“ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์” : อีกหนึ่งเสน่หาแห่งไวน์ฝั่งขวา

“ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์”
หนึ่งเสน่หาแห่งไวน์ฝั่งขวา
ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์ (Château Beau-Séjour Bécot) เป็นไวน์ที่เข้ามาเมืองไทยนานมากแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ผมเคยชิมและเขียนไวน์ตัวนี้ครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2538-9 ตอนนั้นเป็น Saint-Émilion Grand Cru ผมได้ชิมวินเทจ 1989 ปัจจุบันเป็น 1 ใน 14 ของเปรอะมิเยร์ แซงเตมิยอง กรองด์ กรู กลาสเซ กลุ่ม บี (Premier Saint-Émilion Grand Cru Classé group B)
ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์ ตั้งอยู่ ณ ที่ราบแซงต์ มาร์แตง เดอ มาเซอฮรัต (St. Martin de Mazerat) ทางตะวันตกของตัวเมืองเก่า และตั้งอยู่ใจกลางเขตควบคุมการผลิตไวน์แซงเตมิยอง เอโอซี (Saint Emilion Appellation) เรียกว่าเป็นไวน์ “ฝั่งขวา” (Right Bank) ขณะที่เขตปกครองคือ ต.แซงเตมิยอง อ.เมด็อก เมืองบอร์กโดซ์ และดีพาร์ตเมนต์ ฌีฮรองด์ (Gironde Department )
ชาโตเก่าแก่แห่งนี้มีกำเนิดในยุคกลาง โดยพระในอาราม St. Martin de Mazerat ดังกล่าวข้างต้น ก่อนจะมาปรากฏหลักฐานการครอบครองจริง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เริ่มจากตระกูล Gerès ที่เรียกชื่อว่า Peycoucou กระทั่งปี 1787 นายพล Jacques de Carles เข้ามาครอบครอง และเปลี่ยนชื่อเป็น Beau-Séjour และในปี 1979 ตระกูล “เบโคต์” (Bécot) เข้ามาซื้อไร่ขนาด 4.5 เฮกตาร์บนที่ราบ Trois Moulins ของ Beau-Séjour พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น Château Beau-Séjour Bécot ทำให้พื้นที่ในปัจจุบันเป็น 16.6 เฮกตาร์
หลังจากนั้น Pierre-Paulin Ducarpe เข้ามาครอบครอง ปี 1869 จึงแบ่งทรัพย์สมบติให้กับลูก 2 คน ลูกสาว Duffau-Lagarosse ตั้งชื่อเป็น Château Beauséjour-Duffau-Lagarrosse เรียกสั้น ๆ ว่า Château Beauséjour ขณะที่ส่วนของลูกชายเขาขายให้กับ Dr. Fagouet ในปี 1924 และถูกตั้งชื่อว่า Château Beauséjour-Dr-Fagouet กระทั่งปี 1969 Michel Bécot มาซื้อกิจการ และเปลียนชื่อเป็น ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์ (Château Beau-Séjour Bécot) กระทั่งปัจจุบัน และบริหารต่อโดยลูกชายของเขา Gérard และ Dominique Bécot ล่าสุดปี 2014 ฌูเลียตต์ เบโกต์ (Juliette Becot) ลูกสาวของ Gérard มาบริหารแทนพ่อพร้อมด้วยฌูเลียง บาธ (Julien Barthe) ไวน์เมกเกอร์
ปี 1985 คณะกรรมการ INAO (Institut national de l’origine et de la qualité) ซึ่งมีหน้าที่ดูและควบคุมคุณภาพไวน์ฝรั่งเศส มีมติให้ทบทวนเกรดไวน์ของแซงเตมิยอง (Classification of Saint-Émilion) และลดเกรด Château Beau-Séjour Bécot จาก Premier Grand Cru Classé ลงไปอยู่ Grand Cru Classé ซึ่ง Beau-Séjour Bécot ได้มาในปี 1979 เพราะทำบางอย่างผิดกฏ ก่อนจะกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งในการจัดบัญชีปี 1996 จนถึงปัจจุบัน
Chateau Beau-Séjour Bécot มีพื้นที่ปลูกองุ่น 16.6 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) โดยปลูกแมร์โลต์ (Merlot) 70% กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 24% และกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 6% ผลิตไวน์ตัวหลักคือ Château Beau-Séjour Bécot และไวน์ฉลากสอง ตูร์เนลล์ เดอ โบ-เซโฌ เบโกต์(Tournelle de Beau-Séjour Bécot) ผลผลิตรวมปีละประมาณ 5,000 ลัง
นอกจากนั้นยังมีรุ่นชาโต ลา กอเมอฮรี (Chateau la Gomerie) เป็นไวน์เกรด Saint-Émilion Grand Cru ที่ตระกูล Bécot ซื้อมาในปี 1995 มีพื้นที่ 2.5 เฮกตาร์ ผลิตไวน์สไตล์การาจ ไวน์หรือ “ไวน์โรงรถ” (Garage Wine / Vin de Garage) ทำจากแมร์โลต์ 100 % ผลิตปีละประมาณ 1,000 ลัง และมีไวน์ฉลากสองชื่อ มัดมัวเซล ลา กอแมฮรี (Mademoiselle La Gomerie)
ครั้งแรกที่ชิม Chateau Beau-Séjour Bécot ผมพบกับ ฌูเลียตต์ เบโกต์ (Juliette Becot) ลูกสาวของ Gérard เดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ครั้งล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้ชิมกับฌูเลียง บาธ (Julien Barthe) ในงาน “Chateau Beau-Séjour Bécot Wine Dinner” ที่ห้องเมดิสัน โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ มีไวน์ทั้งตัวหลักและตัวรองให้ชิมและจับคู่กับอาหารดังนี้
อินสตานต์ เบโกต์ ฟามิลล์ เบโกต์ 2014 (Instant Becot,Famille Becot 2014) : ไวน์สไตล์โมเดิร์น ดื่มง่าย ๆ สบาย ๆ ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 70% ที่เหลือเป็นกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) สีแดงสดใส มีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น พลัม แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี สไปซีเฮิร์บ เปปเปอร์ แทนนินปานกลาง แอซสิดค่อนข้างสูง จบปานกลางด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ สามารถดื่มไดในตอนนี้ แต่อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก….17/20 คะแนน
ชาโต ฌัวแนง เบโกต์,โก๊ต เดอ กาสติลยอง 2010 (Château Joanin Bécot,Côtes de Castillon 2010) : ไวน์ในเครือที่อยู่ในเอโอซี AOC Côtes de Castillon ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 75% และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 25% ….สีแดงเข้มขอบบราวน์นิด ๆ ดมครั้งแรกได้กลิ่นบัลซามิก แต่สักครู่ก็หายไปแล้วมีกลิ่นผลไม้สุก เช่น พลัม พุทราเชื่อม แบล็คเบอร์รี แครนเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี วานิลลา ครีมมี มอคคา เมนธอล สไปซีโอค จันทร์เทศ พริกไทยขาว ดอกไม้ แทนนินแน่นและสุก มิเดียมบอดี้ จบยาวด้วยผลไม้สุกและสไปซีเฮิร์บ กำลังสุกพร้อมดื่ม
ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์,เปรอะมิเยร์ กรองด์ กรู กลาสเซ,แซงเตมิยอง,บอร์กโดซ์ 2014 (Chateau Beau-Sejour Becot,Premier Grand Cru Classe,St. Emilion,Bordeaux 2014) : เป็นวินเทจที่ Juliette Becot และ Julien Barthe เข้ามาทำหน้าที่บริหารอย่างเต็มตัว ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 87%,กาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 9 % และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 4% สีแดงเข้มมีประกายสดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น พลัม แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และสตรอว์เบอร์ รีกรุ่น ๆ ไวโอเลต โอคหอมหวาน มินต์ซ่า ๆ วานิลลา มิเนอรัล มอคคา หนังสัตว์ใหม่ ๆ มิเดียมบอดี้ จบยาวด้วยผลไม้ สไปซีและมินต์ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะเริ่มดื่มได้ในอีกประมาณ 5-6 ปีเป็นต้นไป…18.5/20 คะแนน
ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์,เปรอะมิเยร์ กรองด์ กรู กลาสเซ,แซงเตมิยอง,บอร์กโดซ์ 2010 (Chateau Beau-Sejour Becot,Premier Grand Cru Classe,St. Emilion,Bordeaux, 2010) : ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 70%,กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 24% และกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 6 % อายุองุ่นประมาณ 40 ปี สีแดงค่อนข้างเข้ม เข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และลูกเกด แยมเชอร์รี ควันไฟ โอคกรุ่น ๆ วานิลลา เอสเปรสโซ่ ชอกโกแลต แถมมีกลิ่นดอกไม้กรุ่น ๆ สไปซีเฮิร์บ จันทร์เทศ มิเนอรัล แทนนินสุกหวาน แอซสิดดีดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้สุก และสไปซี กำลังเริ่มดื่มได้พอดี แต่อาจจะยังไม่เต็มที่ อีก 2-3 ปีน่าจะอร่อยกว่านี้…..18/20 คะแนน
ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์,เปรอะมิเยร์ กรองด์ กรู กลาสเซ,แซงเตมิยอง,บอร์กโดซ์ 1996 (Chateau Beau-Sejour Becot,Premier Grand Cru Classe,St. Emilion,Bordeaux,1996) : เป็นหนึ่งในวินเทจยอดเยี่ยมของเขา นับถึงวันนี้ก็ 17 ปีแล้ว ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 70%,กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 24% และกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 6 % …สีแดงบาง ๆ ขอบบราวน์ ดมครั้งแรกได้กลิ่นคล้าย ๆ มะกอกดองและมบชาแห้ง ๆ หลังจากนั้นจึงมีกลิ่นนหอมผลไม้สุกฉ่ำ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พรุน ลูกเกด ทรัฟเฟิล ยาสูบ ใบชาแห้ง ๆ โอคกรุ่น ๆ สไปซี เฮิร์บ พริกหยวก แทนนินค่อนข้างเบาบางและหอม มิเดียมบอดี้ จบปานกลางด้วยผลไม้สุกฉ่ำและเฮิร์บชุ่มคอ….18/20 คะแนน
“ชาโต โบ-เซโฌ เบโกต์” (Château Beau-Séjour Bécot) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์แบบครอบครัวของไวน์ฝั่งขวา ที่ยังรักษาคุณภาพและเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างดี ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน.
ST2

Chateau-Beau-Sejour-Becot

IMG_4415

Instand Becot 2014

Instant Becot 2014

ครอบครับ Beau sejour becot

ส่วนหนึ่งของถังบ่ม

Ch.Beau-Séjour Bécot 1996

Ch.Beau-Sejour Becot 2010

Ch.Beau-Séjour Bécot 2014

Ch.Joanin Bécot 2010

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...