อิตาลี…ดินแดนแห่งความฝันของคนรักศิลปะ อิตาลีมีศิลปินหลากหลายนามที่มีมันสมองอันเอกอุ เนรมิตและสร้างสรรค์ศิลปะที่บรรเจิดเพริดแพร้วให้อยู่คู่โลกเป็นอมตะนิรันดร์กาล
ทัสกานี…ดินแดนที่เป็นเสียงเพรียกหาของคนรักไวน์ทัสคานี ที่มีเคียนติเป็นแหล่งคนรักไวน์ เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่ขึ้นชื่อละบือไกลกระฉ่อนไปทั่วโลก
การนำทั้งสองอย่างนี้มารวมจนเป็นเนื้อเดียวกัน นับเป็นสวรรค์ของมนุษย์บนพื้นพิภพ ที่เต็มไปด้วยความสุขโขสโมสร รื่นรมย์ และสองสิ่งนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้วในแคว้นทัสกานี น่าอิจฉาคนอิตาเลียนเสียนี่กระไร…
มิเคลลันเจโล (Michelangelo),ลีโอนาโด ดา วินชี (Lionado da Vinci),จิออตโต (Giotto),บอตติเชลลี (Botticelli),ฟรา อันเจลิโก (Fra Angeligo),เปาโล อุชเชลโล (Paolo Uccello) ฯลฯ พวกเขาล้วนมีอารมณ์ศิลปินดุจดังตำนานศิลปินดังที่กล่าวนามนี้ ที่เกิดในยุคเรเนซองซ์ของอิตาลี ยุคที่ได้ชื่อว่าเป็นศตวรรษแห่งความรุ่งโรจน์ เป็นยุคทองแห่งการฟื้นฟูศิลปะและวัฒนธรรม
คนทัสกานีบรรจงสร้างศิลปะให้สวยงามโดดเด่นในสายตา ควบคู่ไปกับผลิตไวน์ที่อร่อยลิ้นเมื่อลิ้มรสเข้าปากแล้วยากที่จะลืมเลือน ใครที่ได้ไปเยือนทัสกานีแล้วยากจะลืมลง
“เปโตรโล” (Petrolo) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ประเภทศิลปินเน้นคุณภาพมากกว่าจำนวนหรือปริมาณ บริหารงานภายใต้ชื่อบริษัท Fattoria di Petrolo ตั้งอยู่ในตำบลแมร์กาตาเล วัลดาร์โน (Comune di Mercatale Valdarno) เมืองอาเรซโซ (Arezzo) มีแม่น้ำอาร์โน (Arno) เป็นเส้นเลือดสำคัญ ผสานกับฉากหลังที่เป็นเทือกเขาปราโตมาโญ (Pratomagno) ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่สามเหลี่ยมระหว่างเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ซิเอนา (Siena) และอาเรซโซ ซึ่งอาณาบริเวณรอบ ๆ แทบไม่มีไวนะรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังเลย แต่ชดเชยด้วยความโรแมนติกและเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านไวน์ ที่ทรงคุณค่าและเสน่ห์ของทัสกานี
เปโตรโล มีพื้นที่ปลูกองุ่นอยู่บนเนินเขาอาเรตีนี (Aretini) ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 250-400 เมตร โดยบนยอดของเนินเขาจะมี ตอร์เร ดี กาลาโตรนา (Torre di Galatrona) หอคอยแห่งกาลาโตรนา ที่ตั้งเด่นเป็นสง่ามาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของบริษัท
ครอบครัว “บาซซอคคี” (Bazzocchi) ซื้อเปโตรโลมาในช่วงปี 1940 นำโดยลูเชีย บาซซอคคี ซานจุสต์ (Lucia Bazzocchi Sanjust) และลูกา (Luca) ลูกชายทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ พร้อมทีมงานระดับมืออาชีพทุกส่วนของการทำไวน์ เช่น Carlo Nesterini ดูและเรื่องดินโดยเฉพาะ Simone Cuccoli เป็นไวน์เมกเกอร์ตั้งแต่ปี 2002 จนถึงปัจจุบัน และนำชื่อหอคอย Galatrona มาตั้งเป็นชื่อรุ่นของไวน์ตัวท็อปด้วย
ผมเจอกับ ดร.ลูกา ซานจุสต์ (Dr.Luca Sanjust) ทายาทเจ้าของไวน์ เปโตรโล ที่เดินทางเมืองไทย ตามคำเชิญของบริษัท Estellawine ผู้นำเข้า เพื่อแนะนำไวน์ของเขาในงานไวน์ดินเนอร์ที่ร้าน Enotega ย่านสุขุมวิท และกล่าวถึงไวน์ของตระกูลหลายอย่าง ผมชอบตอนที่เขาบอกว่า
….
“Making a great wine is complex. You need a coincidence of several circumstances; special pedoclimatic conditions, awareness, dedication and hard work. And also a good portion of luck.”
สำหรับไวน์ที่นำมาจับคู่กับอาหารซึ่งเป็นสไตล์โฮมเมดมี 4 รุ่นดังนี้
เปโตรโล บ็อกจีนา อันฟอรา รอสโซ ไอจีที 2012 (Petrolo Boggina Anfora Rosso IGT 2012) : ทำจากซานโจเวเซ (Sangiovese) 100% หมักในแอมโฟรา (Amphora) หรือไหดินเผาที่สมัยโบราณใช้หมักไวน์ เป็นเวลา 6 เดือน สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก ๆ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี มิเนอรัล โอคกรุ่น ๆ เฮิร์บ แทนนินสุกนวลเนียน แอซสิดดีมากดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยแบล็คเชอร์รี และเฮิร์บชุ่มคอ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก….18.5/20 คะแนน
เปโตรโล บ็อจจีนา รอสโซ ไอจีที 2011 (Petrolo Boggina Rosso IGT 2011) : ทำจากซานโจเวเซ (Sangiovese) 100% เป็นองุ่นจากไร่เดียว (Single vineyard) บ่ม 18 เดือนในถังโอคฝรั่งเศส สีแดงเข้ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นคล้าย ๆ อ๊อกซิไดซ์นิด ๆ แต่นาน ๆ ก็หายไป มีความหอมมาแทนที่ โดยเฉพาะกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี บลูเบอร์รี และพรุนกรุ่น ๆ ควันไฟ โอคหอมกรุ่น ๆ เฮิร์บแห้ง ๆ แทนนินนุ่มเนียน แอซสิดระรื่นชื่นใจ จบยาวด้วยผลไม้และเฮิร์บ….18/20 คะแนน
เปโตรโล คัมโป ลูซโซ ไอจีที 2011 (Petrolo Campo Lusso Rosso IGT 2011) : เป็นรุ่นที่ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 100 % เป็นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง สไตล์ Mountain Cabernet Sauvignon ปลูกในปี 2001 ในไร่ที่มีพื้นที่เพียง 0.50 เฮกตาร์ องุ่นไม่เกิน 5,000 ต้นอยู่ภายใต้ร่มเงาของหอคอย Galatrona บ่ม 18 เดือนในโอคฝรั่งเศส ผลิตปีละประมาณ 600 ขวดเท่านั้น
สีแดงเข้ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นคล้าย ๆ ไอโอดีนและหินที่ถูกแดดเผานานาน ๆ ตามด้วยกรีน เปปเปอร์ พร้อมด้วยผลไม้สุก เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี และแบล็คเชอร์รี เหล้าเครม เดอ คลาสซิส มิเนอรัล กาแฟ ชอกโกแลต ใบยาสูบ สไปซี เฮิร์บ จันทน์เทศ อบเชย บอดี้หนักแน่น แทนนินนุ่มเนียนพลิ้ว แอซสิดดีมาก จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล และเฮิร์บ เป็นหนึ่งในแบร์เนต์ โซวีญยองของทัสกานีที่ยอดเยี่ยมมาก ….19/20 คะแนน
เปโตรโล กาลาโตรนา รอสโซ ไอจีที 2012 (Petrolo Galatrona Rosso IGT 2012) : รุ่นเรือธงที่ตั้งชื่อตามหอคอย Galatrona ที่เห็นในฉลากและเป็นชื่อของไร่ด้วย ทำจากแมร์โลต์ (Merlot) 100 % ซึ่งเป็นโคลนมาจากบอร์กโดซ์ ฟังเจ้าของเล่าให้ฟังถึงกระบวนการทำแล้วทึ่งมาก เริ่มจากแช่น้ำองุ่นพร้อมเปลือก 14 วัน จากนั้นส่งไปหมักแบบมาโลแลคติก (malolactic) ในถังโอค ก่อนจะถ่ายไปบ่มในถังโอคฝรั่งเศสประมาณ 18 เดือน ผลิตปีแรก 1994 ในจำนวนปีละไม่เกิน 20,000 ขวด วินเทจนี้ผลิตเพียง 15,000 ขวด
Galatrona เป็นไวน์สไตล์มีชีวิตชีวา ดีดดิ้น แต่ประณีต สีแดงเข้ม หอมกลิ่นแบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี พลัม และลูกเกด ชอกโกแลต กาแฟ มิเนอรัล ควันไฟ สไปซีโอคกรุ่น ๆ เฮิร์บแห้ง ๆ แทนนินยังหนักแน่นแต่นุ่มเนียน แอซสิดส่งเสริมกับผลไม้ได้ดีมาก จบยาวด้วยผลไม้สุก เฮิร์บ และชอกโกแลต กำลังเริ่มสุกและเริ่มดื่มได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่สำคัญดื่มเผิน ๆ ละม้ายไปทางไวน์ปอเมอโฮรล (Pomerol) ของฝรั่งเศสมาก…..18.5/100 คะแนน
“Three glasses for the Galatrona probably doesn’t surprise anyone anymore…the Sanjust family continue to reap the fruits of years of work focused on absolute uncompromised quality”
เป็นข้อความที่ กัมเบโร รอสโซ (Gambero Rosso) เจ้าของหนังสือไวน์อิตาลีชื่อดัง Vini d’Italia มีการเรตติ้งไวน์ด้วยการให้จำนวนแก้ว (Bicchieri) สูงสุดคือ 3 แก้ว และ Galatrona ตัวนี้ก็ได้ 3 แก้วดังกล่าว
องุ่นแมร์โลต์ (Merlot) ถูกนำเข้ามาปลูกในอิตาลีเป็นครั้งแรกราวกลางศตวรรษที่ 19 แถว ๆ เมืองเวนิส (Venice) แคว้นเวเนโต ระยะเริ่มแรกเป็นพระรอง ถูกใช้เบลนด์กับองุ่นพื้นเมืองของอิตาลี เช่น ซานโจเวเซ (Sangiovese) มอนเตปูลชาโน (Montepulciano) และเนบบิโอโล (Nebbiolo) เป็นต้น หลังจากทำความรู้จักกับดินฟ้าอากาศอย่างดีแล้ว แมร์โลต์จึงก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกแบบเดี่ยว ๆ และสามารถทำได้ดีมาก หลังจากนั้นจึงพบว่าแคว้นทัสกานี (Tuscany) ปลูกแมร์โลต์ได้ดีกว่าที่อื่น ผู้ผลิตหลายรายทำได้ยอดเยี่ยมมาก เช่น มาสเซโต (Masseto) เป็นแมร์โลต์ที่น่าจะเรียกได้ว่าแพงที่สุดของอิตาลี
“Proprietor Luca Sanjust and his team continue to make some of the most sensual, pleasurable wines in Tuscany.” …Wine Advocate
“Sanjust now makes one of the best merlots in Italy,Galatrona,which has been compared to some of the top names in Bordeaux, including Petrus.” …Wine Spectator
ข้อความที่ 2 นิตยสารไวน์ชื่อดังกล่าวถึงไวน์ Petrolo โดยตระกูล Sanjust ซึ่งหลังจากได้ชิมไวน์ของเขาแล้ว คงต้อบอกว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่สามารถผสมผสานสายเลือดและความเป็นศิลปินแห่งการทำไวน์ได้อย่างลงตัว.