“ฮังการี” (Republic of Hungary) เป็นหนึ่งในชาติผลิตไวน์เก่าแก่ในยุโรป ผลิตไวน์มาตั้งแต่สมัยโรมัน เป็นวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันระหว่างสลาฟ (Slavs)และเยอรมนี (Germanic)
ในยุโรปมีเพียง 2 ชาติเท่านั้นที่มีคำไวน์เป็นของตนเอง โดยไม่ต้องแปลงมาจากละติน นั่นคือ กรีซ และฮังการี โดยชาวฮังกาเรียนโบราณใช้ตัวอักษรรุนิก (Runic) ที่แปลงมาจากภาษาเตอร์กิช (Turkic) ซึ่งชนเผ่ามาญาร์ (Magyars) ชนพื้นเมืองของฮังการีติดต่อค้าขายด้วยในอดีต ในภาษา Magyars คำว่า “โซโล” (Szolo) แปลว่าองุ่น (Grape) คำว่า “บอร์” (Bor) แปลว่าไวน์ (Wine) คำว่า “อัสโซก” (Ászok) แปลว่าถังหมักไวน์ (Cask)
ไวน์ที่สร้างชื่อให้กับฮังการีและคอไวน์ทั่วโลกโหยหาคือ ไวน์ขาวหวานที่ชื่อโตกาย (Tokaj / Tokaji) เพราะเป็นยอดไวน์หวานที่มีศักดิ์ศรีไม่เป็นรองไวน์หวานโซแตร์น (Sauternes) ของฝรั่งเศส ที่สำคัญได้รับการประกาศจาก UNESCO เป็นมรดกโลกในปี 2002 ภายใต้ชื่อ Tokaj Wine Region Historic Cultural Landscape
โตกาย เป็นชื่อเมืองเล็กๆ ในแคว้น Borsod-Abaúj-Zemplén อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฮังการี อยู่ห่างจากกรุงบูดาเปสต์เมืองหลวงประมาณ 200 กิโลเมตร พื้นที่ประมาณ 28.2 ตารางกิโลเมตร พลเมืองประมาณ 6,000 คน ประกอบด้วย 28 คอมมูนที่ผลิตไวน์แล้วสามารถใช้ชื่อว่า Tokaji ได้ ผลิตเฉพาะไวน์ขาว และส่วนใหญ่เป็นไวน์ขาวหวาน ไม่มีไวน์แดง
กรรมวิธีทำไวน์ Tokaji Aszu คล้ายกับการทำไวน์หวาน Sauternes คือปล่อยให้แสงแดดเผาองุ่นสุกจนเน่าคาต้นและเหี่ยวย่น ซึ่งเรียกว่า Aszu หรือเกิดเชื้อรา Botrytis Cinera ที่ผิวองุ่น จากนั้นจึงเก็บมาหมักเป็นไวน์ ชาว Magyars บรรพบุรุษของชาวฮังการีเชื่อว่าไวน์ชนิดนี้เป็นยาอายุวัฒนะ ถือเป็นไวน์หวานสุดคลาสสิคของโลก
ส่วนไวน์แดงฮังการีที่เคยมีผู้นำเข้ามาเมืองไทยครั้งแรก ๆ เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วคือไวน์บูลล์ บลัด แห่งเอแกร์ (Bull’s Blood of Eger) ซึ่งทำจากองุ่น “กาดาร์กา” (Kadarka) เป็นองุ่นแดงประจำชาติฮังการี ถูกนำเข้ามาโดยชาวเติร์กราวศตวรรษที่ 16 ดั้งเดิมมาจากอัลแบเนีย (Albania) ซึ่งปัจจุบันในบัลแกเรียเรียก “กาดาร์กา” ว่า ”แกมซา” (Gamza) และแดงที่จากองุ่นแกมซานั้นก็เคยมีผู้นำเข้ามาขายในเมืองไทยเช่นในรุ่นราวคราวเดียวกัน และขายราคาเท่าๆ กันคือขวด 300 กว่าบาท รสชาติดีทีเดียว
แต่ครั้งนี้ไม่ชวนชิมไวน์โตกายซึ่งหลายคนบอกว่าหวานเจี๊ยบไม่ชอบ หรือชิมไวน์บูลล์ บลัด ซึ่งหลายบอกว่าไม่อร่อยไม่คุ้นลิ้น แต่จะชวนไปชิมไวน์จากเขต ”เซคซาร์ด” (Szekszárd) ซึ่งมีผู้ผลิตไวน์หลายรายสามารถทำไวน์แดงได้ราวกับไวน์บอร์กโดซ์ (Bordeaux) ของฝรั่งเศสที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบที่สุดเลยทีเดียว !
”เซคซาร์ด” เป็นเขตผลิตไวน์เล็ก ๆ ของฮังการี แต่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ ได้ชื่อว่าเป็นเขตผลิตไวน์แดงที่เก่าแก่ที่สุดของฮังการี ผลิตไวน์มากว่า 2,000 ปี โดยมีแคแลคเตอร์ที่สำคัญคือเป็น “ไวน์แดงที่ฟูลบอดี้ และสไปซี่” ไวน์ที่นี่เป็นที่โปรดปรานของบุคคลดัง ๆ หลายคน ที่รู้จักกันดีคือชูแบรต์ หรือชูเบิร์ต (Schubert) คีตกวีชื่อดังชาวออสเตรีย
”เซคซาร์ด” อยู่ทางตอนใต้สุดของฮังการี ขับรถจากบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนที่ผมไปนั้นนั่งรถไฟประมาณ 3 ชม. ประกอบด้วยเมืองและหมู่บ้าน 15 แห่ง มี พลเมืองประมาณ 50,000 คน พื้นที่ปลูกองุ่นประมาณ 2,100 เฮกตาร์ องุ่นพันธุ์หลักที่รู้จักกันดีคือกาดาร์กา (Kadarka) ดังกล่าว เขาใช้ทำไวน์แดง “บูล บลัด แห่งเซคซาร์ด” (Bull’s Blood of Szekszárd)
ขณะเดียวกันไวน์ที่สร้างชื่อให้กับเขตนี้ยังมีไวน์แดงสไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) จากองุ่นกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) และแมร์กโลต์ (Merlot) นอกนั้นยังมีพันธุ์อื่น ๆ เช่น ซีฮราห์ (Syrah) ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ซไวเกลต์ (Zweigelt) และพันธุ์พื้นเมืองอย่างเกกฟรานกอส (Kékfrankos) ที่ในออสเตรียประเทศเพื่อนบ้านเรียกว่าเบลาฟรานกิส หรือเลมแบร์แกร์ (Blaufrankisch / Lemberger) เป็นต้น
ปี 2017 ”เซคซาร์ด” ประกาศใช้ขวดไวน์ของตัวเองเรียกว่า Szekszárd Bottle เป็นขวดไฮบริดผสมผสานระหว่างขวดทรงเบอร์กันดีกับบอร์กโดซ์
เมื่อกลางปี 2023 ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฮังการี ประจำประเทศไทย ได้จัดงานชิมไวน์ฮังการีหลาย ๆ เขต มีไวน์จาก ”เซคซาร์ด” ลิ้มรส 3 – 4 ยี่ห้อทั้งขาวและแดง โดยเฉพาะไวน์ขาวมีอยู่ 1 ตัวที่น่าสนใจคือ “ฟริตซ์ เดซี โซลด์ ซากอส” (Fritz Decsi Zold Szagos) ผลิตโดย ”ฟริตซ์” ไวเนอะรี (Fritz Winery)
หลังจากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไปตามธรรมชาติของไวน์ชาติที่ไม่ค่อยคุ้นลิ้นของคนไทยและขายยากในเมืองไทย กระทั่งเดือนมกราคม เจ้าของบริษัท Rojratchai Cellar จำกัด บอกผมว่าได้นำเข้าไวน์ของ ”ฟริตซ์” เข้ามาแล้วรวม 3 รุ่นเป็นรุ่นระดับท็อปทั้งสิ้น บริษัทนี้เป็นบริษัทเล็ก ๆ แต่นำไวน์จากชาติเก่า ๆ ในยุโรป ก่อนหน้านั้นก็นำเข้าไวน์โปรตุเกสมาแล้วหลายแบรนด์ คราวนี้ผมดีใจที่แทนคนไทยที่จะได้ชิมไวน์ระดับกรองด์ ครู ของฮังการี
”ฟริตซ์” เป็นผู้ผลิตไวน์เก่าแก่และมีชื่อเสียงของฮังการีและเขตเซคซาร์ด ทำไวน์มาตั้งแต่ปี 1635 มาถึงปีนี้ก็ 389 ปีเข้าไปแล้วไม่ธรรมดา และไวน์ทั้ง 3 รุ่นที่ถูกบริษัท Rojratchai Cellar จำกัด นำเข้านั้นเป็นไวน์ที่ทำแบบโลว์ยีลด์ (Low Yield) คือทำน้อยเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ผลการชิมทั้ง 3 รุ่นมีดังนี้
ฟริตซ์ ปริมัส นัมเบอร์ วัน เซคซาร์ดี คูเว 2018 (Fritz Primus 1 Szekszárdi Cuvée 2018) : เป็นรุ่นที่เบลนด์จากองุ่นแดง 2 สายพันธุ์คลาสสิคจากบอร์กโดซ์กับ 1 องุ่นแดงพื้นเมืองได้อย่างลงตัวโดยองุ่นทั้งหมดอายุเฉลี่ย 15-35 ปี ประกอบด้วยแมร์กโลต์ (Merlot) กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) และเกกฟรานกอส (Kekfrankos) ซึ่งในออสเตรียประเทศเพื่อนบ้านเรียกว่าเบลาฟรานกิส หรือเลมแบร์แกร์ (Blaufrankisch / Lemberger) เก็บองุ่นด้วยมือแล้วหมักในถังสแตนเลส บ่ม 22 เดือนในโอ๊คเก่าขนาด 500 ลิตร
สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี พลัม ราสพ์เบอร์รี ดอกไม้แห้ง ๆ เอิร์ธตี้ กาแฟคั่ว สโม๊คกี้โอ๊ค สไปซี เฮิร์บ เปปเปอร์ โป๊ยกั๊ก จันทร์เทศ มินต์ ใบชาแห้ง ๆ แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บ สามารถดื่มในเวลานี้ได้เลย แช่เย็นสัก 14-15 องศา เปิดล่วงหน้าสัก 30 นาที ดื่มกับบาร์บีคิว หมู ไก่ กวาง…….19/20 คะแนน
ฟริตซ์ ฟิฟตี้-ฟิฟตี้ เซคซาร์ด 2018 (Fritz Fifty- Fifty Szekszárd 2018) : รุ่นนี้เป็นบอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ขนานแท้ ใช้แมร์กโลต์ (Merlot) กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) อย่างละ 50 – 50 น่าจะเป็นที่มาของชื่อรุ่น Fifty- Fifty องุ่นพวกนี้อายุเฉลี่ย 16-20 ปี เก็บเกี่ยวด้วยมือ หมักในถังสแตนเลส บ่ม 20 เดือนในถังโอ๊คขนาด 500 ลิตร ตัวนี้ได้เหรียญทองจาก Berliner Wine Trophy 2022 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศ เยอรมนี รุ่นนี้สามารถสู้กับกรองด์ ครู จากบอร์กโดซ์ได้อย่างไม่อาย
สีแดงทับทิมเข้มจนเกือบดำ สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ บลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี พลัม มิเนอรัล ดอกไม้แห้ง แบล็คชอกโกแลต กาแฟคั่ว สไปซี เฮิร์บ แบล็คเปปเปอร์ จันทร์เทศ กานพลู ชะเอมเทศ ใบยาสูบ วานิลลา สโมคกี้โอ๊ค แอซสิดสดชื่น แทนนินหนันแน่นนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล สไปซี่ เฮิร์บ ตัวนี้รสชาติคล้ายกับไวน์ แซงเตมิยอง กรองด์ ครู ถ้านำมาให้ชิมโดยไม่บอกว่าเป็นไวน์อะไรร้อยทั้งร้อยต้องบอกว่าฝรั่งเศส สามารถดื่มได้ในตอนนี้ แต่ถ้าจะให้ดีอีก 1-2 ปีจะอร่อยกว่านี้ แต่อย่าไปรอเลยดื่มตอนนี้แหละ…….19.5/20 คะแนน
ฟริตซ์ เอ็กซ์เพิร์ท เซคซาร์ด กาแบร์กเนต์ โซวีญยอง 2018 (Fritz Expert Szekszárd Cabernet Sauvignon 2018) : รุ่นนี้ทำจากกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง อายุ 20 ปีพิถีพิถันเก็บด้วยมือ หมักพร้อมก้านในถังสแตนเลส บ่ม 22 เดือนในถังโอ๊ค 2 ขนาดคือ 225 ลิตรและ 500 ลิตร เป็นแทคติการทำไวน์ของไวน์เมกเกอร์เขตนี้
ที่สำคัญเป็นรุ่นที่ไม่ธรรมดา
สีแดงทับทิมเข้มจนเกือบดำ หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี รสพ์เบอร์รี ฟิก ดอกไวโอเลต มิเนอรัล พริกปาปริกา ชอกโกแลต กาแฟคั่ว วานิลลา สไปซี เฮิร์บ แบล็คเปปเปอร์ ชะเอมเทศ จันทร์เทศ โป๊ยกั๊ก ซีดาร์ ใบยาสูบ แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ วานิลลา ดื่มตอนนี้ก็ได้ ถ้าจะให้อร่อยต้องอีกสัก 2-3 ปี ตัวนี้ชิมแล้วร้องว๊าว ! เพราะมันคือไวน์แซง ฌูเลียง (St.-Julien) หรือแซงเตสเตฟ (St Estèphe) ดี ๆ นี่เอง แม้ไม่ถึงระดับกรองด์ ครู ก็หัวแถวของครู บูร์ฌัวส์ ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นไวน์ฮังการี เก็บดี ๆ อยู่ได้ 10-15 ปี ……..19.5/20 คะแนน
การได้ชิมไวน์ “ฟริตซ์” (Fritz ) ดังกล่าว เสมือนหนึ่งได้ลิ้มรสประวัติศาสตร์เกือบ 400 ปีที่บรรจุอยู่ในขวด ขณะเดียวกันก็ได้ชิมไวน์ระดับกรองด์ ครู ของฮังการี ที่หาได้ไม่ง่ายในเมืองไทย !!
รายละเอียดต่าง ๆ สอบถามได้ที่ บริษัท Rojratchai Cellar จำกัด โทร.093 8608627