“Let all the souls here rest in peace, for we shall not repeat the evil.”
“ขอจงหลับอย่างสงบ ความผิดพลาดนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก….”
ข้อความในกล่องหินใต้หลังคาอนุสาวรีย์เหยื่อระเบิดปรมาณู กลางสวนสันติภาพ เมืองฮิโรชิมา เสมือนคำมั่นสัญญาว่าความเลวร้ายเช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้นกับชาวญี่ปุ่นอีก และหวังจะเป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้ที่ได้ไปเยี่ยมเยียนบ้าง เพราะโลกวันนี้หลายพื้นที่ระอุด้วยเพลิงชนิดเดียวกัน
ท่านที่มีโอกาสไปญี่ปุ่นขอแนะนำเมืองนี้ นอกจากเป็นข้อเตือนใจแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารการกิน หนึ่งในจำนวนนั้นคือ “โอโคโนมิยากิ” ที่มีคนเปรียบว่าเป็นพิซซ่าญี่ปุ่น ดูว่ารสชาติดั้งเดิมที่ฮิโรชิมากับในเมืองไทยต่างกันอย่างไร ?
ฮิโรชิมา ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะฮอนชู (เกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น) มีประชากร 1.2 ล้านคน เป็นจังหวัดและเป็นเมืองหลวงของเกาะด้วย รู้จักกันในหลายฐานะ เช่น เมืองแห่งสันติภาพ เมืองแห่งประวัติศาสตร์การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองอารยธรรมสถาปัตยกรรมโบราณ เมืองกำเนิดรถยนต์มาสด้า แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บ่อน้ำร้อนคุณภาพดี สุดยอดซีฟู้ดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น แหล่งช้อปปิ้งทันสมัย เป็นต้น
ผมพักที โรงแรม ANA Crowne Plaza ห่างจากพิพิธภัณฑ์อะตอมมิคบอมม์ และอุทยานอนุสรณ์สันติภาพ ประมาณ 300 เมตร เดินข้ามแม่น้ำโมโตยะสึ ประมาณ 15 นาที ใกล้แหล่งของกินและแหล่งชอปปิ้ง การเดินทางสะดวก โดยเฉพาะรถราง (Street Car) ฮิโรชิมามีรถรางวิ่งอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น รถรางที่ปลดระวางจากเมืองอื่น มักจะถูกนำมาใช้ที่นี่ มีหลากหลายรูปแบบ บางคันอายุ 50 – 60 ปี ทั้งหมดมีอยู่ 8 สาย ค่าโดยสารเที่ยวละ 150 เยน
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่ควรไปคือ สวนอนุสรณ์สันติภาพ เป้าหมายของสงครามระเบิดปรมาณู ที่ชื่อ “เจ้าตัวเล็ก” (Little Boy) เมื่อปี พ.ศ.2488 จนฮิโรชิมาราบเป็นหน้ากลอง จุดที่เจ้าตัวเล็กลงเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลชื่อชิมะ หมอ พยาบาลและคนไข้ราว 80 คน ตายเรียบจากความร้อนที่สูงถึง 3-4,000 องศาเซนเซียส “เจ้าตัวเล็ก” ความยาวเพียง 3 เมตร หนัก 4 ตัน บรรจุยูเรเนียม 250 กิโลกรัม ตกลงที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากตึกหอส่งเสริมอุตสาหกรรมประมาณ 160 เมตร ทำให้อาคารที่ทันสมัยและแข็งแรงที่สุดในยุคนั้น เหลือซากอย่างที่เห็น ผู้คนล้มตายกว่า 2 แสนคนในรัศมี 2 กิโลเมตร ที่ไม่ตายก็ไม่ต่างจากซากศพ
ยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกโลกสาขาสิ่งปลูกสร้างที่หลงเหลือจากสงคราม เมื่อ 7 ธันวาคม 2539 พร้อมชื่อใหม่ “อะตอมมิค บอมม์ โดม” (Atomic Bomb Dome) เป็นอนุสรณ์ย้ำเตือนถึงความโหดร้ายของสงคราม (ปัจจุบันมี 2 แห่ง อีกแห่งอยู่ที่เอาซ์วิช,โปแลนด์) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโมโตยะสึ ซึ่งเดินข้ามไปอีกฝั่งจะเป็น สวนอนุสรณ์สันติภาพ และพิพิธภัณฑ์อะตอมมิคบอมม์
เด็กหญิงซาดาโกะ ซาซากิ เป็นโรคลูคิเมียจากอานุภาพของยูเรเนียม เธอพยายามพับนกกระเรียนให้ได้ 1,000 ตัว ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ว่านกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพและอายุยืนยาว หากพับได้ครบจะสามารถอธิษฐานขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงได้ แต่เธอเสียชีวิตก่อนด้วยวัย 12 ปี เด็กทั่วประเทศญี่ปุ่นเรียกร้องให้สร้าง Children’s Peace Monument เพื่อไว้อาลัยเด็กๆ ผู้สูญเสีย เป็นแท่นหินสูง บนยอดมีรูปหล่อของเด็กผู้หญิง สองมือชูนกกระเรียนกระดาษไว้เหนือหัว ตั้งอยู่มุมหนึ่งของ สวนสันติภาพ (Peace Memorial Park)
พิพิธภัณฑ์อะตอมมิคบอมม์ อยู่ในอุทยานอนุสรณ์สันติภาพ รวบรวมเหตุการณ์ต่างๆ เมื่อ 60 กว่าปีก่อนมาให้ชมอย่างละเอียด (มีเทปเสียงภาษาไทยให้เสียบหูฟัง เดินไปตามหมายเลขที่เขาบอก) เช่น สภาพบ้านเรือนก่อนและหลังถูกระเบิด ภาพเหยื่อปรมณู ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า เนื้อหนังมังสาที่เหลืออยู่ บันทึกของผู้รอดชีวิต รวมทั้งนาฬิกาที่เวลาหยุดอยู่ที่ 8.15 น.ของวันที่ระเบิดลงคือ 6 สิงหาคม 1945 (พ.ศ.2488) เมื่อ 66 ปีที่แล้ว
แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ สะพานคินไตเคียว แห่งเมืองอิวาคูนิ เขตยามากุจิ เป็นสะพานแบบญี่ปุ่นที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สร้างเมื่อ พ.ศ.2216 โดยเจ้าเมืองไดเมียวฮิโรโยชิ คิคคาวา ข้ามแม่น้ำนิชิกิไปยังปราสาทอิวาคุนิที่อยู่บนเขา เป็นสะพานโค้ง 5 โค้ง ยาว 193 เมตร กว้าง 5 เมตร วงโค้งสูงสุดอยู่สูงจากระดับน้ำ 12 เมตร เป็นสะพานแห่งสุดท้ายในญี่ปุ่นที่ใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมสร้างด้วยไม้ ไม่ใช้ตะปูแม้สักตัวเดียว เคยถูกพายุไต้ฝุ่นพัดเสียหายเมื่อ พ.ศ. 2493 และบูรณะล่าสุดใน พ.ศ. 2547 พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย ด้านในมีสถานที่น่าชมเยอะ เช่น ปราสาทอิวาคุนิที่ต้องนั่งรถกระเช้าขึ้นไป บ้านซามูไร สวนงูเผือก สวนญี่ปุ่น ร้านอาหารอร่อย ๆ โดยเฉพาะไอศกรีม 100 รส อากาศเย็นแค่ไหนก็ต้องชิมให้ได้
ไปฮิโรชิมาถ้าไม่ได้กิน โอโคโนมิยากิ (OKonomi- Yaki) ถือว่ายังไม่ถึงฮิโรชิมา เจ้าโอโคโนมิยากินั้นบางคนเปรียบเป็น พิซซ่าญี่ปุ่น ลักษณะเป็นแป้งผสมกะหล่ำปลีและใส่เนื้อสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นซีฟู้ดเพราะนี่เขาดังเรื่องซีฟู้ด เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม ฯลฯ ตอกไข่ลงไปผสมกัน แล้วเทลงทอดบนกระทะร้อน ราดด้วยซอสสีน้ำตาลหวาน ๆ ที่ฮิโรชิมามีให้เลือกหลายร้าน
ร้านโอโคโนมิยากิที่ขอแนะนำชื่อ ชินจัน (Chinchan,โทร.2480188) เจ้าของเป็นลุงกับป้า พูดไทยได้บางคำจากคนไทยที่ไปอุดหนุน เป็นร้านชื่อดังและอร่อย ดารา นักร้อง นักกีฬา นักการเมือง ของญี่ปุ่นไปกินกันเยอะ มีลายเซ็นติดไว้เต็มร้าน คนแน่นตลอดขณะที่ร้านข้าง ๆ อีกเกือบ 10 ร้านเหงาหงอย บางร้านเจ้าของนั่งเท้าคางคุยกับลูกน้องมองร้านลุงตาปริบ ๆ
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องลองคือราเมง อาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น
ซึ่งรสชาติความอร่อยอยู่ที่น้ำซุป หวาน กลมกล่อม เคี่ยวกันเป็นวัน ๆ อร่อยโดยไม่ต้องปรุง ร้านราเมงอร่อยจะไม่มีเครื่องปรุงเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวในบ้านเรา บางร้านที่อนุรักษ์จริง ๆ ถ้าขอเครื่องปรุงอาจโดนเจ้าของร้านค้อน และเวลากินไม่ต้องรักษามารยาท ซดเสียงดัง ๆ ไปเลย ยิ่งดังเจ้าของยิ่งชอบแสดงว่าอร่อย
ฮิโรชิมายังมีเสน่ห์อีกเยอะทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินระดับโลก หอยนานาชนิด และสาเกรสเยี่ยม บน “เกาะมิยาจิมา” ที่มีเสาประตู “โทริ” สีแดงสดตั้งตระหง่านบนผิวน้ำ รวมทั้ง “เมืองคุราชิกิ” ซึ่งเป็นเมืองอนุรักษ์ของประเทศ เป็นต้น