มงต์ แซงต์ –มีแชล กับ “ไข่ยักษ์มาดามปูลาร์ด”

มงต์ แซงต์ มีแชล ตอนน้ำลด โรงแรม La Mere Poulard วิธีการทำไข่เจียวยักษ์ สูตรนี้มีเห็ดและผัก สูตรนี้ใส่ผักสลัด สูตรนี้ใส่ล็อบสเตอร์ด้วย Mont Saint - Michel ของหวานอีกสูตรหนึ่ง จานนี้เป็นของหวาน ด้านบนประตูทางเข้า ตำราทำอาหารก็มีขาย ในครัว พนักงานเตรียมทำไข่ยักษ์ ภายในห้องอาหาร มงต์ แซงต์ มีแชล ตอนน้ำท่วม          มงต์ แซงต์- มีแชล (Mont Saint-Michel) หรือ เลอ มงต์ แซงต์- มีแชล (Le Mont St -Michel) เป็นวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว กลางทะเลชายฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส  อยู่ทางตอนเหนือของแคว้นนอร์มองดีติดกับทะเลด้านเกาะอังกฤษ  ตั้งอยู่ตรงรอยต่อระหว่างแคว้นนอร์มองดี (Normandie) กับแคว้นเบรอะตาญ (Bretagne) แต่ขึ้นกับนอร์มองดี

ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 (1979) ภายใต้ชื่อ มงต์ แซงต์ -มีแชลและอ่าว (Mont Saint-Michel et sa baie หรือ Mont Saint-Michel and its Bay)  แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมงต์ แซงต์-มีเเชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน  จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย

ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต มีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร สูง 92 เมตรถ้ารวมกับความสูงของตัววิหารจะมีความสูงถึง 155 เมตร บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของเทวดามิเชล (ไมเคิล) สร้างโดย เอมมานูแอล เฟรมีเยต์ (Emmanuel Fremiet)  ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดมหึมา สูงจากระดับน้ำทะเล 75 เมตร (250 ฟุต) พอน้ำลดก็จะมีหล่มทรายดูด สามารถเป็นเกราะป้องกันให้เป็นอย่างดี วิหารนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 สมัยที่ชาวนอร์มองดีเรืองอำนาจและอิทธิพลถึงขีดสุด

 

มงต์ แซงต์- มิเชล นอกจากจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (Merveille de l’Occident หรือ Wonder of the Western World) แล้ว ยังเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ใน กรุงโรม, วิหารเมืองซาตร์ และเมืองดูราม (Durham) ในอังกฤษ

อารามหลังแรกซึ่งเป็นหลังเล็ก ๆ ถูกสร้างขึ้นราว 789 AD บนแง่หินที่สูงชัน หลังจากที่ทูตสวรรค์เซนต์ -มิเชล (St-Michel) มาพบกับโอแบร์ (Aubert) บิชอปแห่งอาวรองซ์  (Avranches)  แต่ตัวอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันมีอายุอยู่ในช่วง 500 ปี ระหว่างศตวรรษที่ 11 ถึง 16 สมัยที่ชาวนอร์มองดีเรืองอำนาจและอิทธิพลถึงขีดสุด โครงสร้างบางส่วนสร้างเพิ่มเติมเข้าไปในสมัยหลัง ๆ

ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่ามงต์ ตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามิเชล ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟรองช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เพราะคิดว่าปีศาจมาเข้าฝัน จนฝันครั้งที่ 3 มิเชลได้ใช้นิ้วจิ้มที่หัวของโอแบร์ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา

เมื่อมาเที่ยวมงต์ แซงต์-มีแชลแล้วไม่ได้ลิ้มลอง “ไข่ออมเลตยักษ์” ถือว่ายังมาไม่ถึงมหาวิหารแห่งนี้ เพราะนี่คือไข่เจียวแบบฝรั่งหรือออมเลตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ว่ากันว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินหลายประเทศเมื่อเสด็จมาเมืองนี้ จะต้องเสวยไข่ออมเลตสูตรนี้

สถานที่ขายไข่เจียวยักษ์ดังกล่าวและถือเป็นต้นตำรับ มีชื่อว่า “ลา แมร์ ปูลาร์ด (La Mere Poulard)  อยู่ทางขึ้นวิหารและห่างจากตัววิหารประมาณ 50 เมตร  เป็นโรงแรมเล็ก ๆ 3 ดาว ประเภทโรงเตี๊ยม มีห้องพัก 27 ห้อง แต่เคยต้อนรับผู้มีชื่อเสียงอย่าง เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ (Ernest Hemingway) และอีฟส์ แซงต์ – โลรองต์  (Yves Saint-Laurent) เป็นต้น

ภายในโรงแรมและห้องอาหาร ประดับประดาด้วยภาพของลูกค้าคนสำคัญ มีทั้งประมุขของชาติต่างๆ  ผู้นำของประเทศต่าง ๆ ตลอดจนผู้มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ พนักงานบอกว่ามักจะมีลูกค้ามาถามว่าบุคคลสำคัญ ๆ เหล่านั้นเคยนั่งตรงไหน เพื่อจะได้นั่งตรงที่เดียวกัน แล้วถ่ายรูปไปอวดเพื่อน

ตำนานของไข่เจียวยักษ์เกิดจาก “มาดาม ปูลาร์ด” เมื่อปี 1879  เธอมีเคล็ดลับย่อ ๆ คือหลังจากตีไข่แล้วจะนำมาใส่บนกระทะด้ามยาว  แล้วยื่นลงไปเจียวไฟจากฟืนเท่านั้น ไข่จะฟูล้นกระทะขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ดูไกล ๆ เหมือนแพนเค้กยักษ์  สิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือจะใส่เห็ดทรัฟเฟิลลงไปด้วย พร้อมแฮมแล่บาง ๆ ก่อนเสิร์ฟจะโรยวิปครีมสูตรพื้นบ้านลงไปด้วย  เวลาตักเข้าปากเนื้อไข่จะนุ่มเนียนละเอียดราวกับจะละลายในปาก โดยไม่ต้องเคี้ยว

ไข่เจียวยักษ์ “มาดาม ปูลาร์ด”  มีขายเฉพาะในโรงแรม La Mere Poulard แห่งเดียวเท่านั้น ที่อื่นไม่มีขาย  อาจจะทำไม่ได้ หรือทำได้ก็รสชาติไม่เหมือน ดังนั้นใครอยากกินต้องมาพักอยู่กับโรงแรมแห่งนี้ หรือมาเที่ยวที่ปราสาทมงต์ แซงต์ มีเเชล ซึ่งมีให้กินทุกมื้อทั้งมื้อเช้า กลางวัน และดินเนอร์ ที่สำคัญทำได้ทั้งคาว และหวาน

ลองดูเมนูของเขาก็ได้ L’omelette tradition Mere Poulard au jambon de pays,L’omelette tradition Mere Poulard au saumon mi-fume, L’omelette tradition Mere Poulard flambee au Calvados และ L’omelette tradition Mere Poulard sucree au Chocalat fondant  เป็นต้น

ท่านที่อยากจะไปเที่ยวมงต์ แซงต์ – มีแชล และกินไข่เจียวยักษ์ จากปารีส ขับรถยนต์ส่วนตัวไปประมาณ 4.5 ชั่วโมง  หรือนั่งรถไฟด่วนเตเจเว (TGV) สถานี Gare Montparnasse ไปลงที่ Rennes ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นเบรอะตาญหรือบริตานีย์ (Bretagne or Brittany) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วไปต่อรถบัส “Keolis Emeraude. อีก 90 นาที

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...