สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) แห่งอังกฤษ พระราชทานจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ (State Dinner) เพื่อเป็นเกียรติกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐ ที่เดินทางมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเมื่อค่ำวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ พระราชวังบักกิ้งแฮม (Buckingham Palace) กรุงลอนดอน
งานนี้มีแขกรับเชิญ 150 คน มีบุคคลระดับสูงเข้าร่วมงานหลายท่าน ซึ่งก็รวมถึงเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมารอังกฤษ พร้อมด้วยพระชายา ดัชเชชแห่งคอร์นวอล ,ดยุ๊คและดัชเชชแห่งเคมบริดจ์ รวมถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ สำหรับทรัมป์แล้ว งานนี้ก็เป็นเสมือนงานเลี้ยงครอบครัว เพราะนอกจากทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลข 1 เมลาเนีย ทรัมป์แล้ว ลูก ๆ ที่โตแล้วอีก 4 คนของทรัมป์พร้อมครอบครัว ก็มาร่วมงานด้วย อย่างสำหรับอีวานกา ทรัมป์ ลูกสาวของทรัมป์ งานนี้ ก็พาสามีคือจาเหล็ด คุชเนอร์มาร่วมงานด้วย โดยทั้งสอง ต่างก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับอาวุโสในทำเนียบขาวทั้งคู่
State Dinner หรือ State Banquet เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ประมุขของรัฐผู้รับจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุขของรัฐผู้มาเยือน สำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำซึ่งประมุขของรัฐผู้มาเยือนอย่างเป็นทางการ จัดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนแก่ประมุขของรัฐผู้รับ เรียกว่า Return Banquet
เมนูอาหาร ประกอบด้วยสตาร์ตเตอร์ Steamed halibut with watercress mousse and asparagus spears เมนคอร์ส Saddle of Windsor lamb with herb stuffing and a Port sauce ของหวาน Strawberry sale with lemon verbena
ส่วนไวน์ประกอบด้วยตัวแรกสปาร์คกลิ้งเสิร์ฟเป็นรีเซฟชั่น วินเซอร์ เกรท พาร์ค วินเยิร์ด 2014 (Windsor Great Park Vineyard 2014) ที่เป็นสปาร์คกลิ้งส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ผลิตจากไร่องุ่นใน Windsor Great Park โดยสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงใช้สปาร์คกลิ้งไวน์ตัวนี้ กล่าวต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมพระราชดำรัสความว่า
“I invite you all to rise and drink a toast to President and Mrs Trump, to the continued friendship between our two nations, and to the health, prosperity and happiness of the people of the United States.”
ตามด้วยสปาร์คกลิ้งไวน์ของอังกฤษ แต่เป็นโรเซ แฮมเบิลดัน คลาสสิค คูเว โรเซ เอ็นวี (Hambledon Classic Cuvee Rosé NV.) สำหรับเมนูจานแรกหรือสตาร์ตเตอร์ ปัจจุบันอังกฤษสามารถทำสปาร์คกลิ้งไวน์ได้คุณภาพที่ไม่เป็นรองชอมปาญของฝรั่งเศส (Champagne) ผมเคยชิมเปรียบเทียบกับชอมปาญ โดยไม่เห็นยี่ห้อและข้อมูลใด ๆ ปรากฏว่าสปาร์คกลิ้งของอังกฤษหลาย ๆ ตัวได้คะแนนสูงกว่าชอมปาญ
ส่วนเมนคอร์สเสิร์ฟพร้อมสุดยอดไวน์แดง 2 ตัว ๆ แรก ชาโต ลาฟิต ร็อธชิลด์ 1990 (Château Lafite Rothschild 1990) ซึ่งวินเทจ 1990 นั้นถือว่าเป็นวินเทจยอดเยี่ยมของชาโตแห่งนี้ ที่เป็น 1 ใน 5 เสือแห่งบอร์กโดซ์ (ที่เหลืออีก 4 ตัวคือชาโต ลาตูร์ (Château Latour), ชาโต มาร์โกซ์ (Château Margaux),ชาโต โอต์ บริอง (Château Haut-Brion) และชาโต มูตง ร็อธส์ชิลด์’ (Château Mouton Rothschild) ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่มีราคาแพงระดับต้น ๆ ของโลก ในตลาดเมืองไทยน่าจะขวดละกว่า 200,000 บาท
เมื่อเร็ว ๆ นี้สถาบันจัดการประมูลคริสตี้ จัดการประมูลไวน์ที่ฮ่องกง ปรากฎว่าไวน์ “ชาโต ลาฟิต ร็อธไชลด์” จำนวน 300 ขวด วินเทจ 1981-2005 ไป มีผู้ประมูลไปในราคา 540,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 16,200,000 บาท ทำสถิติไวน์ชุดเดียวที่แพงที่สุดในโลกในการประมูลปีนี้ ไวน์ชาโต ลาฟิต ร็อธไชลด์ และไวน์ยี่ห้อดังอื่นๆ จากเมืองบอร์กโดซ์ ของฝรั่งเศส ราคาพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนสูงถึง 12 เท่าตัวในรอบ 10 ปีหลัง เพราะเป็นที่นิยมของเศรษฐีชาวจีน
ตัวที่ 2 หลุยส์ ฌาโดต์ โดเมน ดุซ เดอ มาเกนตา,เปรอะมิเอร์ กรู มอร์เกอต์ โคลส์ เดอ ลาชาเปลล์ โมโนโปล,ชาสซาญ – มอนตราเชต์ 2014 (Louis Jadot’s Domaine Duc de Magenta,1er Cru Morgeot Clos de la Chapelle Monopole, Chassagne-Montrachet 2014) หลุยส์ ฌาโดต์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์คุณภาพแห่งแคว้นเบอร์กันดี ของฝรั่งเศส และรุ่นนี้ก็ถือเป็นสุดยอดของเขา
ส่วนของหวานเสิร์ฟกับ เซอร์ชิลส์ วินเทจ พอร์ต 1985 (Churchill’s Vintage Port 1985) พอร์ตที่เป็นผู้ผลิตพอร์ต ไวน์ชื่อดังของโลกในโปรตุเกส และมีเจ้าของเป็นคนอังกฤษ ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิลอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ
หลังจากนั้นวันต่อมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐ ที่เลี้ยงตอบแทน โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ล (Prince Charles) เสด็จเป็นตัวแทนพระองค์ และจัดดินเนอร์ที่วินฟีลด์ เฮาส์ (Winfield House) บ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอังกฤษ ในลอนดอน
ไวน์ที่เสิร์ฟในงานมียี่ห้อเดียวคือ ไอรอน ฮอร์ส (Iron Horse) ไวน์ดีที่อยู่ในเซบาสโทพอล (Sebastopol) โซโนมา เคาน์ตี (Sonoma County) โดยมีการจับคู่กับอาหารดังนี้
คอร์สแรก Salad of heritage tomatoes,fresh burrata and basil จับคู่กับไวน์ ไอรอน ฮอร์ส “ฮาร์ท ออฟ เดอะ วินเยิร์ด” ชาร์โดเนย์ 2016 (Iron Horse ‘Heart of the Vineyard’ Chardonnay 2016) ไวน์ขาวที่ทำจากชาร์โดเนย์บ่มโอคกรุ่น ๆ
เมนคอร์ส Grilled filet of beef จับคู่กับไอรอน ฮอร์ส “นอร์ธ บล็อก” ปีโนต์ นัวร์ 2016 (Iron Horse ‘North Block’ Pinot Noir 2016) เป็นปีโนต์ นัวร์ที่รสชาติหนักแน่น ฟูลบอดี้ ตามสไตล์ไวน์แคลิฟอร์เนีย จึงสามารถจับคู่กับเนื้อย่างได้
ของหวาน Summer berries with homemade vanilla ice cream จับคู่กับไอรอน ฮอร์ส จอย ! บรุต รีเสิร์ฟ สปาร์คกลิ้ง 2005 (Iron Horse Joy! brut reserve sparkling 2005) สปาร์คกลิ้งตัวนี้มาจากเขตควบคุมกรีน แวลลีย์ (Green Valley AVA) ในรัสเซียน ริเวอร์ แวลลีย์ (Russian River Valley) หนึ่งในเขตผลิตไวน์ยอดเยี่ยมของแคลิฟอร์เนียน โดยที่เสิร์ฟครั้งนี้เป็นขวดแม็กนั่ม (magnum) สำหรับสปาร์คกลิ้งของ Iron Horse นั้นถูกใช้ในงานของทำเนียบขาวมายาวนาน นับตั้งแต่ประธานาธิบดี 5 คนล่าสุดเป็นต้นมา
นั่นเป็นอีกหนึ่งเมนูไวน์และอาหารชุดประวัติศาสตร์..!!