โรงแรม แลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ จัดรายการพิเศษฉลองครบรอบ 11 ปี ของห้องอาหารริบรูม แอนด์ บาร์ สเต็กเฮ้าส์ (RR&B) ชั้น 31 กับค่ำคืนแห่งไวน์ “ชาโต ปีฌอง ลองกือวิลล์ กอมเตส เดอ ลาลองด์” (Château Pichon Longueville Comtesse de Lalande) สุดยอดไวน์ชั้น 2 ที่คุณภาพไม่แพ้ชั้น 1 พร้อมไวน์อื่น ๆ ที่จับคู่กับเมนูพิเศษจาก 7 สุดยอดเชฟของโรงแรม ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกในยามค่ำคืน โดยไวน์และอาหารมีดังนี้
ตูแปง,มุสกาเดต์ เซอเฟร เอต์ แมน เอโอซี,ซูร์ ลี,ลัวร์ 2013 (Tupin, Muscadet Sevre et Maine AOC,Sur Lie,Loire 2013) : ไวน์ขาวมุสคาเดต์ ทำจากองุ่นพันธุ์มุสคาเดต์ (Muscadet) แคว้นเบอร์กันดี (Bourgogne) หรือ “เมลง เดอ บูร์กอญ” (Melon de Bourgogne) ซึ่งมาจากเขตยอดเยี่ยมคือเซอเฟร และ แมน เอโอซี (Sevre et Maine AOC) ส่วนคำว่า “ซูร์ ลี” (Sur Lie) หมายถึงไวน์มุสกาเดต์ที่คุณภาพเหนือชั้นขึ้นมาอีก เป็นกระบวนการหมักบ่มร่วมกับซากหรือกากยีสต์ในถังไม้โอคเป็นเวลา 6 เดือน ทำให้รสชาติของไวน์เข้นข้นหนักแน่นกว่าไวน์เขตอื่น
ดื่มเป็นรีเซฟชั่นกับของกินเล่น เช่น Lemongrass chicken lollypop, mince prawn on toast, betel leaf with condiments : ไก่ตะไคร้,ขนมปังหน้ากุ้ง,เมี่ยงคำ ฝีมือแม่ครัวไทย เชฟบังอร นาคหรั่ง (Bang-Orn Narkrung)
ฟรังซัวส์ ปาเกต์ “เลส์ อาร์มานีย์ส”,ชาบลีส์ เอโอซี 2013 (Francois Paquet,”Les Armanys”,Chablis AOC 2013) : ชาร์โดห์เนย์ที่ดื่มง่าย ๆ สบาย ๆ สีเหลืองทอง หอมกลิ่นผลไม้กรุ่น ๆ สับปะรัด เลมอน และแอปเปิ้ลเขียว ครีมมี ขนมปังกรอบ โอคกรุ่น ๆ เฮิร์บสด ๆ แอซสิดปานกลาง มีเดียม บอดี้ จบด้วยผลไม้และโอค
จับคู่กับ Beef Carpaccio,blueberry rosemary honey dressing crispy artichoke chips,radicchio : เนื้อสดสไลด์เสิร์ฟกับซอสน้ำผึ้งบลูเบอร์รี่ โรสแมรี่ อาร์ติโชคแผ่นทอดกรอบ และแรดิชชิโอ โดยเชฟ Francesco Betoli
ชาโต บาสซัส,บอร์กโดซ์ เอโอซี 2012 (Chateau Bassac,Bordeaux AOC 2012) : ไวน์ชาโตเล็ก ๆ แต่คลาสสิค ซึ่งนักชิมระดับโลกหลายคนชิมแล้วยกหัวแม่มือให้ที่สำคัญเคยได้รับเหรียญทองจากงาน Le Concours General Agricole de Paris 2009 เจ้าของคือตระกูล Bassac อยู่ในหมู่บ้าน Sainte-Foy ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 75% และกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 25%…สีแดงค่อนข้างเข้มและสดใสมีกลิ่นหอมของผลไม้สุกผสมผสานกับแยมผลไม้ เช่น พลัม แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี และแบล็คเชอร์รีสไปซี เฮิร์บ อบเชย จันทร์เทศ กาแฟคั่ว แทนนินนุ่มหวาน แอซสิดกำลังพอดี จบด้วยแยมผลไม้และเฮิร์บ กำลังดื่มอร่อย
จับคู่กับ Baked Boston Lobster,Sichuan spicy sauce,wild mushroom in tomato cup prawn in yellow mustard sauce and steamed sea scallop dumpling : บอสตัน ล็อบสเตอร์จากประเทศแคนาดาอบกับซอสเสฉวน เห็ดป่า ซอสมัสตาร์ด และหอยเชลล์นึ่ง โดยเชฟ Wai Ming Lo
ชาโต ปองตาซ ลีนช์ มาร์โกซ์ ครู บูร์ฌัวส์ 2014 (Château Pontac Lynch Margaux Cru Bourgeois 2014) : ไวน์จากไร่ 7 เฮกตาร์ที่ได้ครู บูร์ฌัวส์ มาตั้งแต่ปี 1932 หลังจากก่อตั้งมาในปี 1720 อยู่ใน ต.มาร์โกซ์ ที่น่าสนใจคือล้อมรอบไปด้วยชาโตระดับบิ๊กๆ เช่น ชาโต มาร์โกซ์ (Château Margaux) 1 ใน 5 เสือบอร์กโดซ์,ชาโต ปาลแมร์ (Château Palmer),ฮรูซาน เซกลา (Rauzan Ségla) และชาโต ดีสซาน (Château d’Issan) ปัจจุบันบริหารโดย Marie-Hélène Falleur Bondon ทายาทรุ่นที่ 3
ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยง แมร์โลต์ และกาแบร์เนต์ ฟรัง อายุเฉลี่ยประมาณ 35 ปี หมักในถังคอนกรีตแล้วบ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศส…สีแดงเข้มโกเมน แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มจะนุ่ม แอซสิดดีมาก จบด้วยผลไม้ เฮิร์บ และมิเนอรัล ยังไม่เปิดเผยตัวเต็มที่นัก น่าจะอีกประมาณ 5-6 ปีเป็นอย่างน้อย
จับคู่กับ Duck breast tajin,pumpkin,date,cinnamon,serve with couscous : อกเป็ดตุ๋นซอสทาจิน ฟักทอง อินทผาลัม และอบเชย เสิร์ฟกับคูสคูส โดยเชฟ Nidal Kiwan
มาถึงตัวพระเอกของงาน ชาโต ปีฌอง ลองกือวิลล์ กอมเตส เดอ ลาลองด์ 2005 (Chateau Pichon Longueville Comtesse de Lalande 2005) : ไวน์ชั้น 2 ตามบัญชีเมด็อก 1855 แต่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองชั้น 1 นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ชาโต ปีฌอง ลาลองด์” (Chateau Pichon Lalande) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 45%, แมร์โลต์ (Merlot) 35%,กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 12%, และเปต์ตี แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 8%
สีแดงเข้ม กลิ่นหอมผลไม้สุกอบอวลมาก เช่น พลัม แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี และราสพ์เบอร์รี ดอกไม้คล้าย ๆ ดอกกุหลาบ ซีทรัส ไม้ซีดาร์ เค้กผลไม้ สไปซี เฮิร์บ อบเชย ชะเอมเทศ มินต์ เอิร์ธตี้ มิเนอรัล แทนนินหนักแน่นแต่สุกนวลเนียน บอดี้หนักแน่นแต่มีแอซสิดที่ยอดเยี่ยมมาช่วยให้ดื่มอร่อย จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล และซีดาร์เป็นวินเทจที่โครงสร้างสมดุลและคอมเพล็กซ์ กำลังเริ่มดื่มได้อร่อย
Chateau Pichon Longueville Comtesse de Lalande นั้นมีชาโตที่เป็นญาติพี่น้องกันคือ “ชาโต ปิฌอง – ลองกือวิลล์ บาฮรอง” (Chateau Pichon – Longueville Baron) ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ชาโต ปิฌอง บาฮรอง” อยู่ฝั่งตรงข้ามกันมีถนนสาย D2 คั่นกลาง ทั้งคู่อยู่ใน ต.ปูญาค (Pauillac) อ.เมด็อก (Medoc) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) เป็นชาโตเก่าแก่ที่มีกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
จับคู่กับเมนคอร์ส Slow cooked dry aged Australian wagyu sirloin,Celery and apple gratin,Melba toast of marrow bone,Bordelaise sauce เนื้อวากิวสันนอกจากออสเตรเลียกับคื่นไช่และแอปเปิ้ลอบ เสิร์ฟกับไขกระดูกวัวผัด พร้อมซอสบอร์เดอร์เลสจากหอมแดงและไวน์แดง โดยเชฟใหญ่ Philippe Gaudal
ปิดท้ายด้วย ชอมปาญ มงโตดอง รีเสิร์ฟ เปรอะมิเยร์ บรุต เอ็นวี (Champagne Montaudon Réserve Première Brut NV) : ชอมปาญ เฮาส์ที่ผู้ก่อตั้งยังทำกันเองในครอบครัวซึ่งปัจจุบันเหลือน้อย ทำจากปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ชาร์โดห์เนย์ (Chardonnay) และปีโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier)…สีทองอ่อน ๆ สดใส พรายฟองละเอียดอ่อน กลิ่นหอมยีสต์ ดอกไม้ มะม่วงหิมพานต์ เลมอน ซีทรัส แอปเปิ้ล แพร์ น้ำผึ้ง สไปซี ครีมมี แอซสิดีมากดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยยีสต์ ซีทรัส และมะม่วงหิมพานต์
จับคู่กับของหวาน Pink biscuit from Reims,raspberry mousse,mandarine Champagne sherbet,Berries compote ราสเบอร์รี่มูสเสิร์ฟกับบิสกิตจากเมืองแร็งส์ ประเทศฝรั่งเศส คู่กับส้มแมนดารินและแชมเปญเชอร์เบท พร้อมเบอร์รี่ที่ทำโดยเชฟ Jean Marc Breney
นั่นคือไวน์และอาหารฉลองครบรอบ 11 ปี ของห้องอาหารริบรูม แอนด์ บาร์ สเต็กเฮ้าส์ (RR&B) ของโรงแรม แลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ ส่วนท่านที่พลาดคงต้องรอพบกันในการฉลองครบรอบ 12 ปี