“ติญยาเนลโล” ปลอมขายในสวิส-เยอรมนี

ห้องบ่มไวน์

Giacomo Tachis เจ้าพ่อซูเปอร์ ทัสคัน

Marchese Piero Antinori กับลูกสาว 3 คน

Marchese Piero Antinori

Sassicaia ต้นแบบของซูเปอร์ ทัสกัน

Tenuta Tignanello

Tignanello 2007

ถังสแตนเลส

บ่มในถ้งบาร์ริก

หนึ่งในตำนาน
เจ้าหน้าที่อิตาลีจับ 3 ผู้ร้ายในแวดวงไวน์ พร้อมไวน์ “ติญยาเนลโล” (Tignanello) ตำนานไวน์ “ซูเปอร์ ทัสกัน” (Super Tuscan) ปลอมกว่า 11,000 ขวด โดยเจ้าหน้าที่จับได้เมื่อกลาง ๆ เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่รอผลการยืนยันจากผู้ผลิต กระทั่งล่าสุดได้รับการยืนยันจาก อเลสซี อันติโนริ (Alessia Antinori) รองประธานของบริษัท มาร์เคซี อันติโนริ (Marchesi Antinori) เจ้าของและผู้ผลิต ยืนยันว่าวินเทจที่ปลอมคือ 2009,2010 และ 2011 ภายในขวดเป็นไวน์คุณภาพต่ำ ส่งไปขายในเบลเยี่ยมและเยอรมัน เป็นหลัก
ไวน์ปลอมดังกล่าวในฉลากระบุว่าผลิตในประเทศจีน (Produced in China) แทนที่จะเป็นแหล่งกำเนิดจริงของ Tignanello ในประเทศอิตาลี นอกจากนั้นในฉลากยังมีคำที่สะกดผิดคือ “alditudine” ทั้งที่จริงต้องเป็น “altitudine” (altitude) เป็นต้น
สำหรับผู้ร้ายในวงการไวน์ทั้ง 3 คนประกอบด้วยมัตเตโอ ฟาซซี (Matteo Fazzi) อายุ 31 ปี,มาเรีย อเลสซานดรา โมรินี (Maria Alessandra Morini) วัย 57 ปีแม่ของมัตเตโอ และแซร์จิโอ ปาปา (Sergio Papa) วัย 54 ปี ปัจจุบันทั้งหมดยังนอนอยู่ในคุก
ขณะที่อัยการเมืองปาร์มา (Pama) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งชาติอิตาลี มีคำสั่งยังไม่ให้เปิดเผยขวดไวน์ปลอมดังกล่าว แต่ทั้งหมดตกอยู่ในการดูแลของตำรวจ อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานว่าไวน์ปลอมพวกนี้ ถูกขายออกไปแล้วกี่ขวด
ไวน์พวกนี้ดื่มแล้วไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เพราะไม่ได้ใช้สารเคมีหรือแอลกอฮอล์ประเภทที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ใช้ไวน์แดงจริง ๆ เป็นไวน์แดงราคาถูก ๆ มาบรรจุขวดแล้วปิดฉลากเป็น Tignanello แต่ปัญหาใหญ่คือเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจและวงการไวน์อย่างมหาศาล
บริษัท มาร์เคซี อันติโนริ เริ่มหาทางป้องกันการปลอมแปลงไวน์ราคาแพงในเครือมาหลายปีแล้ว สำหรับ Tignanello เริ่มด้วยวินเทจ 2013 มีการพิมพ์โลโก้ตัวนูนบนขวด ต่อมาวินเทจ 2015 ก็ทำให้คำว่า Tignanello เป็นตัวนูนขึ้นมา และวินเทจ 2016 มีการใช้ฉลากขนาดเล็กบนข้างชวด เป็นต้น
ทำไมต้องปลอม “ติญยาเนลโล”…?
ต้องย้อนไปดูกำเนิดของ Tignanello และก็ต้องนับย้อนไปถึงกำเนิดของ “ซูเปอร์ ทัสกัน” ตัวพ่อ” นั่นคือ ซาสซิกายา (Sassicaia) ที่บริษัท เตนูตา ซาน กุยโด (Tenuta San Guido) ผลิตขึ้นในปี 1968 ซึ่งถือเป็นการจุดประกายให้เหล่าผู้ผลิตไวน์ใน ทัสคานี (Tuscany) ที่ก้มหน้าก้มตาทำไวน์เคียนติ (Chianti) แบบดั้งเดิม คิดใหม่ ทำใหม่ และ “มาร์เคซี อันติโนริ” (Marchesi Antinori Srl) ผู้ผลิตไวน์เก่าแก่แห่งเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
Marchesi Antinori Srl เริ่มทำไวน์มาตั้งแต่ปี 1385 นับถึงวันนี้ก็ 634 ปี จนได้รับการประกาศว่าเป็น 1 ใน 10 ไวเนอะรีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก พร้อมกับเป็น 1 ใน 12 ของสมาชิกผู้ผลิตไวน์แบบครอบครัว (Primum Familiae Vini = PFV) ที่ยังทำไวน์มาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนเจ้าของเลย ปัจจุบันนำทัพการบริหารโดย มาร์เคเซ ปิเอโร อันติโนริ (Marchese Piero Antinori) นับเป็นทายาทรุ่นที่ 26 นอกจากทำไวน์ทัสกานี (Tuscany) แล้ว ยังขยายอาณาจักรไปตามแคว้นต่าง ๆ ของอิตาลี และยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปลงทุนทำไวน์ในต่างแดนอีกหลายต่างประเทศ
มาร์เคเซ ปิเอโร อันติโนริ ที่มารับหน้าที่ต่อนิกโกโล อันติโนริ (Niccolò Antinori) ผู้เป็นพ่อตั้งแต่ปี 1966 ได้นำเอานวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาพัฒการปลูกองุ่นและการทำไวน์หลายอย่าง เช่น เช่น การเก็บเกี่ยวองุ่นขาวก่อนกำหนด,การใช้ถังสแตนเลส (Stainless Steel) หมักไวน์,การใช้ถังบาร์ริก (Barrique) ขนาดต่าง ๆ และการหมักไวน์แดงแบบมาโลแลคติค (Malolactic Fermentation) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามว่ากันว่าการปฏิวัติที่แท้จริง เกิดขึ้นในปี 1971 เมื่อเขาเปิดตัว Tignanello ซึ่งนำกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet sauvignon) และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) มาเป็นส่วนผสมของซานโจเวเซ (Sangiovese) ซึ่งในปี 1970 เป็น
ไวน์เคียนติ คลาสสิโก ริแซร์วา วินเยโต ติญยาเนลโล ดีโอซีจี (Chianti Clasico Ris. Vigneto Tignanello DOCG) โดยมี “เจียโกโม ทาคิช” (Giacomo Tachis) เจ้าของฉายา “บิดา ซูเปอร์ ทัสกัน” (The Father of Super Tuscan wines) เป็นไวน์เมกเกอร์
Tignanello เป็น “ไวน์ซูเปอร์ ทัสกัน” ฉลากแรกที่ใช้องุ่นพันธุ์ซานโจเวเซ(Sangiovese) ที่เกิดขึ้นในเขตเคียนติ คลาสสิโก (Chianti Classico Zone) กลายเป็นต้นแบบให้ผู้ผลิตอีกหลายรายผลิตตาม รวมถึงการบ่มในถังบาร์ริก (Barrique) หรือถังโอคขนาดเล็กความจุ 225 – 300 ลิตร จากเดิมที่บ่มในถังโอคขนาดใหญ่ เป็นต้น
หลังปี 1982 เป็นต้นมาส่วนผสมของ Tignanello เป็นซานโจเวเซ (Sangiovese) 85% ,กาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 10% และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 5% เป็นองุ่นจากไร่ 47 เฮกแตร์ ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,150–1,312 ฟีต ในซานตา คริสตินา (Santa Cristina) ที่รู้จักกันในนามเตนูตา ติญยาเนลโล (Tenuta Tignanello)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้ชิม อันติโนริ “ติญยาเนโล” ตอสกานา ไอจีที 2007 (Antinori Tignanello Toscana IGT 2007) : ทำจากซานโจเวเซ (Sangiovese) 80%,กาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) 15% และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 5% จากไร่ Tuneta Tignanello องุ่นทั้ง 3 ชนิดจะถูกแยกกันหมักแบบมาโลแลคติค (malolactic fermentation) และบ่มในถังโอคขนาดเล็ก โดย Sangiovese บ่มในโอคฝรั่งเศสขนาด 300 ลิตร (1/3 เป็นโอคใหม่) ส่วน Cabernet Sauvignon และ Cabernet Franc บ่มในถังโอคฝรั่งเศสขนาด 225 ลิตร (ใหม่100%) ก่อนจะนำมาเบลนด์กันแล้วบ่มในถังไม้โอค 12 เดือน หลังบรรจุขวดแล้วบ่มอีก 1 ป
Tignanello 2007 สีแดงเข้ม ขอบบราวน์นริด ๆ อบอวลด้วยกลิ่นผลไม้สุก ๆ เช่น แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เรดเชอร์รี และสตรอว์เบอร์รีกรุ่น ๆ ทรัฟเฟิล ลิเคียวร์ ควันไฟ ซีดาร์ สไปซีเปปเปอร์ ยาสูบ วานิลลา ควันไฟ มินต์ มิเนอรัล ชอกโกแลต โครงสร้างยอดเยี่ยม แทนนินนุ่มเนียน แอซสิดยังดี จบยาวด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บ
นั่นคือส่วนหนึ่งของตำนานแห่งความยิ่งใหญ่ของ Tignanello จึงไม่แปลกใจที่มีผู้ไม่หวังดีอยากจะปลอมกันเยอะ..!!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...