..
Interviewing about elit Art of Martini 2018 !
Mr. Kitibordee Gov Chortubtim From THAILAND
-PLEASE INTRODUCE YOURSELF!
My name’s Kitibordee Chortubtim (you can call me gov as my nickname) I’m from Backstage cocktail bar Bangkok Thailand.
-WHAT REPRESENT THE MARTINI COCKTAIL FOR YOU?
Dilution,Clear,Temperature
-CAN YOU DESCRIBE US YOUR ELIT ART OF MARTINI (EAOM) 2018 WINNING COCKTAIL?
Turn the Espresso martini to a real martini
Clear, but full flavor
-CAN YOU TELL US SOMETHING ABOUT THE INSPIRATION AND CREATIVE PROCESS THAT TOOK YOU TO REALIZE SUCH A BEAUTIFUL MARTINI?
Reading, Travaling, do something out of the bar.
-CAN YOU DESCRIBE US YOUR EXPERIENCE IN EAOM18 AND MAYBE TELL US SOME CURIOUS ANECDOTE?
Nice place , Nice warm welcome and SUPER PARTY TIME!!
-WHAT WILL BE YOUR 3 TIPS FOR THE NEW COMPETITORS OF 2019?
Be Creative
Be Happy
and have fun!!!
บทสัมภาษณ์ กิตติบดี ช่อทับทิม (Kitibordee Chortubtim) หรือ “กอล์ฟ”บาร์เทนเดอร์ฝีมือดีจากประเทศไทย ก่อนการแข่งขัน “elit® Vodka Art of the Martini Global 2018” จะเริ่มขึ้นที่เมืองบิลเบา (Bilbao) ประเทศสเปน (Spain) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ให้อ่านจากของจริงกันเลย
ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันดังกล่าว กิตติบดี ช่อทับทิม แห่ง Backstage ร้านค็อกเทลบาร์ชื่อดัง ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากเมืองไทย โดยมีคู่แข่งเป็นบาร์เทนเดอร์จากค็อกเทล บาร์ ร้านอาหาร และโรงแรมหลายแห่ง แม้ไม่ได้รางวัลเป็นถ้วยหรือเหรียญรางวัลกลับมา แต่ที่เหนืออื่นใดคือประสบการณ์จากเวทีระดับโลก ที่จะเป็นประโยชน์กับวงการค็อกเทลและบาร์เทนเดอร์เมืองไทย
สำหรับผู้ชนะเลิศ “elit® Vodka Art of the Martini Global 2018” คือทอม ไซปอส (Tom Sipos) บาร์เทนเดอร์รุ่นเก๋าแห่ง Austrian Bar Academy ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จากการแข่งขันรวม 3 วัน มีบาร์เทนเดอร์จากทั่วโลก 20 คนมาร่วมชิงชัย รวมทั้งกิตติบดี ช่อทับทิม ในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย ขณะที่คณะกรรมการประกอบด้วย อเลสซานโดร ปาลาซซี (Alessandro Palazzi) เฮดบาร์เทนเดอร์และมาสเตอร์ ออฟ เดอะ มาร์ตินี (Master of the Martini) ที่ดุ๊ก (Dukes) ในลอนดอน (London), ฮวน บัลล์ (Juan Valls) แห่ง The Lost Child ค็อกเทล บาร์ในสเปน และไซมอน บอดีนี (Simone Bodini) International Brand Ambassador ของ elit Vodka เป็นต้น
นอกจากนั้นปีนี้นับเป็นปีแรกที่ “elit® Vodka Art of the Martini” เป็นวอดก้า สปอนเซอร์หลักของงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลก (The World’s 50 Best Restaurants) ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลออสก้า ของแวดวงภัตตาคารและเชฟทั่วโลก
“สโตลิคนายา” (Stolichnaya) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “สโตลี” (Stoli Elit) วอดก้าที่ทำจากข้าวสาลี (Wheat) และข้าวไรย์ (Rye) เป็นวอดก้าที่มีชื่อเสียงมายาวนานตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นสหภาพโซเวียตจนมาถึงแยกย้ายประเทศเป็นรัสเซียในปัจจุบัน พร้อมกับผลิตรุ่นสุดยอดที่ชื่อ “สโตลิคนายา อีลิต” (Stolichnaya Elit) หรือ “สโตลี อีลิต” (Stoli Elit) คำว่า Stolichnaya ถูกแผลงมาจากภาษารัสเซียหมายถึง “Capital City” ขณะที่บางคนบอกว่าหมายถึง “Table Vodka” ขณะที่คำว่า “Stolichnaya Vodka” ถูกออกแบบเป็นคล้าย ๆ ลายมือสีทอง เหนือแลนด์มาร์คของกรุงมอสโคว์ (Moscow Landmark)
ข้าวสาลีและข้าวไรย์ที่ใช้ทำ Stoli Elit มาจากไร่ในตัมบอฟ (Tambov) ซึ่งความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 128 เมตร และอยู่ห่างจากมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 480 กม.หลังจากผ่านกระบวนการหมักแล้ว จึงถูกนำมากลั่น 3 ครั้ง 3 ครา จากนั้นจึงผสมกับน้ำจากเมืองรีกา (Riga) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศลัตเวีย (Latvia) ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลบอลติก จากนั้นกรองผ่านหินควอร์ซหรือหินเขี้ยวหนุมาน (Quartz)และถ่านไม้เบิร์ช (birch) ก่อนจะบรรจุขวด
“สโตลี” (Stoli) เป็นคลาสสิค อัลตร้า พรีเมียม วอดก้า จากรัสเซีย (Classic Ultra Premium Russian Vodka) ที่มีกระบวนการผลิตที่ละเอียด ซับซ้อน หลายขั้นตอน น้ำที่ใช้กลั่นมาจากเทือกเขาหิมาลัย และอีกหนึ่งในความพิถีพิถันนั้นคือการกรองแบบเย็น ในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ส่งผลให้วอดก้ามีความนุ่มนวลเนียน มีกลิ่นและรสชาติของยี่หร่าและสไปซี่เฮิร์บเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะยี่หร่าค่อนข้างชัดเจนกว่าอย่างอื่น และแบล็คเปปเปอร์ พร้อมกลิ่นดอกไม้ ตะไคร้ ทอฟฟี่ที่ทำจากซีทรัส จบด้วยสไปซี่ แบล็คเปปเปอร์ เป็นต้น ได้รางวัลจากการประกวดทั้งในและต่างประเทศมากมาย เป็นวอดก้าที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าต้องดื่มสักครั้งในชีวิต
Stolichnaya มีต้นกำเนิดในโกดังหมายเลข 1 สำหรับเก็บไวน์ของกรุงมอสโกว์ ที่เปิดในปี 1901 โดยการได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ให้ผลิตวอดก้าคุณภาพสูง อย่างไรก็ตามหัวข้อของการถกเถียงกันคือ ปีที่ถือกำเนิด ที่ผ่านมาการยืนยันของผลิตภัณฑ์คือปี 1984 แต่ในฉลากระบุเป็นปี 1946 ได้รับการออกแบบโดย V. G. Svirida ประมาณปี 1944 อย่างไรก็ตามเครื่องหมายการค้าได้รับการจดทะเบียนในปี 1938 ซึ่งบางกระแสก็บอกว่า 1938 นี่แหละเป็นปีกำเนิดของ Stolichnaya
ปี 1953 Stolichnaya ถูกแนะนำตัวในงานการค้าระดับนานาชาติที่กรุงเบอร์ลิน และได้เหรียญทองกลับมา ก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ขวดที่ใช้บรรจุเพื่อการส่งออกถูกผลิตในยูเครน
ปี 1972 บริษัท เป๊ปซี่โคลา (Pepsi-Cola company) ทำข้อตกลงกับรัฐบาลสหภาพโซเวียต ขอเป็นผู้ส่งออก Stolichnaya ไปยังตลาดตะวันตก ทำให้ Pepsi-Cola เป็นบริษัทอเมริกันเจ้าแรกที่ได้รับอนุญาตให้ผลิต ทำการตลาด และขายได้สหภาพโซเวียต และในช่วงล่มสลายของสหภาพโซเวียตนั้น ก็มีความพยายามจะผ่องถ่ายบริษัท VO Sojuzplodoimport (ต่อมาเป็น VVO Sojuzplodoimport) รัฐวิสาหกิจที่ผลิต Stolichnaya ไปยังเอกชน
…โดยปี 1997 VVO Sojuzplodoimport ก็ตกเป็นของกลุ่มธุรกิจสปิริตของเอกชนชื่อ SPI Group ที่จดทะเบียนในลุกเซมเบิร์ก เจ้าของคือยูริ เชฟเลอร์ (Yuri Shefler) มหาเศรษฐีชาวรัสเซียซึ่งเขาซื้อมาในราคา 285,000 ดอลลาร์สหรัฐ และครองความยิ่งใหญ่แห่งรัสเซีย วอดก้า มาตราบเท่าทุกวันนี้ โดย SPI Group กรุ๊ปนั้นขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 380 แบรนด์ใน 160 ประเทศทั่วโลก
“elit® Vodka Art of the Martini Global 2018” เป็นอีกเวทีหนึ่งที่บาร์เทนเดอร์ไทยได้ขึ้นไปแสดงฝีมือและชื่อเสียงของประเทศไทย..!!