”บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์” แชมเปญแห่งตระกูลร็อธชิลด์

รุ่น Brut NV

รุ่น Extra Brut

3 ทายาท 3 ชาโตจับมือกัน

Blanc de Blancs Brut NV

Blanc de Blancs

Bodega Flechas de los Andes

Brut

Extra Brut

Flechas De Los Andes Gran Corte

Flechas De Los Andes Gran Malbec

Frederic Mairesse กับผู้เขียน

Frederic Mairesse

La Maison Barons de Rothschild

LaMaison-Barons-de-Rothschild-2

LaMaison-Barons-de-Rothschild-4

LaMaison-BDR-09

LaMaison-BDR-10

Mellesime 2010

MILLESIME 2010

Rose

Wagyu Duo ที่จับคู่กับไวน์แดง 2 ตัว

แชมเปญที่รอการหมักครั้งที่ 2 ในขวด

เซลลาร์ใต้ดิน

รุ่น Brut NV
ตระกูล “ร็อธส์ไชลด์” (The Rothschild) นั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ย้อนไปเมื่อประมาณ 200 กว่าปีที่แล้วน้อยคนที่จะไม่รู้จักโดยเฉพาะในยุโรป ขณะที่ชาวโลกรวมทั้งคนไทยรู้จักกันดี 2 จากไวน์ชื่อดังคือ ชาโต ลาฟิต ร็อธส์ชิลด์ (Château Lafite Rothschild) และชาโต มูตง ร็อธชิลด์ (Château Mouton Rothschild) ซึ่งจริง ๆ แล้วตระกูลนี้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการเงินการธนาคร และการจัดการสินทรัพย์มาก่อน ปัจจุบันก็ยังมีกิจการธนาคารอยู่ กระทั่งแกนนำของตระกูลถึงกับออกปากกับทายาทรุ่นหลัง ๆ ว่า “ตระกูลร็อธไชลด์ ต้องเก่ง 2 อย่างคือการเงินการธนาคารและการทำไวน์”
สาแหรกของตระกูลร็อธไชลด์นั้นประกอบด้วยหลัก ๆ 5 พี่น้อง แบ่งแยกกันออกไปเติบโตในประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ดังนั้นกิจการใด ๆ ของตระกูลจึงมีสัญลักษณ์ของ “ลูกธนู 5 ดอก” ติดไว้เสมอ แน่นอนลูกธนูที่ยิงออกไปสุดลูกหูลูกตา ย่อมจะนำมาเล่าสู่กันไม่รู้จบ ยิ่งเทียบกับเวลา ณ วันนี้เป็นเวลากว่า 250 ปียิ่งไม่รู้ตอนจบ
เอาเฉพาะเรื่องไวน์ดีกว่าที่เกี่ยวข้องกับไวน์เต็ม ๆ คือบาฮรง เจมส์ ร็อธส์ไชลด์ (Baron James Rothschild) แห่ง ชาโต ลาฟิต ร็อธชิลด์ (Château Lafite Rothschild) ตามมาด้วยนาธาเนียล เดอ ร็อธส์ไชลด์ Nathaniel de Rothschild) แห่งชาโต มูตง ร็อธชิลด์ (Château Mouton Rothschild) และบาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Edmond de Rothschild) แห่งชาโต คลาร์ก (Château Clarke) ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 ชาโต อยู่ภายใต้การบริหารของลูก ๆ หลาน ๆ
ในจำนวนนี้เชื่อว่าทุกคนจะต้องคิด 2 ชาโตแรกร่ำรวยมหาศาลที่สุด ด้วยชื่อเสียงและไวน์ที่เป็นถึงระดับ 5 เสือบอร์กโดซ์ แทบจะไม่มีใครรู้ว่าบาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Edmond de Rothschild) เจ้าของ Château Clarke ที่ชื่อชั้นเทียบกับ 2 ชาโตแรกไม่ได้ เป็นคนที่มีทรัพย์สินมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า “The Groupe Edmond de Rothschild” เมื่อปี 1953 ดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ในระดับนานาชาติในตระกูล และหนึ่งจำนวนนั้นคือ ”แชมเปญ” (Champagne)
ส่วนใหญ่จะคิดว่า ”แชมเปญ” เป็นธุรกิจใหม่ของตระกูล เพราะที่ผ่านมาได้ยินและได้ชิมแต่สติลล์ ไวน์ (Still Wine) ไวน์ขาว ไวน์แดง และโรเซ ไม่เคยได้ชิมไวน์ฟอง (Sparklig) ของเขา ซึ่งจริง ๆ แล้วตระกูลนี้เริ่มกับแชมเปญด้วยการถือหุ้นในแชมเปญเฮ้าส์แห่งหนึ่งในปี 1945 ก่อนจะมาเริ่มจริงจังในปี 2003 เป็นต้นมา และพัฒนาจนเจริญเติบโตมาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน และนำมาสู่ตลาดเมืองไทยโดยบริษัท Bangkok Liquor จำกัด
ก่อนโควิด – 19 (COVID-19) จะเข้ามาเยือนประเทศไทยไม่กี่เดือน บริษัท Bangkok Liquor จำกัด ได้จัดงานไวน์ดินเนอร์ที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ภายใต้ชื่อ “Barons de Rothschild Champagne & Flechas de los Andes Wine Dinner” จับคู่แชมเปญกับอาหารและไวน์แดง 2 ตัวจาก “โบเดกา เฟลชาส เดอ ลอส แอนเดส”(Bodega Flechas de los Andes” โดยมีเฟเดอฮริซ เมเฮรสส์ (Frederic Mairesse) CEO ของ Champagne Barons de Rothschild เดินทางมาแนะนำแชมเปญด้วยตัวเอง ดังนี้
แชมเปญ บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์ บรุต เอ็นวี (Champagne Barons de Rothschild Brut NV) : เสิร์ฟเป็นรีเซฟชั่น และก็เป็นรีเซฟชั่นที่เพลิดเพลินดีจริง ๆ Brut คือแชมเปญที่มีความหวาน 6-12 กรัม/ลิตร เป็นแชมเปญสไตล์ Rich & Complex เบลนด์จากองุ่นชาร์โดเนย์ 60% จากพื้นที่โก๊ต เดส์ บลังส์ กรองด์ กรูส์ (Côte des Blancs Grands Crus) และเปรอะมิเยส์ กรูส์ (Premiers Crus) อีก 40% เป็นปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) จากแฟร์เซนเนย์ (Verzenay) แอย์ (Ay)มาฮรีล ซูร์แอย์ (Mareuil-surAy) และอามบงเนย์ (Ambonnay)….สีทองอ่อน ๆ แกมเขียวนิด ๆ พรายฟองละเอียดระยิบระยับ หอมกลิ่น แพร์ ซีททรัส เลมอน อัลมอนด์ ฮาเซลนัทส์ ดอกไม้สีขาว ขนมปัง ยีสต์ เนย มิเนอรัล แอซสิดสดชื่น จบยาวด้วยมิเนอรัล ยีสต์…17/20 คะแนน
แชมเปญ บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์ เอ็กซ์ตร้า บรุต เอ็นวี (Champagne Barons de Rothschild Extra Brut NV) : Extra Brut สำหรับคนที่ไม่ชอบความหวาน เพราะมีปริมาณความหวานเพียง 3- 6 กรัม/ลิตร ทำจากน้ำคูเวที่เก็บบ่มไว้ประมาณ 4 ปี ขององุ่นชาร์โดเนย์ (Chardonnay) 60% และปีโนต์ นัวร์ (Pinots Noir) 40% จากไร่ในโก๊ต เดส์ บลังส์ กรองด์ ครู และเปรอะมิเย ครู (Côte des Blancs Grands & Premiers Crus) หลังจากบรรจุขวดแล้วปล่อยให้นอนสงบนิ่งในเซลลาร์ 12 เดือนก่อนจะออกสู่ตลาดให้คนรักแชมเปญได้ลิ้มรส….สีเหลืองทองอร่าม พรายฟองละเอียดพลิ้วไหว หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล แอปริคอต แพร์ เกรพฟรุต และเลมอน พร้อมกลิ่นแป้งโด (Dough) ที่ใช้ทำขนมปัง ยีสต์ ฮาเซลนัท ควันไฟกรุ่น ๆ มิเนอรัล แอซสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล ยีสต์….17/20 คะแนน
แชมเปญ บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์ โรเซ บรุต เอ็นวี (Champagne Barons de Rothschild Rosé Brut NV) : เป็นแชมเปญ โรเซ สไตล์ “Finesse Rich & Harmonious” ทำจากชาร์โดเนย์ (Chardonnay) 85% จากไร่ในเขต Cote des Blancs Crus (Avize, Cramant, Mesnil-sur-Oger, Oger) อีก 15% เป็นปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) จากเขต Montagne de Reims หลังจากบรรจุขวดแล้วบ่มในเซลลาร์อีก 3 เดือนก่อนจะวางตลาด….สีคล้าย ๆ กลีบกุหลาบผสมผสานกับแซลมอน หอมกลิ่นดอกไม้ โดยเฉพาะกุหลาบ ตามด้วยผลไม้ เช่น เบอร์รี ซีททรัส สตรอว์เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เปลือกเลมอน มิเนอรัล ยีสต์ บัตเตอร์รี มีกลิ่นอายของแทนนินกรุ่น ๆ แอซสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล และยีสต์….18.5/20 คะแนน
แชมเปญ บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์ บลัง เดอ บลังส์ บรุต เอ็นวี (Champagne Barons de Rothschild Blanc de Blancs Brut NV) : เป็นแชมเปญสไตล์ “Old World,Classic,Complex” ทำจากชาร์โดเนย์ 100% ที่ปลูกในพื้นที่ Côte des Blancs Crus (Avize,Cramant,Mesnil-sur-Oger,Ogre) ปล่อยให้อยู่กับยีสต์ 48 เดือน หลังจากผ่านกระบวนการต่าง ๆ บรรจุขวดแล้วปล่อยให้สงบนิ่งอยู่ในเซลลาร์ 6-9 เดือนจึงนำออกมาให้คอแชมเปญได้เชยชม….สีเหลืองอ่อน ๆ สดใส พรายฟองเพริดพลิ้วละเอียดยิบ ดมครั้งแรกกลิ่นยีสต์หอมฟุ้ง พร้อมฟรุตตี้ เช่น ซีททรัส กูสเบอร์รี แพร์ แอปริคอต และพรุน มิเนอรัล อัลมอนด์สด มิเนอรัล บัตเตอร์ ครีมมี เฮิร์บเขียว ๆ แอซสิดสดชื่นดีมาก จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล และยีสต์กรุ่น ๆ ….18.5/20 คะแนน
แชมเปญ บารอนส์ เดอ ร็อธส์ชิลด์ บรุต มิลเลซีม 2010 (Champagne Barons de Rothschild Brut MILLESIME 2010) : อีกหนึ่งในวินเทจ แชมเปญยอดปรารถนาของคนรักแชมเปญทั่วโลก วินเทจ 2010 นี้ทำจากองุ่นที่ปลูกในไร่ Côte des Blancs และ Montagne de Reims ซึ่งเป็นพื้นที่กรองด์ ครูส์ (Grands Crus) ประกอบด้วยชาร์โดเนย์ (Chardonnay) 50% และปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) 50% ที่เอจด์ (Aged) กับยีสต์ถึง 7 ปี ผลิตเพียง 13,000 ขวด…สีเหลืองทองสดใสแวววาว พรายฟองละเอียดระยิบระยับ เป็นแชมเปญที่มีกลิ่นอายความสไปซีของเปปเปอร์และยีหร่า พร้อมกลิ่นผลไม้ ซีททรัส พลัม แอปริคอต เชอร์รี และเบอร์รี ลูกกวาดผลไม้ อัลมอนด์ มิเนอรัล ฟูลบอดี้ หนักแน่น คอมเพล็กซ์ แอซสิดยอดเยี่ยมมาก จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี…19/20 คะแนน
ส่วนไวน์แดงอีก 2 ตัวเป็นไวน์ของบริษัท “โบเดกา เฟลชาส เดอ ลอส แอนเดส”(Bodega Flechas de los Andes) ซึ่งที่ Baron Edmond de Rothschild ไปลงทุนในอาร์เจนตินา อยู่ที่เชิงเขาแอนเดส เมืองเมนโดซา (Mendoza) หนึ่งในแผล่งผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยมของอาร์เจนตินาและของโลก เกิดจากการผสานมือกันระหว่างเบนจามิน เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Benjamin de Rothschild) กับโลฮรองต์ ดาสโซลต์ (Laurent Dassault)ในปี 2003 จุดประสงค์เพื่อผลิตไวน์คุณภาพระดับโลก ซึ่งพื้นที่นี้มีองุ่นมาลเบค (Malbec) เป็นพระเอกและองุ่นแดงประจำชาติอาร์เจนตินา
โบเดกา เฟลชาส เดอ ลอส แอนเดส กราน มาลเบค เมนโดซา อาร์เจนตินา 2013 (Bodega Flechas De Los Andes Gran Malbec Mendoza Argentina 2013) : หนึ่งในคลาสสิค มาลเบค ในตลาดเมืองไทย ได้เหรียญเงินมาจากงาน World Wine Awards 2018 ทำจากมาลเบค 100% โดย 2/3 บ่มถังโอคฝรั่งเศส 18 เดือน ที่เหลือในถังสแตนเลส สีแดงทับทิม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพรุน ชอกโกแลต มิเนอรัล หนังสัตว์ สโมคกี้โอกกรุ่น ๆ สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ บัตเตอร์รี แอซสิดดีมากช่วยทำให้ไวน์มีชีวิตชีวา แทนนินหนักแน่นแต่สุกและค่อนข้างเนียน มิเดียมบอดี้ จบยาวด้วยผลไม้สุกฉ่ำ ดอกไวโอเลต สไปซีเฮิร์บ….19/20 คะแนน
โบเดกา เฟลชาส เดอ ลอส แอนเดส กราน กอร์เต เมนโดซา อาร์เจนตินา 2012 (Bodega Flechas De Los Andes Gran Corte Mendoza Argentina 2012) : ทำจากมาลเบค (Malbec) 65 % ซีราห์ (Syrah) 30 % และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 5 % บ่ม 24 เดือนในถังโอคใหม่จากฝรั่งเศส…สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุกกึ่ง ๆ แยมผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ ราสพ์เบอร์รี แบล็คเชอร์รี และพลัม ดอกลาเวนเดอร์ วานิลลา ชอกโกแลต มิเนอรัล เอิร์ธตี้ หนังสัตว์ ซีดาร์ สไปซี เฮิร์บแห้ง ๆ มิเดียมบอดี้ แทนนินแน่นแต่เริ่มจะสุก แอซสิดกลาง ๆ แต่ก็สดชื่นดี จบอร่อยและยาวด้วยแยมผลไม้ วานิลลา และสไปซีเฮิร์บชุ่มคอ กำลังสุกพร้อมดื่ม หรือจะเก็บได้อีกสัก 2-3 ปี….19/20 คะแนน
“Concordia,Integritas,Industria, remains the touchstone for the future: balance and ethics are an integral part of work and skills. Our employees share the family values and appreciate their relevance with each passing day. We are both authentic and precursors, that is our greatest strength”
มอตโต (motto) ที่ท่านบาฮรง เบนจามิน เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Benjamin de Rothschild) กล่าวไว้ ส่วนที่เหลือเชิญทุกท่านสัมผัสตามอัธยาศัย.

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...