“บุลเลต” คลาสสิคเบอร์เบิน

111111

Barell House

Bulleit Bourbon 10 Year

Bulleit Bourbon Frontier Whiskey..

Bulleit Rye American Whiskey

img_story01

o (1)

หอกลั่น

o (7)

o (8)

o

Tasting room

จำลองการกลั่น

ซ่อมถังโอค

ถังบ่มรุ่น 10 ปี

ทอม บุลเลต กับผู้เขียนที่เม็กซิโก

ทางเข้าโรงกลั่น

มุมหนึ่งในบริเวณโรงกลั่น

โรงกลั่นและปล่องไฟโบราณ

โรงซ่อมถังโอค

ลายเซ้นต์ของผุ้ไปเยี่ยมเยียน “ถ้าไม่นับแฮมเบอร์เกอร์และนํ้าอัดลมสีดำ สิ่งที่แสดงความเป็นอเมริกันแท้ เห็นจะเป็นอเมริกันวิสกี้ที่ชื่อว่าเบอร์เบินเท่านั้น” …มีผู้กล่าวไว้เช่นนั้น
คำจำกัดความง่าย ๆ ของเบอร์เบิน (Bourbon) ก็คือ “American whiskey : เหล้ากลั่นที่บ่มในถังโอค ผลิตจากข้าวโพดเป็นหลัก” ที่มีบันทึกไว้คำว่า “Bourbon” ปรากฏในช่วงปี 1820 และ Bourbon ก็มีตำนานเรื่องเล่าขานอันยาวนานไม่แพ้ไวน์ วิสกี้ เบียร์ รวมทั้งเมรัยอมตะอีกหลายชนิด
ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Bourbon คนหนึ่งเคยบอกกับผมว่าเป็นเหล้าที่เกิดจาก “ความโชคดีบนความผิดพลาด” คือหลังจากสงครามปฏิวัติในสหรัฐอเมริกาสิ้นสุดลงได้ไม่นาน รัฐบาลต้องการให้ชาวบ้านย้ายถิ่นไปทางตะวันตกของทวีปอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว จึงมีการจัดสรรที่ดินให้กับผู้ย้ายไป พร้อมเงื่อนไขว่าต้องปลูกข้าวโพดบนพื้นดินนั้นด้วย แต่เพราะชาวบ้านไม่ต้องการบริโภคข้าวโพดและการส่งลำบาก จึงหันมาใช้ภูมิปัญญาทำเหล้าจากข้าวโพด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า การขนส่งสะดวก และไม่ต้องกลัวความเสียหายเหมือนข้าวโพด
วิสกี้ข้าวโพดดังกล่าวถูกบรรจุลงถังไม้ที่ไม่มีการเผา แต่การทำถังโอคต้องใช้เวลานานมากโดยเฉพาะการตัดไม้แล้วเผาไฟเพื่อขึ้นรูป เพื่อตัดปัญหาและเพื่อความรวดเร็ว ชาวบ้านจึงใช้ไม้ที่ถูกไฟไหม้แล้วมาทำเป็นถังบรรจุวิสกี้ นำลงเรือล่องตามแม่นํ้ามิสซิปซิปปี้ การต้องใช้เวลาเดินทางอันยาวนาน กระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อลูกค้าเปิดดูปรากฏว่าวิสกี้ข้าวโพดสีขาวที่พวกเขาคุ้นเคย กลับเป็นสีทองเหลืองอร่าม กลิ่นหอมอบอวล ชิมแล้วรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อม กลายเป็นความโชคดีบน “ความผิดพลาด”
Bourbon มีกฎกติกาที่รัฐบาลกำหนดไว้เพื่อควบคุมคุณภาพคือ
1.ต้องกลั่นในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
2.ต้องใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบอย่างน้อย 51 % ขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Kentucky whiskey ที่เหลืออาจจะเป็นข้าวไรน์และบาร์เลย์ ผสมผสานกันตามสูตรของนักปรุง Bourbon ก็ได้
3.ต้องบ่มในถังไม้โอคใหม่ที่เผาข้างใน
4.กลั่น (Distilled) ห้ามมีแอลกอฮอล์สูงเกิน 160 พรูฟ (proof) หรือประมาณ 80%
5.เมื่อบรรจุเข้าถังบ่มห้ามมีแอลกอฮอล์สูงเกิน 125 พรูฟ หรือประมาณ 62.5 %
6.เมื่อบรรจุขวดต้องมีแอลกอฮอล์ 80 พรูฟ (ประมาณ 40 %) หรือมากกว่านั้น
หนึ่งใน Bourbon ระดับคุณภาพและน่าจะเป็นยูนิคที่มีอยู่ในตลาดเมืองไทย ย่อมต้องมีชื่อของ “บุลเลต” (Bulleit) อย่างแน่นอน
ผมได้พบและพูดคุยกับลุง “ทอม” เจ้าของบุลเลต ซึ่งอายุมากกว่าผมรอบกว่า ๆ เมื่อปลายปีที่แล้วในงานการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก “ดีอาจีโอ เวิลด์ คลาส โกลบอล ไฟนอลส์ 2017″ (Diageo World Class Global Finals 2017) ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ คุยกันหลากหลายและสนุกสนานในเรื่องราวของ Bulleit
“คุณต้องออกเสียงว่าบุลเลตนะ ไม่ใช่บุลเลียต..”
ลุงทอมบอกกับผมเป็นคำแรกทันทีหลังทักทายกัน นั่นเป็นเพราะที่ผ่าน ๆ มาส่วนใหญ่ผู้คนจะออกเสียงว่า “บุลเลียต” จริง ๆ ต้องออกเสียงว่า “บุลเลต” (Bullet)
จากนั้นเรื่องราวก็ถูกถ่ายทอดจากปากของลุงทอม ที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ธอมัส อี.บุลเลต จูเนียร์ (Thomas E.Bulleit,Jr.) หรือ “ทอม” (Tom) สร้างความในให้เป็นจริง ด้วยการตั้งโรงกลั่น Bulleit อย่างเป็นทางการขึ้นมาในปี 1987 หลังจากที่ได้รับสูตรเด็ดเคล็ดลับการทำเบอร์เบิน (Bourbon) มาจากออกุสตัส บุลเลต(Augustus Bulleit) ทวดของเขา ซึ่งมีฝีมือในการทำเหล้าไรย์ (Rye Whiskey)ในช่วงปี 1830-1860 เก่งกาจชนิดที่ซือแป๋เรียกอาจารย์ เขาทิ้งอาชีพทนายความที่กำลังรุ่ง หันมาทำโรงกลั่นอย่างจริงจัง
ปี 1997 บริษัท ซีแกรม (Seagram) ซื้อแบรนด์ Bulleit และเริ่มกลั่นในเมือง ลอว์เรนซ์เบิร์ก (Lawrenceburg) รัฐเคนตั๊กกี (Kentucky) ก่อนจะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในตลาดสหรัฐในปี 1999 เป็นต้นมา ตามด้วยออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ในช่วงปี 2000 เป็นต้นมา
ดีอาจีโอ (Diageo) เข้ามาครอบครองทรัพย์สินของซีแกรม รวมทั้ง Bulleit ซึ่งต่อมาผลิตโดย Kirin Brewing Company โรงงานที่ Lawrenceburg plant และรู้จักกันในชื่อ Four Roses distillery
วันที่ 14 มีนาคม 2017 ดีอาจีโอ เปิดโรงกลั่น Bulleit ใหม่ขนาด 300 เอเคอร์มูลค่า 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ Shelbyville ใน Shelby County รัฐ Kentucky นั่นเอง ทันสมัยและสมบูรณ์แบบสามารถผลิตได้ปีละประมาณ 1.8 ล้านแกลลอน
ปัจจุบัน Bulleit มีผลิตภัณฑ์หลัก ๆ หลายรุ่นแต่ที่มีขายในเมืองไทยมี 2 ตัวคือBourbon และ Rye Whiskey ดังนี้
เริ่มจาก Bulleit Rye American Whiskey รุ่นนี้ฉลากสีเขียวต่างจากรุ่นอื่น ๆ เป็นไรย์ วิสกี้ที่ได้รางวัลมาเยอะ และน่าลิ้มลองและเรียนรู้สำหรับท่านที่ไม่เคยชิมไรย์ วิสกี้ ถูกแนะนำตัวในท้องตลาดเมื่อปี 2011 ทำจากข้าวไรย์ (Rye) 95% และมอลต์จากข้าวบาร์เลย์ (Malted barley) 5% ผลิตจากโรงกลั่น Lawrenceburg ในรัฐ Indiana บรรจุขวดที่แอลกอออล์ 45% สีอำพัน มีกลิ่นของวานิลลา ผลไม้สุก ๆ โอค ควันไฟ ราคาเมล สไปซีเฮิร์บแห้ง ๆ จบยาวด้วยสไปซี ควันไฟ และผมไ
ตัวต่อมาคือ “Bulleit Bourbon Frontier Whiskey” ตัวนี้ผมชิมกับลุงทอมที่เม็กซิโก เป็นเบอร์เบินที่ละเอียดอ่อนและคอมเพล็กซ์ ใช้ส่วนผสมเป็น ข้าวโพด (corn/maize) 68% ข้าวไรย์ (Rye) 28% และมอลต์จากข้าวบาร์เลย์ (Malted barley) 4% ยีสต์สายพันธุ์พิเศษของตระกูล และน้ำที่มาจากหินปูน จากการที่มีส่วนผสมของข้าวไรย์สูง ทำให้ได้รสชาติที่หนักแน่น สไปซี่
Bulleit bourbon เริ่มขายในตลาดสหราชอาณาจักรในปี 2008 ด้วยแอลกอออล์ 40% ก่อนจะส่งไปขายในออสเตรเลีย ส่วนรุ่นที่วางขายในตลาดสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2014 ใช้ชื่อรุ่นว่า “Bulleit Frontier Whiskey” แอลกอฮอล์ 45% เป็นรุ่นที่รสชาตินุ่มนวลเนียน สามารถดื่มได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เพียว ๆ,บอยเลอร์เมกเกอร์ (Boilermaker),ออน เดอะ ร็อก รวมทั้งเป็นส่วนผสมของค็อกเทลได้รสชาตมาก
“Bulleit Bourbon Frontier Whiskey” เป็นเบอร์เบินสไตล์ Spicy Rye Bourbon สีอำพันสดใส หนักแน่นซุกซ่อนด้วยความนุ่มนวล หอมดอกไม้ แอปเปิ้ล วานิลลา คาราเมล สไปซี อบเชย จันทร์เทศ ไม้เมเปิ้ล ซีดาร์ มินต์ หนังสัตว์กรุ่น ๆ ชอกโกแลต หวานนิด ๆ จบด้วยมินต์ซ่า ๆ
รุ่นอื่น ๆ เช่น Bulleit Barrel Strength เป็นรุ่นที่เบลนด์จากเหล้าในถังที่อายุ 5-8 ปี บรรจุขวดโดยตรงจากถัง แอลกอฮอล์ตั้งแต่ 59-62.5 % วางตลาดในรัฐ Kentucky กลิ่นหอมวานิลลา คาราเมล สไปซี อบเชย และโอค
Bulleit Bourbon 10 Year เป็นรุ่นที่ทำจากเบอร์เบินรีเสิร์ฟ ส่วนผสมเหมือนกับ Bulleit Bourbon รุ่นตั้งเดิม บ่มในถังอเมริกัน โอค หอมกลิ่นวานิลลา โอค และสไปซี ผลไม้แช่อิ่ม รสชาตินุ่มนวล จบยาวด้วยกลิ่นควันไฟค่อนข้างเยอะ บรรจุขวดที่แอลกอออล์ 91.2 U.S. proof เคยได้ 2 เหรียญทองจากงาน San Francisco World Spirits Competition 2013
จากเวบไซต์ Proof66.com ซึ่งรวบรวมเรื่องราวของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมให้เรตติ้ง ปรากฏว่า Bulleit bourbon ติดอันดับท็อป เทนของวิสกี้ที่ดีที่สุดในโลก โดย
Bulleit Rye Whiskey ได้รางวัล “Top Tier Whiskey” ขณะที่ Bulleit Bourbon 10 ปีติดอันดับ “Tier 1 Spirit” ด้วยคะแนนเฉลี่ย 551/904 นอกจากนั้น Bulleit Bourbon 10 ปียังได้รับเหรียญทองประเภท The Small Batch Bourbon รุ่นอายุการบ่ม 10 ปีขึ้นไป ในงาน San Francisco World Spirits Competition 2013
ในเมือง Bardstown รัฐ Kentucky ซึ่งถือเป็นบ้านของ Bourbon และ Bulleit จะมีเทศกาลสำคัญคือ Bourbon Festival จัดในเดือนกันยายนของทุกปี และ Bardstown Tourism Commission และผู้จัดงานเรียกว่า “Bourbon Capital of the World” มีการนำชมโรงกลั่นที่ถือเป็นตำนานหรือโรงกลั่นยุคแรก ๆ ของ Kentucky หลายแห่ง ท่านที่มีโอกาสแนะนำให้ไปเที่ยวชมและชิมสักครั้ง ในช่วงนี้ก็อุ่นเครื่องในเมืองไทยด้วย 2 รุ่นดังกล่าวไปก่อน.

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...