“เวรามอนเต”สายใยวัฒนธรรมไวน์ชิลี-สเปน

ชิลี (Chile) ผลิตไวน์มากว่า 500 ปี เป็นชาติเก่าแก่ที่สุดในบรรดาผู้ผลิตไวน์โลกใหม่ด้วยกัน ซึ่งนานกว่าการทำไวน์ในแคลิฟอร์เนียถึง 300 ปี และเก่ากว่าไวน์ของออสเตรเลียประมาณ 200 ปี โดยชาวสเปนซึ่งเข้ามายึดครองอเมริกาใต้ ได้นำพันธุ์องุ่นจากยุโรปเข้ามาปลูกในดินแดนแถบนี้เป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 15-16
ชิลีเป็นหนึ่งในชาติผลิตไวน์ที่มีองค์ประกอบ “สามเหลี่ยมแห่งความสมบูรณ์ลงตัวของการผลิตไวน์” ซึ่งมีอยู่ในชาติที่ผลิตไวน์ดีของโลก เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรเลีย และแคลิฟอร์เนีย องค์ประกอบ 3 ประการดังกล่าวคือสภาพภูมิอากาศ (Climate) ชั้นดิน (Soil) และพันธุ์องุ่น (Grape Varieties) ทุกอย่างลงตัวมาก
ชิลีเป็นชาติเดียวในทวีปอเมริกาใต้ที่รอดพ้นจากการทำลายของแมลงฟีลลัคเซอะระ (Phylloxera) ซึ่งทำลายไร่องุ่นทั่วยุโรปราวกลางศตวรรษที่ 19 และชิลีก็ใช้จุดนี้ผสมผสานกับฝีมือ เทคโนโลยีทันสมัย และไวน์เมกเกอร์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันชั้นสูงในศาสตร์แห่งไวน์ทั้งในชิลี อเมริกาและยุโรป ผลิตไวน์จนกระทั่งก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบคุณภาพกับราคาขวดต่อขวด ชิลีทำได้เหนือกว่าชาติใดในโลก
ชาวสเปนได้ฝากวัฒนธรรมการทำไวน์ไว้กับชิลี กระทั่งกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจของชิลี และมีผู้ผลิตไวน์จากสเปนไปลงทุนผลิตไวน์ในชิลีเป็นจำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนั้น “กอนซาเลซ บายยาสส์” (González Byass) เมื่อปี 1835 เมื่อ มานูเอล มาเรีย กอนซาเลซ แอนเจล (Manuel María González Ángel) หนุ่มน้อย ผู้มีอนาคตไกลตัดสินใจเดินเข้าสู่ถนนสายไวน์ เริ่มจากการเรียนรู้กับโฆเซ แอนแจล (José Ángel) ลุงของเขาที่ทำแชร์รี (Sherry) ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปนอยู่แล้ว ภายใต้ชื่อ “ตีโอ เปเป” (Tío Pepe) ทำให้เขารู้จักกับ โรเบิร์ต แบล็ก บายแอสส์ (Robert Blake Byass) ชาวอังกฤษ ในปี 1844 ในฐานะเอเยนต์ที่สั่งแชร์รี Tío Pepe มาขายในอังกฤษ และทำธุรกิจร่วมกัน ภายใต้ชื่อ “González Byass”
กระทั่งปี 1988 ทั้งคู่ยุติข้อตกลงทำธุรกิจไวน์ร่วมกัน ทำให้ธุรกิจไวน์และไวเนอะรีตกอยู่กับทายาทของ Manuel María González ซึ่งปัจจุบันดำเนินกิจการและเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงรุ่นที่ 5 ในฐานะ Family of Wine โดยมีฐานการผลิตไวน์อยู่ในเฆเรซ (Jerez) เมืองและเขตปกครองของสเปนในจังหวัดคาดิซ (Cádiz) แคว้นอันดาลูเซีย (Andalusia) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน
González Byass ภายใต้การนำของประธาน มัวริซิโอ กอนซาเลซ กอร์ดอน (Mauricio González-Gordon) มีไร่องุ่นอยู่ในพื้นที่หลายแห่งในสเปน เช่น Bodegas Beronia -D.O.Ca. Rioja-, Viñas del Vero -D.O. Somontano-, Cavas Vilarnau -D.O. Cava-, Finca Constancia -V.T. Castilla-, Finca Moncloa -V.T. Cádiz-, Beronia Verdejo -D.O. Rueda- and Pazos de Lusco -D.O. Rías Baixas เป็นต้น ล่าสุด González Byass) ได้รับรางวัล Best European Winery of the Year 2018 ที่จัดโดยนิตยสาร Wine Enthusiast
หลังจากนั้นปี 2016 จึงขยายอาณาจักไปยังต่างประเทศด้วยการซื้อ “เวรามอนเต” (Veramonte) ในประเทศชิลี อยู่ในเขตผลิตไวน์คาซาบลังกา (Casablanca) หนึ่งในเขตผลิตไวน์ที่สำคัญของชิลี ก่อตั้งในปี 1835 โดยอกุสตีน อูนีอุส (Agustín Huneeus) หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการไวน์ชิลี และเป็นคนแรก ๆ ที่เข้ามาลงทุนในคาซาบลังกา ที่สำคัญเป็นผู้แนะนำชาวโลกให้รู้จัก Veramonte และ Casablanca
Veramonte มีพื้นที่ 2,500 เฮกแตร์ ส่วนหนึ่งในจำนวนนี้มีไร่องุ่นอยู่ในอาปัลตา (Apalta) เขตคอลชาเกา (Colchagua) ซึ่งเป็นเขตที่มีไร่องุ่นเก่าในโลกด้วย ถูกผลิตวินเทจแรกคือ 1996 นอกจากผลิตไวน์ด้วยความพิถีพิถัน เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณแล้ว ปัจจุบัน Veramonte ยังให้ความสำคัญกับการปลูกองุ่นแบบออร์แกนนิค (Organic) ไม่ใช้สารเคมีการการผลิตไวน์ นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
“โบเดกัส เบโรเนีย” (Bodegas Beronia) ไวน์จากพื้นที่ดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 BC เคยเป็นที่อยู่ของชาวเบโรเนส (Berones) กองกำลังทหารเซลติก (Celtic) ที่มาตั้งอยู่ในพื้นที่ Beronia ปัจจุบันเรียกพื้นที่นี้ว่าลา ริโอฆา (La Rioja) โดย Bodegas Beronia ก่อตั้งในปี 1973 อยู่ในออลโลรี (Ollauri) ในเขตริโอฆา อัลตา (Rioja Alta) และ González Byass มองเห็นศักยภาพจึงเข้าไปซื้อกิจการ ผลิตไวน์ส่งไปขายกว่า 60 ประเทศ จนได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมาย ล่าสุดได้รางวัล “Spanish Wine Producer of the Year Trophy 2018” ที่จัดโดยนิตยสาร International Wine & Spirits Competition
เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้ชิมไวน์ในเครือของ González Byass 2 ตัวจาก 2 ประเทศคือ Beronia จากสเปนแผ่นดินแม่ที่มีผู้นำเข้าเมืองแล้วคือ Iconic Wines Thailand ส่วนอีกตัวเป็น Veramonte ที่ขยายอาณาจักรไปยังชิลี ซึ่งถูกนำมาให้ชิมครั้งแรกในงาน Bangkok Grand Wine Tasting & Chile Wine Trade Show ครั้งที่ 12 เมื่อเดือนที่แล้ว ตัวนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจาหาผู้นำเข้า ท่านที่สนใจไวน์ดีจากชิลีรีบเลย
เบโรเนีย เตมปรานิลโย คริอันซา 2016 (Beronia Rioja Tempranillo Crianza 2016) : เตมปรานิลโย (Tempranillo) กรานาซา (Granacha) และมาซุเอโล (Mazuelo) บ่ม 12 เดือนในถังโอคฝรั่งเศสและอเมริกัน โอค…สีแดงออกไปทางเรด เชอร์รี หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น เชอร์รี เบอร์รี และพรุน พร้อมด้วย วานิลลา ควันไฟ ซีดาร์ ดอกไม้ เฮิร์บแห้ง ๆ สไปซีนิด ๆ ชุ่มคอ แทนนินนุ่มหวานหอม แอซสิดกำลังพอดีและส่งเสริมผลไม้ ดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บ
“เวรามอนเต ‘ปริมัส’ เดอะ เบลนด์ อาปัลตา คอลชาเกา 2016” (Veramonte “Primus” The Blend Apalta Colchagua 2016) : Primus ในภาษาละตินแปลว่า “The first” หรือ “The first among its peers” เป็นรุ่นที่เกิดจากมันสมองและประสบการณ์ของ Rodrigo Soto ไวน์เมกเกอร์ที่เคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับอัลบาโร เอสปิโนซา (Álvaro Espinoza) ผู้บุกเบิกการผลิตไวน์แบบออร์แกนิค (Organic) และไบโอไดนามิค (Biodynamic) ในชิลี
“Primus” The Blend เป็นรุ่นที่ทำในสไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) และต้องใช้องุ่น 2 พันธุ์เป็นมาตรฐานคือกาแบร์เนต์ โซวีญยง (Cabernet Sauvignon) และการ์เมเนเร (Carmenere) ที่เหลือก็มี แมร์โลต์ (Merlot),เปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) บ่ม 12 เดือนในถังโอคฝรั่งเศส ส่วนหนึ่งเป็นโอคใหม่ นอกจากนั้นยังมีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง Primus Cabernet Sauvignon และ Primus Carmenere
“เวรามอนเต ‘ปริมัส’ เดอะ เบลนด์ อาปัลตา คอลชาเกา 2016” สีแดงเข้มปึ๊ก มีขอบม่วงเป็นประกายเล็กน้อย หอมกลิ่นผลไม้เปลือกดำ ผสานกับผลไม้เปลือกแดง เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม และเรด เชอร์รี ตามด้วยดอกไวโอเลต กรีน เปปเปอร์ โรสแมร์รี ควันไฟ กาแฟคั่ว ชอกโกแลต ซีดาร์ โอคหอมกรุ่น ๆ แทนนินหนักแน่น แต่เริ่มนุ่ม แอซสิดปานกลาง จบยาวด้วยผลไม้ และเฮิร์บ สามารถดื่มในตอนนี้ก็ได้ แต่อีก 2-3 ปีจะอร่อยกว่านี้
นั่นคือเรื่องราวของไวน์ González Byass ใน 2 แผ่นดินที่เชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว ที่สำคัญเป็นเรื่องราวเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และจะเติมเต็มสมบูรณ์แบบเมื่อท่านได้ลิ้มลอง..!!