์ ไวน์ แอนด์ สปิริต กล่าวว่า “ภารกิจของเราคือ การผลิตและจัดจำหน่ายคอนยัคที่ดีที่สุดในโลก ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 150 ปี โดยการจัดงานในครั้งนี้ คือการนำเสนอความหลากหลายในรสชาติของคอนยัคที่เราผลิต และต้องการให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักดื่มที่อยากสัมผัสรสชาติอันละเมียดละไมของคามูส์ ที่มีรสชาติที่น่าอัศจรรย์ของแต่ละรุ่น”
ขณะที่ จักรกฤต เบเนเดทตี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลเซีย เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความต้องการคอนยัคชั้นดีในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้น เพราะคนรักคอนยัคเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดคามูส์โตขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตคอนยัคชั้นนำของโลก โดยทุกรุ่นในงานนี้มีจำหน่ายแล้วในเมืองไทย นับเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสัมผัสรสชาติที่ล้ำลึกของคามูส์”
สำหรับคามูส์ 5 รุ่นที่ได้รับการแนะนำของ แม็กซองซ์ โกยเนียร์ พร้อมจับคู่กับเมนูพิเศษมีดังนี้
คามูส์ บอร์เดอรีส์ วีเอสโอพี (Camus Borderies VSOP) ตัวอักษร V.S.O.P. ย่อมาจาก Very Superior Old Pale หรือ Reserve เป็นการคัดเลือกบรั่นดีที่มีอายุน้อยที่ 4 -6 ปีในถังจากนั้นนำไปบ่มต่อ 12-20 ปี คำนี้เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 1817…เป็นวีเอสโอพี คอนยัค ที่ได้รับรางวัลมากที่สุด และรุ่นนี้ในการผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม 2016 ที่ผ่านมาจะมีรายเซ็นต์ของ Cyril Camus เจ้าของและ Patrick Leger เซลลาร์ มาสเตอร์ ที่บนฉลากด้วย สีส้มแกมทองอำพันเข้ม โดดเด่นด้วยรสชาติที่สดชื่น และหอมหวาน อันเป็นเอกลักษณ์ของเขตบอร์เดอรีส์ หอมกลิ่นผลไม้ เช่น ลูกเกด พลัม สับปะรด บาซามิก โอคกรุ่น ๆ วานิลลา เปลือกส้ม มิเนอรัล ดอกไม้ประเภทดอกส้มและซีทรัส สไปซี่เฮิร์บ จันทร์เทศ อบเชย จบค่อนข้างยาวด้วยสไปซีเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ ผลไม้ …เสิร์ฟกับสลัด (Fresh Mozzarella and Tomatoes Salad with Balsamic Reduction)
คามูส์ บอร์เดอรีส์ เอ็กซ์โอ (Camus Borderies XO) ตัวอักษร X.O. ย่อมาจาก Xtra Old หรือ Napoléon เป็นการผสมผสานบรั่นดีที่มีอายุน้อยที่สุดอย่างน้อย 6 ปีในถัง…ตัวนี้สีเหลืองอำพันเข้มกว่าตัวแรก รสนุ่มนวลเนียน ดมครั้งแรกได้กลิ่นหอมของเนยค่อนข้างชัดเจน ตามด้วยผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี ลูกเกด พรุน และมะเดื่อสุก ๆ ดอกไม้โดยเฉพาะดอกไวโอเลตโดดเด่นที่สุด วานิลลา สไปซีเฮิร์บ อบเชย จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่ และวานิลลา …เสิร์ฟกับเมนูเรียกน้ำย่อย (Grilled Asparagus Topped with Smoked Salmon, Poached Egg and Hollandaise Sauce)
คามูส์ เอ็กซ์โอ เอเลกองซ์ (Camus XO Elegance) เป็นอีกรุ่นที่ขึ้นชื่อของคามูส์ รูปแบบขวดเป็นฝาโลหะสีดำ ทรงดีแคนเตอร์เคลือบเงา พร้อมด้วยลายเซ็นต์ของ Cyril Camus ที่สลักลงบนขวด อันเป็นสัญลักษณ์ Chateau du Plessis ของครอบครัวคามูส์ พร้อม QR Code บนกล่องที่ทำให้ติดต่อคามูส์ได้สะดวก
…สีทองอัมพันค่อนข้างอ่อน หอมกลิ่นดอกไม้ และผลไม้สุก ๆ เช่น พลัม แอปริคอต แบล็คเบอร์รี และแยมแอปเปิ้ล ตามด้วยฮาเซลนัท ถั่วอบเนย สไปซี่เฮิร์บ เช่น ชะเอมเทศ จันทน์เทศ โป๊ยกั๊ก คาราเมล จบยาวด้วยผลไม้สุก สไปซี่เฮิร์บ และวานิลลา เป็นหนึ่งในคอนยัคที่ละเมียดละไมทั้งกลิ่นและรสชาติ….เสิร์ฟกับเมนคอร์ส ดั๊กกงฟีต์ (Duck Confit with Red Curry infushed Cream Sauce) บางคนเลือกแกะ
คามูส์ เอ็กซ์ตร้า เออเลกองซ์ (Camus Extra Elegance) : เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด ตัวนี้ได้ 2 เหรียญทองจากงาน International Wine and Spirit Competition 2016 และ San Francisco World Spirits Competition 2016 บรรจุในขวดรูปทรงดีแคนเตอร์ที่ถูกออกแบบให้ล้ำสมัย…สีทองแกมน้ำตาลทรายแดง ดมครั้งแรกคิดว่าจะหนัก แต่ไม่หนักอย่างที่คิดแถมยังนุ่มเนียน และกลิ่นหอมจรุงมาก โดยเฉพาะผลไม้สุก เช่น พลัม พุทราจีนเชื่อม แบล็คเชอร์รี และลูกเกด ตามด้วยขนมอบ เขย ครีมมี ดอกไม้ เช่น ไวโอเล็ต และดอกฃีทรัส โอคกรุ่น ๆ ควันไฟ ยาสูบ หนังสัตว์ วอลนัท วานิลา สไปซี่เฮิร์บแห้ง ๆ จันทน์เทศ อบเชย จบยาวด้วยผลไม้สุก ๆ ขนมปังกรอบ และสไปซี่เฮิร์บ… เมนูขนมหวาน ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate Dessert)
คามูส์ เอ็กซ์ตร้า ดาร์ก & อินเทนส์ (Camus Extra Dark & Intense) : รุ่นนี้มีอะไรหลายอย่างที่ซับซ้อน โดยเฉพาะกระบวนการผลิต เริ่มจากการเป็น Extra Cognac ที่ต้องบ่มอย่างน้อย 6 ปี โดย Patrick Leger เซลลาร์ มาสเตอร์ จะคัดสรรถังคอนยัคที่ดีที่สุดจากเอ็กซ์ตรา คอนยัค แล้วถ่ายคอนยัคออกจากถัง จากนั้นนำถังไปให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องถังโอคหรือมาสเตอร์ คอปเปอร์ (Master Cooper) รมไฟด้านในถัง ทีละถัง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและมิติของกลิ่นและรสชาติ เมื่อได้โอคตามที่ต้องการแล้วจึงนำคอนยัคใส่กลับเข้าไปใหม่ สุดท้ายเข้าสู่กระบวนการบ่มพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคามูส์ อันเป็นที่มาของรุ่น Dark & Intense…สีทองแกมน้ำตาลสดใส ดมครั้งแรกได้กลิ่นขนมเครม บรูเล (Brème Brûlée) ที่ชัดเจนมาก ตามด้วยเหล้าเครม เดอ คลาสซิส เนย ครีมมี สโมคกี้โอค คาราเมล ตามด้วยผลไม้สุกฉ่ำ เช่น พลัม พรุน ขนมปังขิง ถั่วฮาเซลนัท แมคคาเดเมีย ชอกโกแลต ยาสูบ หนังสัตว์ วานิลลา สไปซีเฮิร์บ จันทน์เทศ ชะเอมเทศ จบยาวด้วยผลไม้สุกฉ่ำหอมหวานคล้าย ๆ แยม สไปซี่เฮิร์บ โอคและวานิลลา เป็นคอนยัคที่ฟูลบอดี้….เสิร์ฟกับของหวาน ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate Dessert) เหมือนตัวที่ผ่านมา ให้ลองเทียบว่าตัวไหนเข้ากันได้ดีกว่า
“Creating Outstanding Cognac” เจตนารมณ์ที่ทายาททุกรุ่นของคามูส์ ยึดถืออย่างเหนียวแน่นมั่นคง….ส่วนหน้าที่ของพวกเราคือ “ดื่มด้วยความรับผิดชอบ”….!!
