“อิสราเอล” (Israel) เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่ต้องบันทึกไว้ว่าไม่ธรรมดาสำหรับการผลิตไวน์ เพราะสามารถผลิตไวน์คุณภาพดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่แห่งโลกใหม่อย่าง ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ชิลี นิวซีแลนด์ และเซาท์ แอฟริกา บางยี่ห้อ บางรุ่นสามารถพิชิตไวน์โลกเก่าได้
อิสราเอล ผลิตไวน์มาตั้งแต่ยุค Biblical ซึ่งตอนนั้นอิสราเอลถูกเรียกว่า Canaan และ Judea มีหลักฐานว่าผลิตไวน์ก่อนชาติในยุโรปประมาณ 200 ปี สมัย Biblical นั้นไวน์มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยในช่วงต้นคริสตกาล ดินแดนแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าไวน์ที่กระจายไปสู่ฝรั่งเศส อิตาลี และเลบานอน
ศูนย์กลางการผลิตไวน์ของอิสราเอลยุคโบราณอยู่ที่เมืองกิบอน (Gibeon) ประมาณปี 1959-1960 นักโบราณคดีได้ค้นพบเซลลาร์ใต้ดินสำหรับเก็บไวน์ ซึ่งอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส พร้อมกับพิสูจน์พบว่า ไวน์ถูกผลิตและเก็บอยู่ในเมืองกิบอนตั้งแต่ 600 – 700 C.E.
หลังจากโรมันรุกราน Judea ในช่วง 70 C.E. ไร่องุ่นถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมุสลิมเข้ามาครอบครองในช่วง 636 C.E. ไวน์ก็กระสานซ่านเซ็นแทบจะสูญหายไปจากดินแดนแห่งนี้ ประกอบกับความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งดึงอิสราเอลเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้อรรถรสน่าตื่นตะลึงเกี่ยวกับไวน์ของอิสราเอลถูกกลบด้วยเสียงอื้ออึงของสงคราม
ที่ผ่านมาอิสราเอลมีชื่อเสียงในการผลิตโคเชอร์ (Kosher) หรือไวน์หวานสำหรับประกอบพิธีกรรม โดยมีลูกค้าเป็นกลุ่มชาวยิวที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นสินค้าส่งออกหลัก ปัจจุบันโคเชอร์ก็ยังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไวน์ของอิสราเอล
ยุคใหม่ของการผลิตไวน์ของอิสราเอลเริ่มต้นเมื่อ บารอน เอดมอนด์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Edmond de Rothschild) หุ้นส่วนใหญ่ชาโต ลาฟิท ร็อธส์ชิลด์ โดยในปี 1882 เขาสนับสนุนให้ชาวยิวอพยพปลูกองุ่นทำไวน์ ท่ามกลางดินที่แน่นไปด้วยหิน ทราย และอากาศที่ร้อนระอุ ประกอบกับช่วงนั้นฟีลล็อกซีราทำลายองุ่นในยุโรปจนราบเป็นหน้ากลอง
Baron Edmond สร้างไร่องุ่น 2 แห่ง ๆ แรกที่เมือง Zikhron Ya’aqov อยู่ทางเหนือของประเทศ หรือ 35 กิโลเมตรลงไปทางใต้ของเมือง Haifa ซึ่งเป็นเมืองแรกที่ชาวยิวอพยพมาอยู่ อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมือง Rishon LeZion เมืองใหญ่อันดับ 4 ของอิสราเอล อยู่ตอนกลางของประเทศ ปรากฏว่าวินเทจแรกไวน์ออกมาหวาน เนื่องจากอุณหภูมิสูง ปี 1906 Baron Edmond ได้ยกการบริหารงานในไร่ดังกล่าวให้กับเกษตรกรที่ร่วมกันก่อตั้ง Societe Co-operative Vigneronne des Grandes Caves ปี 1957 เจมส์ ร็อธไชลด์ ลูกชายของบารอนได้บริจาคไร่ให้กับสหกรณ์ดังกล่าว ต่อมาผลิตไวน์ภายใต้ชื่อคาร์เมล (Carmel)
ในช่วงศตวรรษที่ 20 Carmel เป็นไวน์อิสราเอลรายแรกที่ไปคว้าเหรียญทองจากงาน Paris World’s Fair ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รุ่นที่ได้คือ Carmel No.1 วินเทจ 1900 เป็นสัญญาณว่าไวน์อิสราเอลกลับสู่ความยิ่งใหญ่ หลังสลบเหมือดไปถึง 2,000 ปี
ปี 1970 Carmel เริ่มผลิตไวน์จากองุ่นพันธุ์แคลซสิคเป็นครั้งแรกของอิสราเอล จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) และโซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) ขณะที่อิสราเอล ไฟน์ ไวน์ที่ผลิตอย่างจริงจังพิถีพิถันตัวแรกคือ Carmel Special Reserve 1976 (วางตลาดปี 1980)
พันธุ์องุ่นในอิสราเอลล้วนเป็นสายพันธุ์แคลซสิคจากยุโรปทั้งสิ้น โดยCabernet Sauvignon นิยมปลูกมากที่สุด และทำไวน์ได้คุณภาพดี ตามด้วยแมร์โลต์ (Merlot),Sauvignon Blanc และชาร์โดห์เนย์ (Chardonnay) นอกนั้นก็มีปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) โยฮันนิสเบิร์ก รีสลิ่ง (Johannisberg Riesling) เกวืร์ซทรามิเนอร์ (Gewürztraminer) และมุสแคต คาเนลลิ (Muscat Canelli)
พันธุ์ใหม่ ๆ ก็มี Syrah/Shiraz,Petit Verdot,Viognier,Zinfindel ,Petite Sirah และ Muscat of Alexandria ใช้ทำไวน์หวาน ส่วน Emerald Riesling เกิดจากการผสมสายพันธุ์ระหว่าง Johannisberg Riesling กับ Muscadelle อิสราเอลสามารถทำได้กว่าแคลิฟอร์เนีย แหล่งกำเนิดเดิมขององุ่นพันธุ์นี้
แหล่งปลูกองุ่นดั้งเดิมของอิสราเอลอยู่ในเขต Sharon & Shimshon แต่ไวน์คุณภาพดีเยี่ยมมาจาก Upper Galilee,Golan Heights, Judean Hills & Ramat Arad เนื่องจากบริเวณนี้ดินเป็นดินแดง เทอร์รา รอสซา (Terra Rossa)หินปูน,ดินเหนียวปนทราย และดินภูเขาไฟ มีพื้นที่ปลูกองุ่นรวม 4,000 เฮกตาร์ ทำให้อิสราเอลเป็นหนึ่งประเทศขนาดเล็กที่ผลิตไวน์ได้ยอดเยี่ยม ปัจจุบันพื้นที่ปลูกองุ่นแบ่งเป็น 5 เขตคือ
1.กาลิล หรือ กาลิลี (Galil หรือ Galilee) อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นเขตที่เหมาะที่สุดในการปลูกองุ่น เนื่องจากอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นเฉียบ อากาศกลางวันและกลางคืนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และดินระบายน้ำได้ดี มีภูเขาสูง ๆ หลายลูก และลมจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน องุ่นที่ปลูกได้ดีคือ Cabernet Sauvignon, Merlot, Sauvignon Blanc และ Chardonnay
2. จูดีน ฮิลลส์ (Judean Hills) พื้นที่รอบ ๆ เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) ซึ่งอากาศเย็นประกอบกับอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล จึงเหมาะในการปลูก Chardonnay
3. ชิมชอน หรือแซมสัน (Shimshon or Samson) ตั้งอยู่ระหว่าง Judean Hills กับ Coastal Plain
4.เนเกฟ (Negev) เป็นพื้นที่ทะเลทราย แต่สามารถปลูกองุ่นได้ โดยเฉพาะ Merlot อยู่ทางตอนใต้ของประเทศและครอบคลุมพื้นที่ 55% ของประเทศ คำว่า Negev มาจากภาษาฮิบรูแปลว่าดราย (Dry)
5. ที่ราบชารอน (Sharon plain) เป็นเขตปลูกองุ่นกว้างใหญ่ที่สุดของอิสราเอล อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean)ทางใต้ของเมืองไฮฟา (Haifa) รอบ ๆ เมือง Zichron Ya’akov และ Binyamina
6. ที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) พื้นที่ 1,800 ตารางกิโลเมตร ทางตอนเหนือของประเทศ มีพรมแดนติดกับประเทศซีเรีย (Syria)
ปัจจุบันมีผู้ผลิตไวน์ระดับยักษ์ใหญ่ประมาณ 12 ราย ที่เหลือกว่า 150 รายเป็นผู้ผลิตรายเล็ก ๆ และบูกติก โดยผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ดังกล่าวผลิตไวน์คิดเป็น 90 % ของไวน์อิสราเอลทั้งหมด ผู้ผลิตที่สำคัญ ๆ เช่น
คาร์เมล ไวนะรี (Carmel Winery) ก่อตั้งในปี 1882 โดย Baron Edmond Benjamin James de Rothschild (1845-1934) ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นทายาทนายธนาคารตระกูล Rothschild เป็นไวนะรีประวัติศาสตร์ของอิสราเอล เป็นเจ้าแรกและเก่าแก่ที่สุดที่ขายบรั่นดี และน้ำองุ่นสด และเป็นยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกที่ผลิตโครเชอร์ ไวน์ (Cosher wine) พื้นที่ปลูกองุ่นรวม 1,500 เฮกตาร์ ผลผลิตไวน์คิดเป็น 50 % ของประเทศ ส่งไปขายใน 40 ประเทศทั่วโลก
โกลัน ไฮจท์ ไวนะรี (Golan Heights Winery) ก่อตั้งในปี 1983 โดยผู้เชี่ยวชาญในการผลิตไวน์จากแคลิฟอร์เนีย สภาพอากาศเย็น และมีเนื้อดินแบบภูเขาเหมาะกับการปลูกองุ่น ปัจจุบันเจ้าของมี 8 หุ้นส่วนจากคิบบุทซ์ (Kibbutz) ต่าง ๆ ผลิตไวน์วินเทจแรก 1984 แบ่งเป็น 3 ระดับ ๆ สูงสุดเรียกว่า ยาร์เดน (Yarden) รองลงมาคือแกมลา (Gamla) และโกลัน (Golan) ผลผลิตปีละ 6 ล้านขวด ส่งออก 30 %
เอฟรัท ไวนะรี (Efrat Winery) ก่อตั้งในปี 1870 โดยซีฟ ซิด้า ทีเปอร์เบิร์ก (Zeev Zida Teperberg) ในเยรูซาเล็ม เพื่อผลิตไวน์ตามกรรมวิธีแบบโบราณมีไร่องุ่นอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น Judean Hills, Ella Valley, Tabor Village, Tzora Dir-Raphat และ Sansan Creek บริษัทแม่อยู่ในมอทซา (Motza) และมีบูติกไวน์นะรีอยู่ใน Samson Valley ผลิตไวน์และน้ำองุ่นกว่า 100 รุ่น กำลังผลิตปีละเกือบ 10 ล้านขวด เป็นผู้ผลิตระดับหัวแถวของอิสราเอล
บินยามินา ไวน์ เซลลาร์ (Binyamina Wine Cellars) ก่อตั้งในปี 1952 ใน Binyamina เดิมชื่ออีเลียซ (Eliaz) เป็นบริษัทน้ำหอมก่อตั้งโดย James Rothschild ปี 1992 ถูกซื้อโดยผู้สร้างหนังจากแอลเอ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Binyamina Wine Cellars เป็นไวนะรีใหญ่อันดับ 2
ทิชบิ อิสเตท (Tishbi Estate) ก่อตั้งในปี 1984 โดยครอบครัวทิชบิ (Tishbi) จากการแนะนำของ Baron Edmond de Rothschild อยู่ที่ซิชรอน ยาคอฟ (Zichron Yaacov) เชิงเขาคาร์เมล (Carmel mountain)
กาลิล เมาน์เทน (Galil Mountain) ก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่างGolan Heights winery กับ Kibbutz Yiron ในตอนเหนือของ Galilee ผลิตไวน์ 13 รุ่น เช่นรุ่น Galil Mountain และ Yiron
ดาลตัน ไวนะรี (Dalton Winery) ตั้งอยู่ที่ Upper Galilee (Merom Hagalil) ใกล้พรมแดนเลบานอน สูงจากระดับน้ำทะเล 800-900 เมตร ดินเป็นจากหินภูเขาไฟ และดินชอล์ค ผลิตไวน์จากองุ่นสายพันธุ์แคลซสิค โดยเฉพาะ Merlot ดีมาก นอกนั้นก็มี Cabernet Sauvignon และ Sauvignon Blanc
รีกานาติ ไวนะรี (Recanati Winery) อยู่ที่อีเมก ฮีเฟอร์ (Emek Hefer) เจ้าของคือเลนนี รีคานาติ (Lennie Recanati) เจ้าของกิจการธนาคารแห่งอิสราเอล ปลูกองุ่นที่ Upper Galilee
ในหนังสือ Pocket Wine Book 2008 ของ Hugh Johnson ให้ 4 ดาวสำหรับไวนะรี 2 แห่งคือ
1.โดเมน ดู คาสเทล (Domaine du Castel) ก่อตั้งในปี 1988 โดย Eli Gilbert Ben Zaken เดิมเป็นคอกไก่เก่าของครอบครัว ณ Raimat Raxiel (Judean Hills) ริมเทือกเขาทางตะวันตกของ Jerusalem ผลิตไวน์วินเทจแรก 1992 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่น 13 เฮกตาร์ ปลูก Cabernet Sauvignon 40 % Merlot 29 % Chardonnay 25 % และ Petit Verdot 6 % มี Viognier และ Sauvignon Blanc เล็กน้อย ผลผลิตปีละ 8,000 หีบ โรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ เคยให้คะแนนไวน์ Domaine du Castel 3 รุ่น 90-92 คะแนน ถือว่าสูงมากสำหรับไวน์จากย่านนี้
2. โกลัน ไฮจท์ ไวนะรี (Golan Heights Winery) ก่อตั้งในปี 1983 ใน Katzrin บนที่ราบสูงโกลัน ผลิตไวน์พรีเมียม และสปาร์คกลิ้งไวน์ ยี่ห้อ Yarden,Gamla และ Golan
อิสราเอล เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ได้คุณภาพระดับแคลสสิคชาติหนึ่งในโลก จากการที่มีความพร้อมทั้งดินฟ้าอากาศ แต่ที่ผ่านมาถูกควันเขม่าจากกระบอกปืนปกคลุมจนเกือบหมด และยังไม่รู้ว่าเมื่อใดท้องฟ้าจะสดใส.