เรื่องราวความยิ่งใหญ่ของ “โรเบิร์ต มอนดาวี” (Robert Mondavi / 1913-2008) กับวงการไวน์แคลิฟอร์เนียตลอดจนแวดวงไวน์โลกนั้นคงเป็นที่เล่าขานกันอีกนานไม่มีวันจบ
โรเบิร์ต มอนดาวี มีทายาท 3 คนคือไมเคิล มอนดาวี (Michael Mondavi) มาร์เซีย มอนดาวี (Marcia Mondavi) และทิม มอนดาวี (Tim Mondavi) เป็นลูกที่เกิดกับภรรยาคนแรกคือมาร์โฌรี เอลเลน (Marjorie Ellen) ส่วนภรรยาคนที่สองไม่มีทายาทด้วยกัน แต่ละคนล้วนสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่ของพ่อในบทบาทที่ต่างกันออกไป
ทิม มอนดาวี ลูกชายคนเล็กนั้น ส่วนใหญ่ผู้คนจะคุ้นกันมากที่สุด ผมไปไร่โรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi Winery) ครั้งแรกในปี 1997 ก็ได้พูดคุยกับหลายอย่าง หลังจากโรเบิร์ต มอนดาวี ไวเนอะรี (Robert Mondavi Winery) ถูกขายไปในปี 2004 ปีรุ่งขึ้นทิมกับพ่อและพี่สาวก็ออกมาทำไวน์ของตัวเองชื่อ “คอนตินูม” (Continuum) ในบ้านเราก็มีขาย
ลูกชายคนโต “ไมเคิล มอนดาวี” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของตระกูลมอนดาวี กลับเป็นคนที่เงียบเชียบ โดยเฉพาะในบ้านเราแทบจะไม่ค่อยมีข่าวคราวอะไรเลย !!
ไมเคิล มอนดาวี ได้รับฉายาจากเพื่อน ๆ และผู้ร่วมงานว่า “Quiet Icon” เนื่องจากเป็นคนเงียบ ๆ แต่ทำงานจริงจัง ประเภทชอบอยู่เบื้องหลัง เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ชื่อว่าช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมไวน์นาปา แวลลีย์ (Napa Valley) เคียงคู่กับพ่อของเขาที่ได้ฉายาว่า “เจ้าพ่อไวน์ นาปา แวลลีย์”
ไมเคิล มอนดาวี เติบโตที่ชาร์ล ครุก ไวเนอะรี (Charles Krug Winery) ในเซนต์ เฮเลนา (St Helena) ซึ่งครอบครัวมอนดาวีซื้อมาตั้งแต่ปี 1943 ก่อนจะก้าวเข้าสู่อาชีพการทำไวน์อย่างเต็มตัวในปี 1966 จากการที่ร่วมกับพ่อก่อตั้ง “โรเบิร์ต มอนดาวี ไวเนอะรี” (Robert Mondavi Winery) ที่โอ๊ควิลล์ (Oakville) ในนาปา แวลลีย์
เมื่อโรเบิร์ต มอนดาวี ออกมาก่อตั้ง Robert Mondavi Winery นั้นคนที่รับหน้าที่ดูแล Charles Krug Winery จนนาทีสุดท้ายของชีวิตคือ ปีเตอร์ มอนดาวี (Peter Mondavi /1914 – 2016) น้องชายของโรเบิร์ต มอนดาวี หรืออาของไมเคิล มอนดาวี นั่นเอง
ไมเคิล มอนดาวี ทำหน้าที่หลายอย่างในไวเนอะรี นับตั้งแต่ไวน์เมกเกอร์ ประมาณ 8 ปีแรก เริ่มมีชื่อเสียงในปี 1974 เป็นต้นมา ต่อมารับหน้าที่รองประธานฝ่ายขายในช่วงปี 1969-1978 จากนั้นขึ้นมาเป็น MD และ CEO ในปี 1990 หน้าที่สุดท้ายคือประธานบริษัทในช่วงปี 2001-2004
หลังจากโรเบิร์ต มอนดาวี ไวเนอะรีถูกขายไปในปี 2004 และสิ้นบุญพ่อในปี 2008 ลูก ๆ ต่างแยกย้าย ไมเคิล มอนดาวี พร้อมด้วยภริยา อิสซาเบล (Isabel) พร้อมลูก (ชาย 1 หญิง 2) ได้ไปซื้อไร่อานิโม (Animo Vineyard) ที่แอตลาส พีค (Atlas Peak) ในปี 1999 ซึ่งว่ากันว่านี่คือบทแรกที่เขาเริ่มถ่ายทอดประสบการณ์สู่ทายาท
ด้วยประสบการณ์ที่ล้นเหลือของไมเคิล มอนดาวี ครอบครัวเปิดตัวบริษัท Folio Fine Wine Partners ทำธุรกิจด้านการนำเข้าและการตลาดไวน์ ปัจจุบันนอกจากจะทำโปรดักส์ในครอบครัวมอนดาวีแล้ว ยังเน้นนำเข้าผู้ผลิตไวน์แบบครอบครัวจากอิตาลี สเปน โปรตุเกส อาร์เจนตินา ฝรั่งเศส และออสเตรีย
อย่างที่กล่าวในตอนแรกว่าไมเคิล มอนดาวี มีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมไวน์นาปา แวลลีย์ เขาจึงถูกเชิญให้รับตำแหน่งประธานและซีอีโอของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น Wine Market Council,Napa Valley Vintners,California Wine Institute และ Winegrowers of California เป็นต้น
ปี 2015 นิตยสาร Wine Enthusiast ยกย่องให้เขาเป็น ”Person of the Year 2015” พร้อมขึ้นปกหนังสือ ในฐานะผู้มีอุปการคุณต่อวงการไวน์สหรัฐอเมริกา
ไวน์ของไมเคิล มอนดาวี เพิ่งมีการนำเข้าขายในเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง และมีหลายรุ่น แนะนำสัก 2-3 รุ่น
ไมเคิล มอนดาวี แฟมิลี “อานิโม” นาปา แวลลีย์ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 2016 (Michael Mondavi Family “Animo” Napa Valley Cabernet Sauvignon 2016) : เป็นสไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 95% แมร์โลต์ (Merlot) 4% และเปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 1% จากไร่ชื่อ “Animo” บ่มโอคฝรั่งเศส 27 เดือน ผลิตเพียง 970 ลัง
สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม แบล็คเชอร์รี และซีทรัส โกโก้ ชอกโกแลตขม ๆ เอสเปรสโซ่ ซีดาร์ สโมคกี้โอค สไปซี่ เฮิร์บแห้ง ๆ จันทร์เทศ โรสแมร์รี มะกอกดำ วานิลลา ครีมมี ฟูลบอดี้ แอซสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่เฮิร์บ วานิลลา สามารถดื่มได้ในตอนนี้….19/20 คะแนน
“เอ็ม บาย ไมเคิล มอนดาวี นาปา แวลลีย์ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง 2016”(M by Michael Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon 2016) : เป็นไวน์สไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์ ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 58% กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 30% แมร์โลต์ (Merllot) 5% เปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 5% และมาลเบค (Malbec) 2% ผลิต 396 ลัง
สีแดงเข้ม เป็นไวน์ที่หอมกลิ่นผลไม้สุกอบอวลมาก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม แบล็คเชอร์รี ฟิก และมะตูมสุกกรุ่น ๆ จูนิเปอร์ กาแฟคั่ว กลีบกุหลาบแห้ง ๆ ดอกส้ม เอิร์ธตี้ สไปซี่ เฮิร์บ อบเชย จันทร์เทศ ยี่หร่า โกโก้ ใบชาแห้ง ๆ วานิลลา ใบยาสูบ สโมคกี้โอค แอซสิดยังสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ กำลังพร้อมดื่ม….19/20 คะแนน
”โอเบอรอน กาแบร์เนต์ โซวีญยอง นาปา แวลลีย์ 2019 (Oberon Cabernet Sauvignon,Napa Valley 2019) : เป็นไวน์ที่เบลนด์ จากองุ่นหลายพันธุ์ โดยมีกาแบร์เนต์ โซวีญยอง เป็นหลัก นอกนั้นมีเปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) ซินฟานเดล (Zinfandel) แมร์โลต์ (Merlot) และซีฮราห์ (Syrah) อย่างละเล็กน้อย หมักในถังสแตนเลส แล้วมาโลแลคติกในถังโอคฝรั่งเศส แล้วบ่ม 18 เดือนในโอคฝรั่งเศส
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็กเคอร์แรนท์ แบล็กเบอร์รี แบล็กเชอร์รี พลัม กรีนเปปเปอร์ มอคคา กาแฟคั่ว วานิลลา แบล็กชอกโกแลต ใบยาสูบ สโมคกี้โอค สไปซี่เฮิร์บหวาน ๆ ซ่า ๆ จันทร์เทศ ยี่หร่า มิเนอรัล แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและเริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ โอ๊คกรุ่น ๆ วานิลลา สไปซี่เฮิร์บ อาจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก แต่ก็สามารถดื่มในตอนนี้ได้ เป็นอีกหนึ่งในไวน์นาปา แวลลีย์ ที่ควรชิม…..19/20 คะแนน
“ไมเคิล มอนดาวี” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของครอบครัวมาโดยตลอด วันนี้เขามายืนอยู่แถวหน้าของผู้ผลิตไวน์แคลิฟอร์เนีย !!