“โคฮิบา แอทเมิสเฟียร์”
จับคู่ช็อกโกแลตไทยกับวิสกี้
ช็อกโกแลต (Chocolate) เป็นผลผลิตที่ได้จากเมล็ดของต้นโกโก้ (Cacao) ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Theobroma Cacao แปลว่า “อาหารแห่งทวยเทพ” โดยช็อกโกแลตถูกค้นพบมาตั้งแต่สองพันปีที่แล้ว หลังสมัยพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์
ชนกลุ่มแรกที่รู้จักทำช็อกโกแลตเป็นอารยธรรมโบราณที่อยู่ในเม็กซิโก และอเมริกากลาง ชนกลุ่มนี้ได้แก่ชาวมายา และชาวแอซเทค แห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา คนเหล่านี้เอาเมล็ดคาเคามาบดแล้วผสมกับเครื่องปรุงหลายชนิดเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มที่มีรสขมเฝื่อน นอกจากใช้ประกอบอาหารแล้วช็อกโกแลตยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเชิงศาสนาและสังคมด้วย
ชาวมายา (ค.ศ. 250-900) เป็นชนชาติแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่าได้ค้นพบความลับของต้นคาเคา โดยพวกเขาได้นำต้นคาเคามาจากป่าฝนและปลูกไว้ที่สวนหลังบ้าน พอออกฝักก็เก็บเอาเมล็ดมาหมักบ้าง คั่วบ้าง และยังบดเป็นเนื้อเหนียว อยากชงเป็นเครื่องดื่มก็เอามาผสมน้ำ โรยพริกไทยกับแป้งข้าวโพด ก็จะได้เครื่องดื่มช็อกโกแลตรสซาบซ่ามีฟอง
ต่อมาราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 อาณาจักรของชาวแอซเทคครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอารยธรรมเมโสอเมริกา โดยมีเมืองหลวงตั้งอยู่ที่เมืองปัจจุบันเรียกว่า เม็กซิโกซิตี ชาวแอซเทคได้ซื้อขายเมล็ดคาเคากับชาวมายาและชนชาติอื่น และยังเรียกเก็บค่าบรรณาการจากพลเมืองของตนและเชลยเป็นเมล็ดคาเคา โดยใช้แทนค่าเงิน ชาวแอซเทคนิยมดื่มช็อกโกแลตขมเช่นเดียวกับชาวมายายุคแรก โดยปรุงรสชาติให้ซู่ซ่าขึ้นด้วยเครื่องเทศ ชาวเมโสอเมริกาสมัยนั้นยังไม่มีใครปลูกอ้อยก็เลยไม่มีใครใส่น้ำตาลกัน
ชาวมายายุคคลาสสิกชอบดื่มช็อกโกแลตกันในวาระพิเศษ ขณะที่บรรดาเชื้อพระวงศ์จะนิยมดื่มกันมาก ส่วนชาวแอซเทค บรรดาผู้ปกครองระดับสูง พระ ทหารยศสูง และพ่อค้าที่มีหน้ามีตาเท่านั้นที่มีสิทธิลิ้มรสเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์นี้ ช็อกโกแลตมีบทบาทสำคัญในพิธีของราชวงศ์และศาสนา เพราะใช้เมล็ดคาเคาเป็นเครื่องสักการะเทพเจ้า และดื่มในพิธีสำคัญ
ส่วนที่มาของชื่อช็อกโกแลตนั้นยังไม่มีใครอธิบายได้แน่นอน แต่มีความเป็นไปได้สองทาง ๆ แรกเป็นคำที่ผันมาจากคำว่า “ช็อคโกลัจ” ในภาษามายา ซึ่งหมายถึง “มาดื่มช็อกโกแลตด้วยกัน” อีกทางหนึ่งบอกว่าน่าจะมาจากภาษามายาเช่นกัน คือ ” Chocol” แปลว่า ร้อน ผสมกับคำว่า “atl” ของแอซเทคที่แปลว่า น้ำ เมื่อนำมารวมกันจึงกลายเป็นคำว่า Chocolatl และมาเป็น Chocolate ต่อมาในยุโรป
สำหรับในเมืองไทยที่ผ่านมาการปลูกโกโก้มีมานานพอสมควรแล้วแต่อยู่ในกลุ่มเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ปลูกเพื่อส่งออก แต่การทำช็อกโกแลตนั้นแทบไม่มีใครคิดว่าจะเป็นรูปเป็นร่างจริงจังขึ้นมา กระทั่งกลางปี 2561 ชื่อของ “กาด โกโก้” (Kad Kokoa) จึงปรากฏขึ้น ในฐานะผู้ผลิตช็อกโกแลตไทยเจ้าแรก ๆ ที่ทำช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้ที่ปลูกในเมืองไทย และมีคาเฟ่ช็อกโกแลตเป็นของตัวเอง
เจ้าของ “กาด โกโก้” คือคุณปณิธิ ชุณหสวัสดิกุล ได้เริ่มศึกษาการทำช็อกโกแลตตั้งแต่แหล่งปลูก โกโก้ การคัดเลือกเมล็ดโกโก้ การคั่วเมล็ด กระทั่งออกมาเป็นช็อกโกแลตแท่ง และบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบโดยอ้างอิงจากลายผ้าไทยโบราณ และกราฟิกที่แสดงสภาพภูมิประเทศของแหล่งปลูกโกโก้แต่ละตัว เป็นต้น และประสบความสำเร็จเมื่อเดือนกันยายน 2561 กาด โกโก้เป็นหนึ่งในช็อกโกแลตไทยแบรนด์แรกที่ได้รางวัลจากการประกวดช็อกโกแลตระดับเอเชีย-แปซิฟิก ในรายการ International Chocolate Awards จากดาร์ค ช็อกโกแลต 70% จากโกโก้เชียงใหม่
กาดโกโก้ ทำช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้ที่ปลูกในประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 4 จังหวัดคือ เชียงใหม่ จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร โดยขณะนี้ทำดาร์ค ช็อกโกแลต (Dark Chocolate) 70% เป็นหลัก ดาร์ค ช็อกโกแลต คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันมิให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ “โคฮิบา แอทเมิสเฟียร์” (Cohiba Atmosphere) แหล่งรวมซิการ์ชั้นเยี่ยม รวมทั้งบรั่นดีและวิสกี้ชั้นยอดจากทั่วโลก ในซอยร่วมฤดี ได้ร่วมกับ บริษัท กาด โกโก้ จำกัด (Kad Kokoa Co.,Ltd) ได้จัดรายการพิเศษ “The Panelists for Whiskey & Chocolate Paring” เป็นการแพร์ริ่งวิสกี้ 4 ยี่ห้อกับช็อกโกแลต กาดโกโก้ 4 รุ่นดังนี้
“โทมินทูล 21 ปี” (Tomintoul 21 Years Old) : อีกหนึ่งซิงเกิ้ล มอลต์ จากสเปย์ไซด์ (Speyside) เปิดตัวสู่ท้องตลาดในช่วงกลางปี 2017 บ่มในถังที่ผ่านการบ่มเบอร์เบิน ทำให้มีกลิ่นวานิลลาที่โดดเด่น เคยได้รางวัล Speyside Single Malt 19-25yo – 2019 The Scotch Whisky Masters (The Spirits Business) แอลกอฮอล์ 40% หอมกลิ่นวานิลลา ผสานกับดอกไม้ ประเภทดอกส้ม ดอกกล้วยไม้ สตรอว์เบอร์รี โอคกรุ่น ๆ มิเนอรัล เอิร์ธตี้ สไปซี่เปปเปอร์ ขนมปังกรอบ เนย ครีมมี น้ำผึ้งกรุ่นๆ คาราเมล ทอฟฟี่กาแฟ และใบชา จบยาวด้วยใบสนเขียว ๆ ยาสูบ วานิลลาหอมหวาน
จับคู่กับ “กาด โกโก้ จันทบุรี” (Kad Kokoa Chantaburi) ซึ่งเป็น 70% Dark Chocolate ทำจากโกโก้ที่ปลูกในจังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันออกของประเทศไทยที่มีแคแลคเตอร์เป็นผลไม้แห้งหอมหวาน และน้ำตาลหวาน ๆ ปรากฏว่า Tomintoul 21 Years Old มีความสุภาพ นุ่มนวล ไปนิด เลยถูกความขมของช็อกโกแลตข่มไปพอสมควร แต่ก็ไม่น่าเกลียดมาก
“เกลนคาดัม 19 ปี” (Glencadam Highland Single Malt 19 Years Old) : ซิงเกิ้ล มอลต์ ผลผลิตของโรงกลั่น Glencadam ในเขตไฮจ์แลนด์ (Highland) บ่มในถังโอคที่ผ่านการบ่มโอโลโรโซ แชร์รี (Oloroso Sherry) ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ (Fortified Wine) ชื่อดังของสเปน บรรจุขวดโดยไม่ตกแต่งสี และไม่กรองเย็น แอลกอฮอล์ 46% ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 6,000 ขวด และขวดที่เสิร์ฟนี้เป็นขวดที่ 3,237…ดมครั้งแรกหอมกลิ่นอบเชย กานพลู และบราวน์ ชูการ์ เป็นซิงเกิ้ล มอลต์ที่ฟรุตตี้เยอะ เช่น เบอร์รี่ เชอร์รี ส้มฉ่ำๆ และลูกเกด ขณะที่อยู่ในปากมีโอคกรุ่นๆ สไปซี่เฮิร์บ ช็อกโกแลต เค้กผลไม้ เลมอน กลิ่นเบอร์เบินกรุ่น ๆ และวานิลลา จบยาวด้วยครีมมี เมล็ดกาแฟคั่ว ช็อกโกแลต และสไปซี่
จับคู่กับ “กาด โกโก้ ประจวบคีรีขันธ์” (Kad Kokoa Prachuap Kiri Khan) ซึ่งเป็น 70% Dark Chocolate เช่นกัน ทำจากโกโก้ที่ปลูกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดภาคกลางที่เชื่อมต่อกับตอนเหนือของภาคใต้ มีชื่อเสียงในการปลูกสับปะรดและมะพร้าว ขณะที่โกโก้ก็มีชื่อเสียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แคแลคเตอร์ของโกโก้ที่นี่จะมีกลิ่นหอม ๆ มัน ๆ กลิ่นมะพร้าว……คู่นี้ Glencadam 19 Years Old ถูกกลืนกว่าคู่แรก แต่เมื่อลองเอา Tomintoul 21 Years Old มาจับคู่ด้วยปรากฏว่า Tomintoul 21 Years Old นุ่มนวลลงมาก และดีดกลิ่นวานิลลาขึ้นมาหอมหวาน เมื่อลองเอาไปจับคู่กับ Chumporn ปรากฏว่า Glencadam 19 Years Old แทบจะหายไปเลย
เดอะ สก็อตช์ มอลต์ วิสกี้ โซไซตี้ 48.89 สวีต แบก อิน เอ สเลท ควอร์รี (The Scotch Malt Whiskey Society 48.89 Sweet Bags in a Slate Quarry) : มอลต์ วิสกี้ จากสก็อตแลนด์ที่ชื่อแปลกแต่มีรสชาติและตำนานที่น่าสนใจ กลั่นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2005 และบ่ม 11 ผลิตเพียง 216 แอลกอฮอล์ 57.9 % ดมครั้งแรกหอมกลิ่นตระกูลซีทรัสสุกฉ่ำหอมอบอวล ทั้ง ไลม์ เลมอน ส้ม สตรอว์เบอร์รี เชอร์รี เป็นต้น ที่สำคัญมีกลิ่นของหญ้าที่ปลูกอยู่บนพื้นของเหมืองหินดินดาน อันเป็นที่มาของชื่อ Sweet Bags in a Slate Quarry นั่นเอง ขณะที่อยู่ในปากก็หอมหวานเหมือนกินแยมผลไม้ ผสมกับเจลลีผลไม้ที่อมเปรี้ยวนิด ๆ พร้อมด้วยมินต์ ใบชา กาแฟคั่ว จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล และสไปซี่
จับคู่กับ “กาด โกโก้ ชุมพร” (Kad Kokoa Chumporn) ซึ่งเป็น 70% Dark Chocolate เช่นกัน ทำจากโกโก้ที่ปลูกในจังหวัดชุมพร ที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ ที่สำคัญเป็นจังหวัดที่มีสภาพดินฟ้าอากาศหรือ “แตร์ฮรัวร์” (Terroir) เหมาะต่อการปลูกกาแฟ และโกโก้เป็นอย่างมาก แคแลคเตอร์ของโกโก้จึงมีหลากหลายและซับซ้อน…คู่นี้ช็อกโกแลตโดนข่มไปพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะรสชาติของชอกโกแล็ตมีความนุ่มนวลเนียนมาก อาจจะถูกบอดี้และปริมาณแอลกอฮอล์โดดขึ้นมานำหน้า เมื่อลองเอา Chantaburi มาจับคู่ด้วยยิ่งทำให้ชอกโกแลตหายไปเลย ขณะที่เมื่อจับคู่กับ Prachuap Kiri Khan ยังพอมีช็อกโกแลตบ้างกรุ่น
ปิดท้ายด้วย คอมพาสส์ บ็อกซ์ ออเรนเฌรี (Compass Box Orangerie) : ตัวนี้ผลิตในเขตไฮจ์แลนด์ เป็น “Scotch Whisky Infusion” คล้าย ๆ วิสกี้ลิเคียวร์แต่ไม่ใช่ ผลิตด้วยการใช้สก็อต วิสกี้ แช่ด้วยเครื่องเทศสมุนไพร เช่น กานพลู จากศรีลังกา,เปลือกอบเชยจากอินโดนีเซีย และส้มนาวาลิโน (Navalino) ประเทศกรีซ เป็นต้น ไม่ตกแต่งสีและไม่กรองเย็น แอลกอฮอล์ 40% กลิ่นและรสชาติหอมหวานของส้ม ผสมผสานกับความสไปซี่และหอมกรุ่นของอบเชยและกานพลู ดมตอนแรกนึกว่าจะหวาน แต่ไม่หวาน ตรงกันข้ามดื่มแล้วสดชื่นดี
จับคู่กับ “กาด โกโก้ เชียงใหม่” (Kad Kokoa Chiangmai) เป็น 70% Dark Chocolate อีกเช่นกัน ทำจากโกโก้ที่ปลูกใน อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เมล็ดโกโก้จะให้แคแลคเตอร์ของดอกไม้ น้ำผึ้ง และหวานหอมนุ่มนวล…คู่นี้ค่อนข้างลงตัวกว่าทุกคู่ อาจจะเป็นเพราะความหวานของวิสกี้ที่มีส้มสามารถเชื่อมโยงกับช็อกโกแลตที่ทำจากเมล็ดโกโก้มีรสกลิ่นหอมหวานได้เป็นอย่างดี ลองเอาชอกโกแลตอีก 3 รุ่นมาจับคู่ด้วยปรากฏว่าสู้รุ่น Chiangmai นี้ไม่ได้ ส่วนใหญ่วิสกี้โดยข่ม
นั่นคือส่วนหนึ่งของช็อกโกแลตและการจับคู่กับวิสกี้ ซึ่งทั้งกาด โกโก้ และวิสกี้ดังกล่าวมีครบถ้วนที่ “โคฮิบา แอทเมิสเฟียร์” (Cohiba Atmosphere) ในซอยร่วมฤดี สามารถไปพิสูจน์ความลงตัวกันได้ !!
