“Don’t Cry For Me Argentina….!! ”
ประโยคนี้คนวัยเลย 6 ขึ้นไปน่ารู้จักกันดีที่สุด เป็นเสียงเพลงที่ก้องกระหึ่มเกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว ทำให้โรงละครบรอดเวย์เนืองแน่นทุกรอบและทำให้หลายคนได้รู้จักประเทศอาร์เจนตินาอย่างลึกซึ้ง
“Don’t Cry For Me Argentina” โด่งดังในยุค 1977 เป็นต้นมาโดยเป็นหนึ่งในเพลงชุด Evita ซึ่งสะท้อนเรื่องราวของ “เอวา เปรอง” (Eva Peron) สตรีหมายเลขหนึ่งของอาร์เจนตินาในยุคนั้น ดนตรีโดย Andrew Lloyd Webber พ่อมดวงการบันเทิงแห่งลอนดอน เนื้อร้องโดยทิม ไรซ์ (Tim Rice) ร้องโดย Julie Covington ซึ่งใช้ชื่อ “It’s Only Your Lover Returning” มาก่อน ไรซ์มาเปลี่ยนชื่อเพลงภายหลัง ต่อมาก็มีผู้ร้องอีกหลายคน แปลอีกหลายภาษา
ละครเรื่องนี้สนุกสนาน แถมเพลงยังเพราะ แทรกประวัติศาสตร์การปกครองช่วงหนึ่งของอาร์เจนตินา ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ที่สำคัญก็คือ ไม่ผิดเพี้ยนเหมือนละครเพลงเรื่อง “คิง แอนด์ ไอ” (King and I)
Eva Peron หรือ Evita ตามภาษาสเปน มีชื่อเต็มว่า María Eva Duarte de Perón โด่งดังที่สุดตั้งแต่นายพลฮวน เปรอง (Juan Perón : 1895–1974) ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี เมื่อปี 1946 เธอในฐานะสตรีหมายเลข 1 ได้ฉายาว่า “สตรีเหล็ก” ฮวน เปรองมีชื่อเสียงในช่วงเป็นพันเอก บ้าบิ่น มีบุคลิกเป็นผู้นำ ขณะที่ Eva มาจากไหนไม่ปรากฏ รู้แต่ว่าก่อนจะมาเป็นเมียพันเอกรูปหล่อ เธอมาจากสลัมยากจน ใช้ความสวยความสาวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผู้ชายเป็นบันไดไต่ให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ชายที่เคยหลับนอนกับเธอบอกว่า Eva เป็นโสเภณีสวยและรวยเสน่ห์ที่สุดในบัวโนส ไอเรส
ในบทละครระบุเรื่องดังกล่าวไว้ชัดเจน ประชาชนฐานล่างของประเทศ บูชายกย่องเธอราวพระแม่เจ้าผู้มาโปรดโลกมนุษย์ เธอใช้นโยบายประชานิยมมาช่วยคนจน คนจนรากหญ้าของอาร์เจนตินาสมัยนั้น ได้รับของแจกหรือเงินประจำ ใครที่เข้าไปเกี่ยวดองยุ่งเกี่ยวกับรัฐบาลแล้วอยากได้ความสะดวกสบาย ต้องใช้เงินเป็นน้ำมันหล่อลื่น ขณะที่ชนชั้นผู้ปกครองเกลียดชังเธอยิ่งนัก ต่อหน้าจำใจต้องเคารพ เพราะเธอคือสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่ลับหลังถ่มถุยก่นด่า เพราะเสียเกียรติภูมิที่ต้องตกอยู่ใต้บัญชาของอดีตหญิงงามเมือง
ทุกลมหายใจของพวกนายทหารชั้นสูงและนักธุรกิจ จ้องโค่นอำนาจนายพลเปรองทุกวินาที กระทั่งปี 1955 ก็สำเร็จ นายพลเปรองถูกปฏิวัติต้องระเห็ดไปอยู่ต่างประเทศ ขณะที่ Eva ตายด้วยโรคมะเร็งด้วยวัยเพียง 33 ปี ส่วนสามียังมีอิทธิพลแฝงหลงเหลืออยู่ และกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 1973 พร้อมแต่งงานใหม่กับอิซาเบล และให้เป็นรองประธานาธิบดี เมื่อนายพลเปรองตายในปี 1974 อิซาเบลจึงนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศ พร้อมนโยบายประชานิยม
เดือนธันวาคม 2550 การเมืองอาร์เจนตินา มีผู้นำหญิงอีกครั้งเมื่อกริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ภริยาประธานาธิบดีเนสเตอร์ กีร์ชเนร์ ชนะการเลือกตั้ง และก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอาร์เจนตินาที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นประธานาธิบดีหญิงคนที่ 2 ที่ได้รับตำแหน่ง
ช่วงที่สามีดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เธอในฐานะสตรีหมายเลข 1 ได้ทำหน้าที่เป็นทูตเฉพาะกิจของรัฐบาลอาร์เจนตินาไปด้วย และได้รับการยกย่องว่าการพูดต่อสาธารณชนของเธอได้ดีเยี่ยม จนมีผู้เปรียบเทียบว่ามีลักษณะเฉพาะที่เหมือนกับ “เอวา เปรอง หรือเอวิตา” สตรีหมายเลข 1 ผู้ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวอาร์เจนตินา แต่เส้นทางของเธอก็จบอย่างไม่ค่อยจะสวยงามเช่นกัน !
เสียงเพลง “อย่างร้องไห้เพื่อฉัน อาร์เจนตินา…” โหยหวนขึ้นมาในโรงละครบรอดเวย์ เป็นบทเพลงที่ซึ้งกินใจ ทุกคนน้ำตาคลอ เนื้อหาของบทละครค่อย ๆ ฉุดอารมณ์ของผู้ชมให้คล้อยตาม ก้าวจะหวะชีวิตของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง จากจุดเริ่มต้นที่รันทด อดทน ต่อสู้ จนถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ก่อนจะพลาดตกจากสวรรค์ในฉากสุดท้าย
Evita เปล่งเสียงอันสั่นเครือ “อย่าร้องไห้เพื่อฉัน อาร์เจนตินา….” …ชีวิตฉันมีเพียงเท่านี้ มาตัวเปล่า ก็กลับไปตัวเปล่าได้….. น่าจะเป็นข้อคิดคติเตือนใจสำหรับใครหลาย ๆ คนที่วนเวียนปั่นป่วนประเทศไทยอยู่ในเวลานี้ ….
อาร์เจนตินาผลิตไวน์ผลิตไวน์เป็นอันดับ 5 ของโลก แต่ผลิตมากที่สุดในอเมริกาใต้ ซึ่งมีแหล่งผลิตสำคัญ 4 ประเทศ อีก 3 ประเทศคือ บราซิล อุรุกวัย และชิลี โดยอาร์เจนตินาส่งออกเป็นอันดับ 13 ของโลก ปัจจุบันในบ้านเราก็ถูกนำเข้ามามากขึ้น คุณภาพเหมาะสมกับราคาและเหนือกว่าราคา
มีไวน์อาร์เจนตินาบางตัวที่น่าสนใจดังนี้
กาเตนา ซาปาตา มาลเบค อาร์เจนติโน อูโก แวลลีย์,อาร์เจนตินา 2017 (Catena Zapata Malbec Argentino Uco Valley,Argentina 2017) : หนึ่งในมาลเบคที่อร่อยจากอาร์เจนตินา ฉลากสื่อถึงองุ่นมาลเบคที่ถูกแมลงฟีลลัคเซอระ (Phylloxera) ทำลายจนแทบเกลี้ยงทวีปยุโรปรวมทั้งฝรั่งเศส มาลเบคจึงถูกนำมาปลูกที่อาร์เจนตินาเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ กระทั่งกลายเป็นองุ่นแดงประจำชาต
ครอบครัว Catena ก็ทำมาจนถึงทายาทรุ่นที่ 4 ในอูโก แวลลีย์ (Uco Valley) แหล่งผลิตไวน์ระดับหัวกระทิของเขตเมนโดซา (Mendoza) รุ่นนี้ทำจากมาลเบค 100% หมักในถังโอคและบ่ม 18 เดือนในถังโอคฝรั่งเศส ผลิตเพียง 22,800 ขวด
สีแดงเข้มสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น บลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี และราสพ์เบอร์รี สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ จันทน์เทศ โอคหอมกรุ่น ดอกไวโอเลต กาแฟคั่ว ควันไฟ มิเนอรัล แทนนินหนักแน่นแต่นุ่มเนียน แอซสิดสดชื่น ฟูลบอดี้ จบยาวด้วยผลไม้ โอคหอมกรุ่น และมิเนอรัล สามารถดื่มในตอนนี้เป็นต้นไป และเปิดขวดสัก 10 -15 นาทีดื่มได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องดีแคนต์ เป็นมาลเบคที่อร่อยมากในตลาดเมืองไทย….19.5/20 คะแนน
กาเตนา ดี.วี.กาเตนา ตินโต อิสโตริโก เมนโดซา อาร์เจนติน 2019 (Catena “D.V. Catena”,Tinto Historico,Mendoza,Argentina 2019) : ผลผลิตของ Catena Zapata ผู้ผลิตไวน์คุณภาพของอาร์เจนตินา ตัว D.V.ย่อมาจาก Don Domingo Vicente Catena พ่อของ Nicolás Catena Zapata ผู้บริหารคนปัจจุบัน ตั้งชื่อรุ่นเพื่อเป็นเกียรติแด่พ่อของเขา
ทำจากมาลเบค (Malbec) 75% บอนาร์ดา (Bonarda) 19% ซึ่งเป็นองุ่นดาวรุ่งของอาร์เจนตินา ซึ่งเคยปลูกในแคว้นซาวัวของฝรั่งเศสมาเป็นพัน ๆ ปี และเปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 6%บ่มโอคฝรั่งเศสและอเมริกัน 16 เดือน
สีแดงโกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี แบล็คเชอร์รี ดอกไม้ มิเนอรัล สไปซี่ เฮิร์บ เปปเปอร์ มินต์ โอคกรุ่น ๆ วานิลลา ใบยาสูบ ใบชาแห้ง แอซสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซีเฮิร์บ วานิลลา กำลังพร้อมดื่ม แนะนำแช่ให้เย็นสัก 13-14 องศาและเปิดประมาณ 45 นาที เป็นไวน์อาร์เจนตินาที่ชิมเผิน ๆ เหมือนไวน์ฝรั่งเศส และอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ……..19/20 คะแนน
ไคเคน โอเบอร์ตูรา,เมนโดซา,กาแบร์เนต์ ฟรอง 2019 (Kaiken Obertura,Mendoza,Cabernet Franc 2019) : ผลผลิตของ Kaiken ผู้ผลิตไวน์คุณภาพแห่งอาร์เจนตินา ทำจากกาแบร์กเนต์ ฟรอง 100 % และเป็นหนึ่งในพรีเมียม กาแบร์กเนต์ ฟรอง จากเมนโดซา เป็นไวน์สายนุ่มนวลของอาร์เจนตินา ขณะที่มาลเบคเป็นสายแข็งแกร่ง+สระสรวย
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แครนเบอร์รี แบล็คเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และบลูเบอร์รี ดอกไวโอแลต สไปซี เฮิร์บ ยี่หร่า มินต์ ยาสูบ กาแฟคั่ว มิเนอรัล แอซสิดสดชื่น แทนนินปานกลางแต่หอมหวาน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่ เฮิร์บ มิเนอรัล ยังไม่เผยตัวเต็มที่นัก น่าจะอีก 2-3 ปี……19/20 คะแนน
ลุยจิ บอสกา “ปาราอีโซ” เมนโดซา อาร์เจนตินา 2019 (Luigi Bosca Paraíso Mendoza Argentina 2019) : หนึ่งในไวน์ไอคอนของอาร์เจนตินา เพิ่งได้รับรางวัลเหรียญทอง และ 96/100 คะแนน จาก “Decanter World Wine Awards 2022” ที่จัดโดยนิตยสารดีแคนเตอร์ คำว่า “Paraíso” แปลว่าสวรรค์ เป็นรุ่นที่ผลิตในวาระที่ไวเนอะรี Luigi Bosca ครบรอบ 120 ปี เบลนด์ด้วยองุ่นจากอูโก แวลลีย์ (Uco Valley) ประกอบด้วยมาลเบค (Malbec) 71% กาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 29% บ่มโอคฝรั่งเศสใหม่ 12 เดือน
สีแดงโกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี ราพ์เบอร์รี บลูเบอร์รี เรดเคอร์แรนท์ วานิลลาโดดเด่น ดอกไวโอเลต กาแฟคั่ว แบล็คชอกโกแลต สไปซี เฮิร์บ กานพลู จันทร์เทศ มินต์ มิเนอรัล โอคกรุ่น ๆ มิเดียมบอดี้ แอซสิดสดชื่นและค่อนข้างสูง เนื่องจากองุ่นมาจากเขตเย็น แทนนินปานกลางและเริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี่ เฮิร์บ วานิลลา และโอค ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะอีก 2-3 ปี และสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 20 ปี เป็นหนึ่งในไวน์อาร์เจนตินาที่ควรชิมสักครั้ง…..19.5/20 คะแนน
ไคเคน มาย,เมนโดซา,มาลเบค 2016 (Kaiken Mai,Mendoza,Malbec 2016) : ไวน์ที่ทายาทเจ้าของไวน์มอนเตส (Montes) แห่งชิลีขยายอาณาจักรไปลงทุนในประเทศอาร์เจนตินา และสามารถทำได้ดี โดยคำว่า “Mai” ภาษาพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเมนโดซาแปลว่า The First โดยนัยคือเป็นไวน์ Icon ตัวแรกของไคเคน ทำจากมาลเบค 100 % อายุขององุ่นกว่า 100 ปี จาก 3 ไร่คืออาเกรโล (Agrelo) วิสตัลบา (Vistalba) และวิสตา ฟลอเรส (Vista Flores) ในเมืองเมนโดซา บ่มโอคฝรั่งเศสใหม่ 18 เดือน บ่มในขวดอีก 24 เดือนก่อนนำออกมาให้คอไวน์ได้ลิ้มรส
สีแดงเข้มสดใสขอบม่วงนิด ๆ กลิ่นหอมผลไม้สุก เช่น แบล็คเชอร์รี พลัม ราสพ์เบอร์รี และแบล็คเบอร์รี สไปซีใบไธม์กรุ่น ๆ ตามด้วยยาสูบ อบเชย ควันไฟ มิเนอรัล แทนนินนุ่มเนียน แอซสิดสดชื่น จบด้วยผลไม้สุกและเฮิร์บกรุ่น ๆ ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก แต่ก็สามารถดื่มตอนนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตามอีก 3-4 ปีจะอร่อยกว่านี้ และสามารถเก็บได้ถึง 15 ปี….19/20 คะแนน
“ไวน์กับการเมือง” จริง ๆ ไม่น่าเกี่ยวกับ แต่ก็มีเรื่องให้พัวพันกันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม ที่แน่ ๆ ชิมไวน์อาร์เจนตินา ไม่มีร้องไห้เด็ดขาด อย่างน้อยราคาก็ไม่โหดเหมือนไวน์ยุโรปบางประเทศ !!