“เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก” อัศจรรย์แห่งเค้กกับซิงเกิ้ล มอลต์

Cod Spring Roll

Dominique Ansel

Dr. Bill Lumsden

Glenmorangie A Tale of Cake

Peach Tart

Seared Kuhlbarra Barramundi Fish

Signet

The  Lasanta

The Nectar d'Or

The Original

The Quinta Ruban

Truffle & Mushroom Soup

Welcome Drink

เชิญแขก

ตัวอย่างไวน์ Tokaji

บรรยากาศในงาน

ร้าน Water Library Central Embassy

โรงกลั่น Glenmorangie
ในโลกของ “ซิงเกิ้ล มอลต์ สก็อต วิสกี้” (Single malt Scotch whisky) นั้นชื่อของ “เกลนมอเรนจี” (Glenmorangie) แห่งเมืองเทน (Tain) เขตรอสเชียร์ (Ross Shire) ประเทศสก็อตแลนด์ รับประกันความผิดหวังด้วยประการทั้งปวง ไม่เช่นนั้น LVMH (Louis Vuitton Moët Hennessy) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หรูหร อยู่ในเครือมากมายแทบทุกแขนงคงไม่นำเข้ามาอยู่ในเครือแน่นอน
“เกลนมอเรนจี” สังกัดเขตไฮแลนด์(Highlands) 1 ใน 5 เขตผลิตซิงเกิ้ล มอลต์ ของสก็อตแลนด์ ชื่อ Glenmorangie มาจากภาษาเกลิก (Gealic) แปลว่า หุบเขาแห่งความเงียบสงบ โดยวิลเลียม เมเธอสัน (William Matheson) ใช้ประสบการณ์จากการที่เคยทำงานในโรงกลั่น มาตั้งโรงกลั่นของตัวเองในปี 1843 ปัจจุบันผลิตซิงเกิ้ล มอลต์หลายรุ่น ล่าสุดที่แนะนำสู่ท้องตลาดเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น คือ “เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก” (Glenmorangie A Tale of Cake) ที่ได้จับมือกับ “โดมินิก อันเซล” (Dominique Ansel) เพสตรี้เชฟคนดังแห่งนิวยอร์ก ผสมผสานเค้กกับซิงเกิ้ล มอลต์ ได้อย่างลงตัวและน่าอัศจรรย์
เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก (Glenmorangie A Tale of Cake) ถือกำเนิดเมื่อ ดร.บิล ลัมส์เดน (Dr. Bill Lumsden) ผู้อำนวยการฝ่ายรังสรรค์วิสกี้ของเกลนมอเรนจี (Glenmorangie’s Director of Whisky Creation) หวนรำลึกถึงคืนวันอันสนุกสนานที่สุดของเขาซึ่งมักมีเค้กเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ตั้งแต่การช่วยคุณยายอบขนมเค้ก จนถึงเค้กสับปะรดที่ลูกสาวของเขาทำให้ในวันเกิด ทำให้เขาฝันที่จะนำมนต์เสน่ห์ของเค้กมาใส่ไว้ในซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ (Single Malt Whisky) หลังจากนั้นจึงได้ทดลองบ่มเกลนมอเรนจี ในถังโอคที่ผ่านมาบ่มไวน์โตกาจิ (Tokaji / Tokay) ไวน์หวานชั้นเยี่ยมของโลกของประเทศฮังการี มาแล้วในขั้นตอนสุดท้าย จนได้ เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก ที่หอมกรุ่นด้วยมวลผลไม้ น้ำผึ้ง และดอกไม้
ขอกล่าวถึง “โตกาย” (Tokaji) สักนิด ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญหรือจุดเด่นของ Glenmorangie A Tale of Cake โดย Tokaji เป็นเขตผลิตไวน์เล็กๆ แต่สำคัญมาก อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฮังการี ได้รับการประกาศจาก UNESCO เป็นมรดกโลกในปี 2002 ภายใต้ชื่อ Tokaj Wine Region Historic Cultural Landscape เป็นแหล่งผลิตไวน์หวานที่สร้างชื่อเสียงให้ฮังการี ศักดิ์ศรีไม่เป็นรองไวน์หวานโซแตร์น (Sauternes) ของฝรั่งเศส
ไวน์โตกาย (Tokaji) ผลิตออกมา 3 ประเภทคือ 1.โตกาย ซาโมโรด (Tokaji Szamorodni) ประเภทไม่หวาน (Dry) 2.โตกาย อัสซู (Tokaji Aszu) ประเภทหวาน แบ่งย่อยเป็นหลายประเภท จะมีตัวเลข 1-5 ของปูตอนโยส์ (Puttonyos) อยู่ในฉลากข้างขวด ตัวเลขยิ่งมากยิ่งมีคุณภาพสูง คาดว่า Glenmorangie A Tale of Cake โดย Tokaji จะใช้ถังโอคที่ผ่านการบ่มโตกายประเภทนี้ และ 3.โตกาย อัสซู เอสเซนเซีย (Tokaji Aszu Essencia) ถือเป็นโตกายเกรดสุดยอดที่สุด ผลผลิตน้อยมาก
กรรมวิธีทำไวน์ Tokaji Aszu คล้ายกับการทำไวน์หวาน Sauternes ของฝรั่งเศส คือปล่อยให้แสงแดดเผาองุ่นสุกจนเน่าคาต้นและเหี่ยวย่น ซึ่งเรียกว่า Aszu หรือเกิดเชื้อราโบทายทิส ซีเนรา (Botrytis Cinera) ที่ผิวองุ่น จากนั้นจึงเก็บมาหมักเป็นไวน์ ชาวมายาร์ (Magyars) บรรพบุรุษของชาวฮังการีเชื่อว่าไวน์ชนิดนี้เป็นยาอายุวัฒนะ ขณะที่วงการไวน์ขนานนามว่า “The Wine of Kings,The King of Wines” แคแลคเตอร์ของโตกายดังกล่าวจะมีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง ผลไม้สุกคล้าย ๆ แยมผลไม้ รวมทั้งเค้กผลไม้ ดอกไม้ และมิเนอรัล
ด้วยเหตุดังกล่าว Glenmorangie A Tale of Cake จึงเหมาะอย่างยิ่งเมื่อดื่มเคียงคู่กับขนมเค้ก เป็นที่มาที่ทำให้เกลนมอเรนจีร่วมงานกับ โดมินิก อันเซล เพสตรี้เชฟ ผู้มีฉายาว่า “วิลลี วองกา แห่งนิวยอร์ก” ซึ่งมีความหลงใหลในการค้นหารสชาติใหม่ๆ เช่น ขนมโครนัท ที่ผสมระหว่างโดนัทกับครัวซองต์ของเขาจนโด่งดังไปทั่วโลก ขณะที่เค้กและวิสกี้จะนำมารวมตัวกันได้อย่างไร เขาต้องจินตนาการใหม่ ด้วยการทำเค้กสับปะรดที่ใส่ลูกเล่นพิเศษเฉพาะตัวเข้าไป โดยได้แรงบันดาลใจจากเกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก จับคู่กับค็อกเทลดั้งเดิมรสสับปะรด โดยเจเรมี เลอ บลานช์ มิกโซโลจิสต์ ผู้เชี่ยวชาญ จนได้ผลลัพธ์เป็น “เค้กเทล” ที่ลงตัว
ที่นิวยอร์กนั้นการจับคู่เค้กเทลของเกลนมอเรนจี มีบริการให้กับผู้โชคดีเพียงไม่กี่คนจากร้านขนมของเขา แต่เพื่อจะให้ทุกๆ คนได้ลิ้มรสความอร่อย โดมินิกและเจเรมี จะแบ่งปันสูตรที่ทำได้ง่ายที่บ้าน ผ่านทางภาพยนตร์สั้นเป็นซีรีส์ ซึ่งจะออกอากาศทางช่องทางโซเชียลของเกลนมอเรนจี
ขณะที่ดร.บิล กล่าวว่า “เช่นเดียวกับพวกเราหลายๆ คน ความทรงจำที่ผมโปรดปรานมากที่สุดมาจากเค้ก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยคุณยายทำอาหารในครัว หรือเค้กสับปะรดที่ลูกสาวทำเซอร์ไพรส์ให้ผมในวันเกิด การบ่มวิสกี้ในถังไวน์โตกายในขั้นตอนสุดท้าย ผมได้นำเอาความสุขของช่วงเวลาความเอร็ดอร่อยของขนมเค้กนั้นมาใส่ไว้ในเกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก วิสกี้ ซึ่งมีรสชาติที่น่าทึ่งเมื่อดื่มคู่กับขนมเค้ก และเป็นอะไรที่วิเศษมากเมื่อโดมินิก สามารถรังสรรค์ออกมาเป็นเค้กเทลส์ของเขา”
โดมินิก กล่าวว่า “ครั้งแรกที่ผมชิมเกลนมอเรนจี มันเปิดประสาทสัมผัสของผมสู่โลกอันน่าทึ่งของสีสัน รสชาติ และกลิ่น แต่ละอย่างคือการผจญภัย ผมไม่เคยคิดว่าจะชื่นชอบวิสกี้ได้มากขนาดนี้ แต่รสชาติของเกลนมอเรนจีมีความเป็นมิตร แม้การอบขนมและการทำวิสกี้เป็นโลกที่แตกต่างกัน แต่ก็มีบางอย่างที่คล้ายกัน ถ้าคุณสามารถผสมความหลงใหลในซิงเกิ้ล มอลต์ของ ดร.บิล เข้ากับความรักในขนมเค้กของผม คุณจะได้สิ่งที่ดีที่สุดของเราทั้งคู่”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ร้านอาหาร Water Library Central Embassy ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Glenmorangie ได้จัดรายการพิเศษแนะนำ เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก คู่กับเมนูพิเศษของทางร้าน พร้อมกับเกลนมอเรนจีอีกหลายรุ่น ดังนี้
เริ่มจาก Welcome Drink เป็นค็อกเทลที่มีใช้เกลนมอเรนจี ดิ ออริจินัล ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ 10 ปี (Glenmorangie The Original Highland Single Malt Scotch Whisky 10 Years Old) : เป็นส่วนผสมหลัก
เมนูแรกเป็น Cod Spring Roll : Tormato chutney,mushroom,bell pepper จับคู่กับ เกลนมอเรนจี เดอะ ลาซานตา ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ 12 ปี (Glenmorangie The Lasanta Highland Single Malt Scotch Whisky 12 Years Old) : Lasanta เป็นภาษาเกลิก (Gaelic) หมายถึงอารมณ์และความรู้สึกที่แสนอบอุ่น บ่มในถังที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิ้น จากนั้นบ่มในถังโอ๊คที่ผ่านมาบ่มแชร์รี (Sherry) ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปน ถึง 2 ชนิด ….สีทองอำพัน ดมครั้งแรกได้กลิ่นหอมของพลัมเตะจมูกค่อนข้างแรง ตามด้วยลูกเกด คาราเมล ช็อกโกแลตนม และโอ๊คหอมกรุ่น ฟรุตตี้ส่วนใหญ่จะเป็นดราย ฟรุต (Dried Fruit) นอกจากพลัมแล้วยังมี เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี และแยมเปลือกส้ม สไปซีเฮิร์บ อบเชย ฮาเซลนัท ข้าวเปลือก จบด้วยผลไม้ น้ำผึ้ง และช็อกโกแลตขมนิด ๆ
เมนูที่สอง Truffle & Mushroom Soup : goat cheese toast,white truffle oil จับคู่กับ เกลนมอเรนจี เดอะ คินตา รูบัน ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ 14 ปี (Glenmorangie The Quinta Ruban Highland Single Malt Scotch Whisky 14 Years Old) : บ่มในถังที่ผ่านกมาบ่มพอร์ต (Port) ที่เป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของโปรตุเกส….สีเหลืองเข้มออกไปทางน้ำตาล ดมครั้งแรกได้กลิ่นเหมือนทาร์ตผลไม้ ผสมกับขนมที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ ตามด้วยขนมปังกรอบ ช็อกโกแลต ซีดาร์ สโมกี้โอ๊ค กาแฟร้อน ๆ ใส่นม ฟรุตตี้หลัก ๆ มีแบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี ลูกเกด ไม้ซีดาร์ ฮาเซลนัทคั่วหอม ๆ วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ จันทน์เทศ จบยาวด้วยเบอร์รีสุก ๆ ช็อกโกแลต และสไปซีเฮิร์บ
เมนูที่สาม Seared Kuhlbarra Barramundi Fish : mash potato,spinach,ajar,black ink sauce จับคู่กับ เกลนมอเรนจี เดอะ เนคทาร์ ดอร์ ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ (Glenmorangie The Nectar d’Or Highland Single Malt Scotch Whisky) : บ่มในถังอเมริกันโอ๊ค ที่ผ่านมาบ่มเบอร์เบิ้น ต่อด้วยในถังบาร์ริก (Barriques) ผ่านการบ่มไวน์หวานจากโซแตร์น (Sauternes) แหล่งผลิตไวน์หวานชื่อดังของฝรั่งเศสและของโลก…สีทองอำพันสดใส เป็นรุ่นที่หอมอบอวลมาก มีกลิ่นซีทรัสหอมเตะจมูกค่อนข้างแรง ตามด้วยเลมอน สไปซี่โอ๊ค วานิลลา ขนมปังขิง และน้ำผึ้ง ตามด้วยน้ำเชื่อมผลไม้ ขนมคัสตาร์ด เนยอุ่น ๆ น้ำตาลทรายแดง จบยาวด้วยน้ำผึ้ง โอ๊ค เลมอน ขนมปังขิง
มาถึงไฮไลจ์ของงาน เมนูเป็น Peach Tart : caramelize,peach,vanilla cream,yoghurt sorbet จับคู่กับ เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก (Glenmorangie A Tale of Cake) ซึ่ง Dr. Bill Lumsden ใช้ Glenmorangie Original 10 Years มาบ่มในถังโอคที่ผ่านการบ่มโตกาย บรรจุขวดคล้าย ๆ ขวดรุ่น Glenmorangie Signet แอลกอฮอล์ 46 %
สีทองแดงค่อนข้างเข้ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นมอลต์คั่ว ตามด้วยผลไม้สุกฉ่ำหวานคล้ายแยม ที่โดดเด่นคือสับปะรดเชื่อม นอกนั้นก็มี พีช แอปปิ้ล ส้มจีน ซีทรัส แพร์ แอปริคอต สไปซี่ อบเชย โรสแมร์รี น้ำผึ้ง ดอกไม้ ครีมมี่นิด ๆ เมื่อเติมน้ำ 2-3 หยดมีกลิ่น ช็อกโกแลต เมนธอล และทอฟฟี่ผลไม้ จบยาวด้วยผลไม้หอมหวาน เปปเปอร์ อัลมอนด์
ปิดท้ายเป็นการช่วยย่อยด้วย เกลนมอเรนจี ซิกนิท ไฮแลนด์ ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อต วิสกี้ (Glenmorangie Signet Highland Single Malt Scotch Whisky) : เป็นรุ่นระดับคลาสสิกของเขา ที่กลั่นจากมอลต์ บาร์เลย์ 2 ชนิด โดยทีมนักกลั่นที่เรียกว่า “Sixteen Men of Tain” บ่มในถังโอ๊คใหม่ แอลกอฮอล์ 46% …สีเหลืองทองเข้มสดใส ดมครั้งแรกได้กลิ่นช็อกโกแลต เรซิน ค่อนข้างชัดเจน สไปซี ขนมปัง เนย น้ำเชื่อมผลไม้ ลิ้นจี่ ขมนิด ๆ สไปซี่ อบเชย เปลือกส้ม เปลือกมะนาว เม็ดกาแฟคั่ว เห็ดทรัฟเฟิล ใบยาสูบแห้ง ๆ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จบยาวด้วยช็อกโกแลต มอลต์หอมกรุ่น ทรัฟเฟิลออยล์ เป็นรุ่นที่ถ้ามีโอกาศไม่ควรพลาดในการลิ้มรสสักครั้งในชีวิต
“เกลนมอเรนจี อะ เทล ออฟ เค้ก” ในเมืองไทยมีเพียง 120 ขวด หาที่ไหนไม่ได้ไปที่ร้าน Water Library Central Embassy มีแน่นอน…!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...