“เกลนมอเรนจี” ซิงเกิ้ล มอลต์จากดินแดนเงียบสงบ

“Double Glenmorangie on the rocks.”
คริสโตเฟอร์ แลมเบิร์ต (Christopher Lambert) พระเอกคนดัง สั่งเครื่องดื่มในหนังซีรีส์ Conner MacLeod หรือที่รู้จักกันในนาม Highlander ซึ่งเป็นซีรีส์ Highlander ที่โด่งดังในช่วงปี 1986
“เกลนมอเรนจี” (Glenmorangie) ซึ่งบางคนออกเสียงว่าDr. Bill Lumsden

Extremely Rare

GLENMORANGIE SCOTCH WHISKY

Signet

The Lasanta

The Nectar d'Or

The Original

The Quinta Ruben

ที่มาของฉลากข้างขวด

ประวิทย์และวีรวิทย์ แห่งดีอาจีโอ

ร้าน Godfather

รุ่นพิเศษมีที่ Godfather เท่านั้น

โรงกลั่น Glenmorangie

ส่วนหนึ่งของถังบ่ม

หม้อกลั่นสูง 7.9

หอกลั่นเทียบกับยี่ราฟ “เกลนมอเอนจี” เป็นโรงกลั่นที่มีชื่อเสียงอยู่ในเมืองเทน (Tain) เขตรอสเชียร์ (Ross Shire) ประเทศสก็อตแลนด์ ผลิตซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ (Single malt Scotch whisky) ภายใต้ชื่อบริษัท The Glenmorangie Company Ltd.ปัจจุบันอยู่ในเครือ LVMH (Louis Vuitton Moët Hennessy) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หรูหราอยู่ในเครือมากมายแทบทุกแขนง
โรงกลั่น Glenmorangie อยู่ในเขตไฮแลนด์ (Highlands) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เขตผลิตซิงเกิ้ล มอลต์ ของสก็อตแลนด์ ซึ่งแคแลคเตอร์หลักของซิงเกิ้ล มอลต์ เขตนี้คือ คือกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้,ดอกไม้ และโอค มีความสโมคกี้ (Smoky) กรุ่น ๆ ทำให้นักดื่มหน้าใหม่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยากและรวดเร็ว ต่างจากเขตอื่นโดยเฉพาะสเปไซด์ (Spyside) ที่มีกลิ่นพีทและสโมคกี้ที่รุนแรง
คำว่า Glenmorangie มาจากภาษาเกลิก (Gealic) แปลว่า “หุบเขาแห่งความเงียบสงบ” อันเนื่องมาจากจากภูมิประเทศและทัศนียภาพที่เงียบสงบของเมืองเทนที่ตั้งของโรงกลั่น Glenmorangie ถือกำเนิดในปี 1843 โดยวิลเลียม เมเธอสัน (William Matheson) ใช้ประสบการณ์จากการที่เคยทำงานในโรงกลั่น ซึ่งทำการก่อตั้งโรงกลั่นในไฮแลนด์นั่นเอง มาตั้งโรงกลั่นของตัวเอง สั่งสมประสบการณ์จะได้ชื่อว่าเป็นผู้เริ่มการสร้างสรรค์ซิงเกิ้ล มอลต์ ที่มีความนุ่มนวล ซับซ้อน ลุ่มลึก
Glenmorangie ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกในการผลิตวิสกี้ ด้วยผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ นอกเหนือจากความพิเศษที่มีหลายอยู่อย่าง เช่น น้ำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญมาจากแหล่งน้ำผุดทาร์ลอจี้ สปริง (Tarlogie Spring) เป็นน้ำที่ซึมผ่านชั้นหินและทรายขึ้นมาเสมือนเครื่องกรองอย่างดี ทำให้น้ำมีความสะอาดและบริสุทธิ์
อีกอย่างหนึ่งที่มีเอกลักษณ์หรือความพิเศษของ Glenmorangie คือ หอกลั่น (Pot Still) ที่มีความสูงถึง 5.41 เมตร สูงพอ ๆ กับยีราฟโตเต็มวัย เป็นหอกลั่นมอลต์ที่สูงที่สุดในสก็อตแลนด์ หอกลั่นนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อความงดงามหรืออย่างอื่น แต่ใช้ได้จริงจากการที่ไอแอลกอฮอล์ที่มีกลิ่นแรงจะมีมวลน้ำหนักมาก การระเหยของไอจะขึ้นไปไม่ถึงข้อเลี้ยวของท่อหอกลั่น ในขณะที่ไอแอลกอฮอล์ที่มีมวลเบายังสามารถลอยผ่านขึ้นมา ทำให้ได้เหล้ากลั่นที่มีความบริสุทธิ์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ร้าน Godfather ร้านจำหน่ายไวน์และสปิริตระดับคุณภาพจากทั่วโลก ในเซนทรัล เอมบาสซี ได้จัดงาน Glenmorangie Tasting มีการชิม Glenmorangie จำนวน 6 รุ่น หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นรุ่นพิเศษที่มีในเมืองไทยประมาณ 30 กว่าขวด โดยบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Glenmorangie ส่งผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำคือ ประวิทย์ บุญนิธิไพสิฐ Senior Brand Ambassador และวีรวิทย์ ภูววีรานินทร์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ดังนี้
“เกลนมอเรนจี ดิ อะริจจิเนิล ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ 10 ปี (Glenmorangie The Original Highland Single Malt Scotch Whisky 10 Years Old) : เป็นรุ่นที่ผู้ผลิตบอกว่าเป็น “The flagship single malt Scotch whisky from the Glemorangie Distillery in the Highlands” บ่มในถังโอคที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิน เลมอน แอปริคอต แอปเปิล ครีมมี วานิลลา ทอฟฟีกาแฟ สไปซี มอลต์หอม ๆ กลิ่นน้ำตาลไหม้คล้าย ๆ ขนมทิรามสึ จบค่อนข้างยาวด้วยความสดชื่นและกลิ่นนุ่ม ๆ ของมอลต์และผลไม้
“เกลนมอเรนจี เดอะ ลาซานตา ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ 12 ปี (Glenmorangie The Lasanta Highland Single Malt Scotch Whisky 12 Years Old) : คำว่า Lasanta เป็นภาษาเกลิก (Gaelic) หมายถึงอารมณ์และความรู้สึกที่แสนอบอุ่น น่าจะสื่อถึงรสชาติและน้ำเนื้อของวิสกี้ที่หอมหวน อบอุ่น ชวนสัมผัส จากการที่บ่มเริ่มจากถังที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิน จากนั้นบ่มในถังโอคที่ผ่านมาบ่มแชร์รี (Sherry) ถึง 2 ชนิดคือโอโลโรโซ (Oloroso) และเปโดร ฆิเนเนซ (Pedro Ximenez) โดยแชร์รี (Sherry) เป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปน มีรสหวานและหอมอบอวล ก่อนจะบรรจุขวดโดยไม่มีการกรองเย็น
….สีทองอัมพัน ดมครั้งแรกได้กลิ่นหอมของพลัมเตะจมูกค่อนข้างแรง ตามด้วยลูกเกด คาราเมล ชอกโกแลตนม และโอคหอมกรุ่น ฟรุตตี้ส่วนใหญ่จะเป็นดราย ฟรุต (Dried Fruit) นอกจากพลัมแล้วยังมี เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี และแยมเปลือกส้ม สไปซีเฮิร์บ อบเชย ฮาเซลนัท ข้าวเปลือก จบด้วยผลไม้ น้ำผึ้ง และชอกโกแลตขมนิด ๆ
“เกลนมอเอรนจี เดอะ คินตา รูบัน ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ 14 ปี (Glenmorangie The Quinta Ruban Highland Single Malt Scotch Whisky 14 Years Old) : ขณะที่รุ่น 12 ปีบ่มในถังที่ผ่านการบ่มแชร์รี (Sherry) ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปน รุ่น 14 นี้บ่มในถังที่ผ่านกมาบ่มพอร์ต (Port) ที่เป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของโปรตุเกส การบ่มในถังพอร์ตทำให้น้ำเนื้อของวิสกี้มีความซับซ้อนละเอียดอ่อนราวกำมะหยี่ ก่อนหน้านั้นบ่มในถังที่ผ่านมาบ่มเบอร์เบินเพื่อต้องการความกลมกล่อมและฟรุตตี้
สีเหลืองเข้มออกไปทางน้ำตาล ดมครั้งแรกได้กลิ่นเหมือนขนมทาร์ทผลไม้ ผสมกับขนมที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ ตามด้วยขนมปังกรอบ ชอกโกแลต ซีดาร์ สโมกี้โอค กาแฟร้อน ๆ ใส่นม ฟรุตตี้หลัก ๆ มีแบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี ลูกเกด ไม้ซีดาร์ ฮาเซลนัทคั่วหอม ๆ วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ จันทร์เทศ จบยาวด้วยเบอร์รีสุก ๆ ชอกโกแลต และสไปซีเฮิร์บ
“เกลนมอเรนจี เดอะ เนคเทอะ ดอร์ ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ (Glenmorangie The Nectar d’Or Highland Single Malt Scotch Whisky) : เป็นรุ่นที่บ่มในถังอเมริกัน โอค ที่ผ่านมาบ่มเบอร์เบิน จากนั้นบ่มต่อในถังบาร์ริก (Barriques) ซึ่งเป็นถังที่มีต้นกำเนิดในเมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) เมกกะแห่งการทำไวน์ของฝรั่งเศส มีความจุ 225 ลิตร (59 แกลลอน) บรรจุขวดโดยไม่กรองเย็นเพื่อรักษากลิ่นและ Mouthfeel ของวิสกี้ไว้ให้มากที่สุด ความพิเศษของรุ่นนี้คือถังบาร์ริกที่ใช้บ่มนั้นผ่านการบ่มไวน์หวานจาก อ.โซแตร์น (Sauternes) แหล่งผลิตไวน์หวานชื่อดังของฝรั่งเศสและของโลก และไวน์หวานราคาแพงที่สุดในโลกอยู่ที่นี่
สีทองอำพันสดใส เป็นรุ่นที่หอมอบอวลมาก แทบจะเรียกว่าอยากจะดมมากกว่าดื่ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นซีททรัสหอมเตะจมูกค่อนข้างแรง ตามด้วยเลมอน สไปซี่โอค วานิลลา ขนมปังขิง และน้ำผึ้ง ตามด้วยน้ำเชื่อมผลไม้ ขนมคัสตาร์ด เนยอุ่น ๆ น้ำตาลทรายแดง จบยาวด้วยน้ำผึ้ง โอค เลมอน ขนมปังขิง ท่านที่ชอบค็อกเทลเขาแนะนำให้ดื่มแบบไฮบอล (High Ball) ที่มีส่วนผสมของเกรฟฟรุต โซดา และเลมอนสักซีก
“เกลนมอเรนจี อิคซ์ทรีมลี แรร์ ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ 18 ปี (Glenmorangie Extremely Rare Highland Single Malt Scotch Whisky 18 Years Old) : เป็นรุ่นที่บ่ม 15 ปีในถังอเมริกัน ไวท์ โอค ที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิน จากนั้นเอา 30% ไปบ่ม 3 ปีในถังโอคที่ผ่านการบ่มโอโลโรโซ แชร์รี (Oloroso Sherry) ซึ่งเป็นแชร์รีประเภทดรายและฟูลบอดี้ ก่อนจะบรรจุขวดในแอลกอฮอล์ 43% …เป็นซิงเกิ้ล มอลต์ สไตล์ Creamy & Fruity สีเหลืองทองสดใส ดมครั้งแรกสัมผัสได้ถึงความเป็นครีมมี พร้อมกลิ่นหอมที่ค่อนข้างโดดเด่นของซีททรัส อบเชย และคาราเมล ฟรุตตี้หลัก ๆ มีพีช แพร์ แกรฟฟรุต แอปเปิ้ลเชื่อม แอปริคอตสุก ๆ ดอกไม้ น้ำผึ้ง ครีมเนย ขนมปังบัตเตอร์สก็อตช์ คาราเมลไหม้ ๆ เหมือนหน้าเหมือนขนมปันนาคอตต้า สไปซี่เฮิร์บแห้ง ๆ จบยาวด้วยผลไม้เชื่อม คาราเมล น้ำผึ้ง และโอคหอมกรุ่น
“เกลนมอเรนจี ซิกนิท ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ (Glenmorangie Signet Highland Single Malt Scotch Whisky) : เป็นรุ่นระดับคลาสสิคของเขา ซึ่ง ดร.บิลล์ ลัมส์เดน (Dr. Bill Lumsden) ในฐานะ Master of Whisky Creation ของ Glenmorangie บอกว่าเป็น “Lifetime of experimentation and innovation” กลั่นจากมอลต์ บาร์เลย์ 2 ชนิดคือ Cadball จากไร่เดียว และ Malted Chocolate Barley ซึ่งอย่างหลังนี้นิยมใช้ทำคราฟ์เบียร์ กลั่น 2 ครั้ง โดยทีมนักกลั่นที่เรียกว่า “Sixteen Men of Tain” บ่มในถังโอคใหม่เอี่ยมอ่อง แอลกอฮอล์ 46% บรรจุขวดโดยไม่กรองเย็น
ชื่อรุ่น “Signet” หมายถึงตราประทับ มาจากศิลาจารึก Pictich Cadboll ทำจากหิน Hilton of Cadball Stone ที่ถูกผู้คนในท้องถิ่นได้ค้นพบใกล้กับโรงกลั่น Glenmorangie อายุคาดว่าประมาณ 800 AD ลักษณะทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมีลวดลาย เป็นศิลปะและงานฝีมือที่งดงามและมีเอกลักษณ์ สื่อถึงซิงเกิ้ล มอลต์ ที่ทางโรงกลั่นได้รังสรรค์ขึ้นมา ปัจจุบันศิลาจารึกนี้ ถูกเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสก็อตแลนด์ ทางโรงกลั่นได้ขออนุญาตนำมาใช้เป็นเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้อง
สีเหลืองทองเข้มสดใส ดมครั้งแรกได้กลิ่นชอกโกแลต เรซิน ค่อนข้างชัดเจน สไปซี ขนมปัง เนย น้ำเชื่อมผลไม้ ลิ้นจี่ ขมนิด ๆ สไปซี่ อบเชย เปลือกส้ม เปลือกมะนาว เม็ดกาแฟคั่ว เห็ดทรัฟเฟิ่ล ใบยาสูบแห้ง ๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จบยาวด้วยชอกโกแลต มอลต์หอมกรุ่น ทรัฟเฟิ่ลออย เป็นรุ่นที่ถ้ามีโอกาศไม่ควรพลาดในการลิ้มรสสักครั้งในชีวิต
สำหรับ ดร.บิล ลัมส์เดน (Dr. Bill Lumsden) นั้นไม่ธรรมดา จบ PhD ด้านชีวเคมี เข้ามาทำงานกับเกลนมอเรนจี ในปี 1995 มีชื่อเสียงทางด้านเทคนิคการจัดการเรื่องโอค ได้ทดลองใช้ถังบ่มไม้โอคที่มีความพิเศษ ในหลายรุ่นอายุมาบ่มวิสกี้ ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการโรงกลั่น ฝ่ายสร้างสรรค์วิสกี้ และวิสกี้สต็อก ของเกลนมอเรนจี ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมมอลต์ วิสกี้ในฐานะผู้ริเริ่มนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มารังสรรค์วิสกี้ ซึ่งว่ากันว่าเปรียบเสมือน การปฏิวัติตลาด ซิงเกิ้ล มอลต์
ดร.บิลได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย เช่น ปี 2012 ทำให้โรงกลั่นเกลนมอเรนจี ได้รับยกย่องให้เป็นโรงกลั่นแห่งปีจาก IWSC 2012 ต่อมาในปี 2015 เขาได้รับยกย่องให้เป็นผู้กลั่นแห่งปีจาก ISC,มาสเตอร์ ดิสทิลเลอร์/เบลนเดอร์ แห่งปี 2016 ในงานประกาศรางวัลบุคคลยอดเยี่ยมในวงการวิสกี้ ปี 2016 ที่จัดโดย Whisky Magazine พร้อมด้วยรางวัล มาสเตอร์ ดิสทิลเลอร์ แห่งปี 2016 และ 2017 จากงาน International Whisky Competition’s award ปีต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็น ดิสทิลเลอร์ แห่งปีจาก ISC 2018 เป็นต้น
“เกลนมอเรนจี แกรนด์ วินเทจ ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้ 1996 (Glenmorangie Grand Vintage Highland Single Malt Scotch Whisky 1996) : เป็นหนึ่งในรุ่นที่สุดยอดของเขา กลั่นในปี 1996 บ่มโอคที่มาจากภูเขา โอซาร์ค (Ozark Mountain) ในรัฐมิซซูรี (Missouri) ถูกบ่มเบอร์เบินแล้วนำมาบ่มวิสกี้ตัวนี้ บ่มมาเรื่อย ๆ ก่อนจะมาบรรจุขวดในปี 2018 ทุกขวดมีหมายเลขประจำ ในเมืองไทยมีอยู่ประมาณ 30 ขวด ราคาขายอยู่ที่ 40,000 บาทมีทอน 10 บาท เป็นรุ่นที่ควรสะสมอย่างยิ่ง ราคาขึ้นทุกเดือน
สีอำพันเข้ม กลิ่นหอมอบอวลมาก เป็นรุ่นที่รสชาติละมุน คลาสสิค ดมครั้งแรกได้กลิ่นขนมปังปิ้งผสมผสานกับสไปซี่กรุ่น ครีมมี ตามด้วยอบเชย ทอฟฟีกาแฟ ขนมคัสตาร์ด วานิลลา อัลมอนด์คั่ว เอสเปรสโซ่กรุ่น ๆ ไอโอดีนนิด ๆ ฟรุตตี้มีพีช แพร์ และแอปเปิ้ล เป็นหลัก ใบยาสูบ มินต์ จบยาวด้วยความหอมหวานของขนมคัสตาร์ด วานิลลา อบเชย และเฮิร์บแห้ง ๆ เป็นซิงเกิ้ล มอลต์ที่ต้องดื่มสักครั้งในชีวิต
ทั้งหมดนั้นคือเศษเสี้ยวหนึ่งของ “เกลนมอเรนจี” (Glenmorangie) ซึ่งจริง ๆ ยังมีอีกมากมาย อย่างไรก็ตามการที่ได้รับเลือกให้อยู่ในเครือ LVMH ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน..!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...