“โอดีสซีย์” บูติกไวน์แห่งนิว ซีแลนด์

Iliad Chardonnay 2017

Iliad Pinot Noir 2014

Pinot Gris 2016

Pinot Noir Marlborough 2015

Raviolini ที่เสิร์ฟกับ Iliad Chardonnay 2017

Rebecca Salmond เจ้าของไวน์

Rose 2015

Sauvignon Blanc 2016

ทิวทัศศน์ที่งดงาม

ผู้นำเข้า แฟนพันธุ์แท้ไวน์ และเจ้าของไวน์

Iberico Lamb ที่เสิร์ฟกับ Pinot Noir 2014ในอดีตถ้าพูดถึง “ไวน์ นิวซีแลนด์” แทบไม่มีใครรู้จัก หรือไม่สนใจ แต่วันนี้ไม่ถึง 20 ปี ใครจะเชื่อว่าไวน์จากดินแดนกีวี สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิถีคนรักไวน์ทั่วโลก หนึ่งในความสำเร็จนั้นคือการสร้างแบรนด์และความพิเศษที่แตกต่างของไวน์นิว ซีแลนด์คือ พยายามสอดแทรกความเป็น “Clean and Green Land” ของประเทศเข้าไปในตัวไวน์ด้วย เพราะภาพชัดเจนของความสะอาดและความบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ นอกจากจะช่วยส่งเสริมคุณภาพของไวน์นิว ซีแลนด์แล้ว ยังได้ใจผู้บริโภคไปกว่าครึ่ง ผลพวงนี้ทำให้เกิดผู้ผลิตไวน์หน้าใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ผลิตไวน์ขนาดเล็ก หรือบูติก ไวน์เนอะรี ที่เน้นคุณภาพเป็นหลัก
หนึ่งในบูติก ไวน์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ “โอดีสซีย์” (Odyssey Wines) เจ้าของคือรีเบคกา ซัลมอนด์ (Rebecca Salmond) ที่มีประวัติและประสบการณ์ในการทำไวน์ที่มากมายและหลากหลาย เธอจบจากมหาวิทยาลัย Massey University ในนิว ซีแลนด์ และมหาวิทยาลัยอะเดเลด วิทยาเขตโรสวอร์ตี (Adelaide University’s Roseworthy) ในเซาท์ ออสเตรเลีย ที่สอนด้านไวน์โดยเฉพาะ จากนั้นเดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฝรั่งเศสที่เบอร์กันดี (Burgundy) บอร์กโดซ์ (Bordeaux) และโก๊ต โรตี (Cote Rotie),ในอิตาลี เช่น อัลโต อาดีเจ (Alto Adige)และเกาะซิซิลี จากนั้นกลับมานิวซีแลนด์ ที่มาร์ลโบโรจ์ (Marlborough) และฮอว์ค เบย์ (Hawkes Bay)
เมื่อเวลาสุกงอมเธอจึงผลิตไวน์ของตัวเองในปี 1994 ภายใต้ชื่อ “Odyssey” ที่อีกนัยหนึ่งหมายถึง “การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด” ด้วยพื้นที่ 25 เอเคอร์ในบรานคอตต์ แวลลีย์ (Brancott Valley) ในมาร์ลโบโรจ์ (Marlborough) เป็นบูติก ไวน์ (Boutique Wine) ผลิตไวน์ระดับพรีเมียมที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ หลัก ๆ คือชาร์โดเนย์ (Chardonnay) และโซวีญยง บลัง (Sauvignon Blanc) ที่เป็นออร์แกนิคจากไร่ในกิสบอร์น (Gisborne) ขณะที่ปีโนต์ กรีส์ (PInot Gris) และปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) มาจากไร่ในมาร์ลโบโรจ์ (Marlborough) เป็นต้น
ที่สำคัญก็คือ รีเบคกา ซัลมอนด์ สนใจในรายละเอียดของไวน์ทุกขวดที่เธอทำ
เสมือนฉันทลักษณ์ที่งดงามของ “โอดีสซีย์W (Odyssey) บทประพันธ์มหากาพย์กรีกโบราณ 1ใน 2 เรื่องของโฮเมอร์ ที่ประพันธ์ขึ้นในราว 800 ปีก่อนคริสตกาล ที่แคว้นไอโอเนีย ดินแดนชายทะเลฝั่งตะวันตกของตุรกีซึ่งอยู่ในอาณัติของกรีก บทกวีเล่าเรื่องราวต่อจากอีเลียด (Iliad) ว่าด้วยการเดินทางกลับบ้านที่อิธาคาของวีรบุรุษกรีกชื่อ โอดิซูส (ยูลิซีส ตามตำนานโรมัน) หลังจากการล่มสลายของทรอย
โอดิซูสใช้เวลาเดินทางกลับบ้านนานถึง 10 ปี หลังจากที่ใช้เวลาไปในศึกเมืองทรอยแล้วถึง 10 ปี ระหว่างเวลาเหล่านั้น เทเลมาคัส บุตรของเขา และ พีเนโลปผู้ภรรยา ต้องต่อสู้กับกลุ่มคนพาลที่พยายามจะขอวิวาห์กับพีเนโลป เพราะต่างคิดว่าโอดิซูสเสียชีวิตแล้ว
บทกวีชุดนี้เป็นรากฐานสำคัญต่องานวรรณกรรมตะวันตกยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นอันดับสองรองจากอีเลียด มีการศึกษาและแปลออกเป็นภาษาต่างๆ มากมายทั่วโลก เชื่อว่าบทกวีเริ่มแรกประพันธ์ขึ้นในลักษณะวรรณกรรมมุขปาฐะ เพื่อการขับร้องลำนำของเหล่านักดนตรีมากกว่าเพื่อการอ่าน ใช้ฉันทลักษณ์แบบ Heroic hexameter ประกอบด้วยบทกวีรวม 12,110 บรรทัด
สำหรับในเมืองไทย “โอดีสซีย์” ไม่ใช่น้องใหม่ เพราะเคยมีการนำเข้ามาครั้งแรกในช่วงปี 2538-2539 ก่อนจะหายไปในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้นำเข้าใหม่คือบริษัท K.R.Intertrade 2017 มีหลายรุ่นที่ผมได้ชิมเมื่อปลายปีที่แล้วในงาน “Odyssey Winemaker Dinner” ที่ห้องอาหาร Up & Above โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ ดังนี้
โอดีสซีย์ มาร์ลโบโรจ์ ปีโนต์ นัวร์ โรเซ 2015 (Odyssey Marlborough Pinot Noir Rose 5015) : ทำจากปีโนต์ นัวร์ 100% ดมครั้งแรกหอมกลิ่นดอกไม้ และผลไม้ เช่น เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี ขณะที่เมื่อชิมมีผลไม้สุก ๆ หอมกรุ่น ดราย นุ่มพลิ้วไหว มีแทนนินกรุ่น ๆ เป็นโรเซที่มีน้ำหนัก แต่เป็นน้ำหนักที่นุ่มนวล ผสานกับแอซสิดที่สดชื่นมีชีวิตชีวา ไม่ทื่อ ๆ เหมือนโรเซโลกใหม่บางตัว จบด้วยผลไม้สุกและดอกไม้ ท่านที่ไม่ชอบไวน์แดงรสหนัก หรือไวน์ขาวเปรี้ยวลิ้น ควรหาตัวนี้เก็บไว้ลิ้มรสในหน้าร้อน ที่กำลังจะมาถึงนี้ แช่ให้เย็น ๆ ดื่มแล้วชื่นใจ
โอดีสซีย์ มาร์ลโบโรจ์ โซวีญยง บลัง 2016 (Odyssey Marlborough Sauvignon Blanc 201) : เป็นโซวีญยง บลัง จากมาร์ลโบโรจ์ที่อร่อยตัวหนึ่งในตลาดเมืองไทยเมื่อเทียบราคา และเป็นไวน์ออร์แกนิค (Organic) ดมครั้งแรกได้กลิ่นยีสต์กรุ่น ๆ ผมถามเจ้าของได้ความว่าหลังจากหมักแล้วปล่อยให้ไวน์อยู่กับกากยีสต์ระยะหนึ่งแล้วค่อย ๆ กรอง และบรรจุขวด สีเหลืองทองอ่อน ๆ ส่วนผลไม้มีลูกท้อ พีช ฝรั่งสุกกรุ่น ๆ หญ้าอ่อน ๆ เฮิร์บสด ใบหญ้าสด ตะไคร้ มิเนอรัล ขณะที่ดื่มมีผลไม้สุกฉ่ำ และเฮิร์บสด แอซสิดกำลังดี ทำให้จบยาวด้วยความสดชื่น หอมผลไม้และเฮิร์บสด
โอดีสซีย์ มาร์ลโบโรจ์ ปีโนต์ กรีส์ 2016 (Odyssey Marlborough Pinot Gris 2016) : ทำจากปีโนต์ กรีส์ 100% และค่อย ๆ เก็บด้วยมือ แล้วบีบพร้อมขั้ว หลังจากหมักในถังสแตนเลสแล้วถ่ายไปหมักในถังโอคเก่าจากฝรั่งเศสระยะสั้น ๆ ก่อนบรรจุก็ปล่อยให้อยู่กับกากยีสต์ ปล่อยไว้ 1 ปีก่อนจะเอากรองเบา ๆ แล้วบรรจุขวด ผมชอบตัวนี้มากที่สุด ชิมครั้งแรกสัมผัสบางอย่างคล้าย ๆ ปีโนต์ กรีส์ จากทางเหนือของอิตาลี ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่าเจ้าของเคยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในอัลโต อาดีเจ (Alto Adige) เขตผลิตไวน์ตอนเหนือของอิตาลีที่ติดกับออสเตรีย..สีเหลืองทองสดใส ดมครั้งแรกได้กลิ่นอัลมอนด์สด ตามด้วยผลไม้ เช่น สับปะรด พีช แพร์ และทับทิม วานิลลาจากโอคกรุ่น ๆ เนย ยีสต์ เฮิร์บสด แอซสิดก็กำลังดีเช่นกัน เป็นไวน์เนื้อแน่น ละเอียด และมีชีวิตชีวา จบยาวด้วยผลไม้ วานิลลา และเฮิร์บสด
โอดีสซีย์ รีเสิร์ฟ อีเลียด กิสบอร์น ชาร์โดเนย์ 2017 (Odyssey Reserve Iliad Gisborne Chardonnay 2017) : ชาร์โดเนย์ โคลนเมนโดซา (Mendoza Chardonnay) ที่เป็นโคลนยอดนิยม เก็บด้วยมือและบีบทั้งพวง หมักกับกากยีสต์ และบ่มในถังโอคฝรั่งเศส ผสมผสานกันทั้งโอคที่ผ่านมาการใช้งานมาแล้ว 1,2 และ 3 ปี เสร็จแล้วค่อยนำมาเบลนด์กัน ที่สำคัญยีสต์ที่หมักส่วนใหญ่เป็นยีสต์ธรรมชาติที่อยู่กับผลองุ่น และหมักแบบมาโลแลคติก (Malolactic) เพื่อไม่ให้ฟรุตจัดจ้านเกินไปเพราะกิสบอร์นเป็นเขตที่ฟรุตตี้สูง ขณะเดียวกันก็ทำให้แอซสิดไม่จี๊ดจ๊าดเกินไป….สีเหลืองทองค่อนข้างเข้ม เป็นไวน์สไตล์ครีมมีและฟรุตตี้หอมอบอวล เช่น เมลอน ซีทรัส สับปะรด แอปเปิ้ล เกรฟฟรุต พีช และมะเดื่อสุก วานิลา ฮาเซลนัท ยีสต์ ดอกไม้ แอซสิดทำให้ไวน์สมดุลดีมาก จบยาวด้วยผลไม้ วานิลา โอคกรุ่น ๆ เป็นชาร์โดเนย์จากนิวซีแลนด์ที่ควรลองสักครั้งในชีวิต
โอดีสซีย์ มาร์ลโบโรจ์ ปีโนต์ นัวร์ 2015 (Odyssey Marlborough Pinot Noir 2015) : เป็นปีโนต์ นัวร์ ดีฌอง โคลน (Dijon Clones) เลือกเก็บด้วยมือจากไร่ที่บรานคอตต์ แวลลีย์ (Brancott Valley) ในมาร์ลโบโรจ์ หมักด้วยยีสต์ธรรมชาติที่มากับผลองุ่น หลังจากนั้นปล่อยให้แช่อยู่กับเปลือกองุ่น 6 วัน จึงค่อยนำมาบีบน้ำ ในจำนวนนี้ 30% ถูกนำไปบ่มในถังโอคใหม่จากฝรั่งเศส และตกตะกอนด้วยไข่ขาว …สีแดงสดใส ผลไม้ที่โดดเด่นที่สุดคือเชอร์รีสุก ตามด้วยเบอร์รี แบล็คเบอร์รี และสตรอว์เบอร์รี โอคกรุ่น ๆ แทนนินค่อนข้างหนักแน่นแต่นุ่ม แอซสิดส่งเสริมผลไม้ได้ดี จบยาวด้วยผลไม้ และโอคกรุ่น ๆ
โอดีสซีย์ รีเสิร์ฟ อีเลียด มาร์ลโบโรจ์ ปีโนต์ นัวร์ 2014 (Odyssey Reserve Iliad Marlborough Pinot Noir 2014) : เป็นปีโนต์ นัวร์ ที่ดมและดื่มแล้วตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ขนาดนี้ แต่ที่ต้องเชื่อเพราะเจ้าของเคยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเบอร์กันดี ย่อมรู้นิสัยใจคอของปีโนต์ นัวร์เป็นอย่างดี ที่สำคัญรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ปีโนต์ นัวร์ นิวซีแลนด์อร่อยตามอัตลักษณ์ของตัวเอง เป็นปีโนต์ นัวร์ ดีฌอง โคลน (Dijon Clones) เช่นเดียวกัน แต่โลว์ ยีลด์ กว่า (Low Yeild) หลังจากหมักแล้ว 35% ถูกบ่มในถังโอคใหม่จากฝรั่งเศส และหลังจากบ่มในถังโอค 1 ปีแล้วไวน์จะถูกตกตะกอนด้วยไข่ขาว แล้วบรรจุขวดโดยไม่กรอง …สีแดง กลิ่นแรกที่เตะจมูกคือแบล็ค เชอร์รี พรุน พุทราจีนเชื่อม สตรอว์เบอร์รีกรุ่น ๆ ซีดาร์ ควันไฟ เห็ด เอิร์ธตี้ มิเนอรัล แป้งเด็ก ที่แปลกคือมีกลิ่นสาบของสัตว์ป่ากรุ่น และกลิ่นใบไม้แช่น้ำเน่า ๆ โครงสร้างและความสมดุลดีมาก แทนนินเนียนหวาน จบยาวด้วยผลไม้สุก
จะเห็นว่าไวน์โอดีสซีย์แต่ละตัวจะมีรายละเอียดบางอย่างที่เจ้าของให้ความสนใจและใส่ใจอย่างแท้จริง..!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...