“มาเดียรา”:ความยิ่งใหญ่ใต้ร่มเงาพอร์ต

“ฟอร์ติไฟด์ ไวน์” (Fortified Wine) ชื่อดังและชั้นยอดของโลก มีเขตการผลิตใหญ่ ๆ อยู่ 2 แห่งคือที่สเปนและโปรตุเกส และเป็นคู่แข่งกันมาโดยตลอด ไม่แพ้วงการฟุตบอล ผู้คนในแดนกระทิงดุ เรียก Fortified Wine ไวน์ของพวกเขาว่า แชร์รี (Sherry) ขณะที่ส่วนใหญ่ชอบออกเสียงว่า เชอร์รี แต่อย่าไปจำสับสนกับคำว่า เชอร์รี (Cherry) ซึ่งเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ออกเสียงเหมือนกัน แต่เขียนต่างกันเพียงตัวเดียว จาก S เป็น C
ส่วนชาวโปรตุเกองุ่น Verdelho

Bual Madeira

Malaga

Malvasie Madeira

Marsala

port

Rainwater Madeira

Sherry

Thomas Jefferson ผู้ชื่นชอบ Madeira

Verdelho Madeira

Vintage Madeiras

การบ่ม Canteiro

เกาะ Madeira

ถังบ่มแบบ estufagem

องุ่น Sercialสดินแดนแห่งฝอยทอง และนักฟุตบอลชื่อดังคริสเตียโน โรนัลโด แห่งรีอัล มาดริด เรียก Fortified Wine ว่า วิโน โด ปอร์โต (Vinho do Porto),ปอร์โต (Porto) หรือปอร์โต ไวน์ (Porto wine) แต่คำสากลที่คนทั่วโลกเรียกกันก็คือ พอร์ต (Port) หรือ พอร์ต ไวน์ (Port Wine)
Fortified Wine มีรสชาติเข้มข้นเต็มปาก กระเดียดไปทางหวาน เนื่องจากมีการเติมเหล้าองุ่นกลั่นลงไปด้วย และส่วนมากนิยมเติมบรั่นดี น้ำเหล้าองุ่นหมักกำลังมีรสหวานอยู่เต็มที่ มีดีกรีประมาณ 7 % แต่เมื่อได้บรั่นดีเข้าไปผสม Fortified Wine ดีกรีจะแรงขึ้นถึง 20 % บางชนิดอาจจะถึง 25 % (เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์โดยปริมาตร)
นอกจากนั้นยังอาจจะเติมความหวานลงไปด้วยก็ได้ และส่วนใหญ่จะคิดว่า Fortified Wine จะต้องมีรสหวาน แท้ที่จริงแล้วมีทั้งหวานและไม่หวาน (Dry) ขณะที่บางแห่งนิยมเติมของเหลวสกัดจากเครื่องเทศและสมุนไพรลงไปด้วย เพื่อเป็นการตกแต่งกลิ่นหรือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นต้น
“มาเดียรา” (Madeira) เป็น Fortified Wine ชนิดหนึ่งซึ่งคนไทยแทบไม่ค่อยมีใครได้ลิ้มลองและชิมรส สาเหตุสำคัญคือไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย คนไทยไม่ชอบแอลกอฮอล์ที่มีรสหวานจัด เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมตระกูล Fortified Wine ด้วยกันอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น Port,Sherry,Malaga และ Marsala เป็นต้น ทำให้อิมพอร์ตเตอร์ไม่กล้าเสี่ยงภัยนำเข้ามาขาย
ขณะที่ในโปรตุเกส Madeira ยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของพอร์ต ถึงแม้รสชาติของ Madeira หลายยี่คุณภาพจะดีกว่าพอร์ตบางยี่ห้อก็ตาม ขณะที่คนโปรตุเกสบอกว่า Port และ Madeira เป็นฝาแฝดกัน
“Madeira” มีแหล่งกำเนิดอยู่บนเกาะ Madeira ของประเทศโปรตุเกส อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ใช้เวลาบินประมาณ ชั่วโมงครึ่งจากแผ่นดินแม่ ซึ่งดินเป็นขี้เถ้าภูเขาไฟ อากาศกึ่งร้อนกึ่งหนาว กระเดียดไปทางค่อนข้างชื้น แต่มีป่าเขียวชะอุ่ม ปลูกองุ่นอยู่ตามไหล่เขาและเนินเขาเตี้ย ๆ การเก็บเกี่ยวองุ่นจึงค่อนข้างลำบาก
องุ่นที่ปลูกสำหรับทำ Madeira ประกอบด้วย 4 สายพันธุ์คือ แซร์เชียล (Sercial) ซึ่งสีเหลืองอ่อน รสเปรี้ยวนำ แวร์เดลโล (Verdelho) รสหวานนิดเปรี้ยวหน่อย บูล (Bual) รสหนักแน่น หวานปานกลาง และมีกลิ่นขี้เถ้าภูเขาไฟ และมาลเวเซีย (Malvasia) หรือ Malmsey รสหวาน นุ่มนวล หนักแน่นและมีกลิ่นเถ้าภูเขาไปผสมกับพวงองุ่น
วิธีทำ Madeira โดยคร่าว ๆ คือ นำองุ่นที่สุกจัดมาคั้นน้ำและหมักเป็นไวน์ จากนั้นเติมแอลกอฮอล์กลั่นลงไป เพื่อเพิ่มแอลกอฮอล์ ให้เป็น 18 – 20 ดีกรี จากนั้นนำไปบรรจุในถังโอคขนาดใหญ่ แล้วบ่มอีก 2 จังหวะคือ
1.บ่มไวน์ในพื้นที่ที่เรียกว่าเอสตูฟัส (Estufas) ซึ่งแสงแดดจัดจ้านตามธรรมชาติ ทำให้ไวน์เกิดการสันดาป มีกลิ่น สี รส คล้าย ๆ กับพอร์ต กระบวนการนี้เรียกว่ามาเดริเซชัน (Maderisation)
2.บ่มต่อในโรงเก็บไวน์ที่เรียกว่าคันเตียรอส (Canteiros) เพื่อให้ไวน์มีคุณภาพดีขึ้น โดยไวน์จะถูกความร้อนเช่นกัน หลังจากนั้นจะนำมาเดียร่าหลายปี มาผสมผสานกัน

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...