“I wanted this estate to read like an open book, telling the story of the changing world around it and the passage of time. Leave your mark here as I left my eternal trace. May it be worthy of respect for this champagne that is now our shared soul, one that bears—now and forever—the memory of our art.”
วาทะของ “มาดาม ปอมเมอรี” (Madame Pommery : 1819-1890) เจ้าของชอมปาญชื่อดังและเป็น “ชอมปาญมรดกโลก”
“ปอมเมอรี” (Pommery) ถือเป็นชอมปาญ เฮ้าส์ (Champagne House) ที่เก่าและแต่เป็นตำนานหน้าหนึ่งของผู้ผลิตชอมปาญ ถือกำเนิดในปี 1856 โดย Alexandre Louis Pommery และ Narcisse Greno ดำเนินธุรกิจขายขนสัตว์ภายใต้ชื่อ Pommery & Greno หลังจากที่ Alexandre Louis Pommery เสียชีวิตในอีก 2 ปีต่อมา ภรรยาหม้ายของเขาคือ Madame Louise Pommery หรือ Jeanne-Alexandrine Louise Pommery ก็เข้ามาดูแลกิจการแทนในปี 1858 ก่อนจะเป็นที่รู้จักกันในนาม Madame Pommery
Madame Pommery เป็นผู้ปรับเปลี่ยนกิจการของบริษัทมาเป็นการผลิตชอมปาญ ด้วยการซื้อที่ดิน 50 เอเคอร์บนเนินเขา St. Niçaise Reims สิ่งที่ทำให้โลกรู้จัก Pommery ดีก็คือ Madame Pommery ผลิตชอมปาญประเภท “บรุต” (Brut) ออกขายอย่างเป็นทางการเป็นคนแรก ภายใต้ชื่อ “Pommery Brut Nature 1874” โดยส่งไปอังกฤษ ปกติในยุคนั้นชอมปาญรสชาติออกหวาน ๆ ปัจจุบัน Pommery ผลิตบรุต 99%
หลังจาก Madame Pommery เสียชีวิตลูกสาวของเธอกับสามี Guy de Polignac ก็สืบสานธุรกิจของครอบครัวต่อมา กระทั่งปี 1979 ก็ตกเป็นของยักษ์ใหญ่ LVMH group กระทั่งปี 2002 กลุ่ม Vranken-Pommery Monopole ผู้ผลิตขวดชอมปาญที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ก็เข้ามาครอบครองจนถึงปัจจุบัน
Pommery มีถิ่นฐานอยู่ที่เมืองแร็งส์ (Reims) ซึ่งเป็นดินแดนที่อัดแน่นไปด้วยชอมปาญ เฮ้าส์ ทั้งแบบครอบครัวและรายใหญ่ และแม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานปัจจุบัน Pommery ก็ยังสถานที่แห่งนี้ในการผลิตชอมปาญ รวมทั้งเซลลาร์ใต้ดินที่เป็นหินปูน ความยาว 18 กิโลเมตร ความลึก 30 เมตร ในการบ่มไวน์ หลังจาก Madame Pommery สั่งเปิดในปี 1868 และเรียกว่า Cellar Galleries สามารถบรรจุชอมปาญได้ถึง 20-25 ล้านขวด รวมทั้งรุ่นเก่าแก่ที่หายากด้วย
Pommery ผลิตชอมปาญหลายรุ่น เช่น Brut NV, Brut Rosé, Brut Apanage, Apanage Rosé, POP, Grand Cru Vintage, Dry Elixir, Springtime Rosé, Summertime Blanc de Blancs, Falltime Extra Dry, Wintertime Blanc de Noirs, Cuvée Louise, Cuvée Louise Rosé, Cuvée Louise ‘Nature’ และ Le Clos de Pompadour โดยมีตัว Pommery Brut Royal Non-Vintage เป็นเรือธงมียอดการขายปีละประมาณ 4.38 ล้านขวด โดยมี Clément Pierlot เป็นเชฟ เดอ คาฟ (Chef de cave) หรือไวน์เมกเกอร์ คนที่ 10 ของ Pommery ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว
The Drinks Business ได้จัดอันดับ “ท็อป 10 ชอมปาญ แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดประจำปี 2016” (Top 10 Biggest Champange Brands 2017) ปรากฏว่า Pommery ติดอันดับ 7 ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ขณะที่ Vranken-Pommery estate ได้รับการประกาศจากยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ซึ่งนับถึงวันนี้ก็ครบรอบ 3 ปีพอดี
ปัจจุบันเจ้าของ Pommery คือ Vranken-Pommery Monopole Group ซึ่งอยู่ในเมือง Reims นั่นเอง กลุ่มนี้เป็นเจ้าของชอมปาญและไวน์อีกหลายแห่ง เช่น Heidsieck & Co Monopole and Vranken, Château la Gordonne, Domaine Royal de Jarras และ Rozès เป็นต้น
การเดินทางไป Pommery ไม่ยาก จากปารีส 115 กม.ถ้าไปด้วยรถด่วนเตเจเว (TGV) ก็ลงที่สถานี Champagne-Ardenne Bezannes หรือ 10 นาทีจากสถานีรถไฟเมืองแร็งส์ ท่านที่อยากสัมผัสบรรยากาศและไออุ่นของชอมปาญอย่างแท้จริง Pommery มีห้องพิเศษอยู่ 7 ห้องที่ตกแต่งไม่เหมือนกัน สำหรับจัดงานพิเศษต่าง ๆ พร้อมดินเนอร์สุดหรู
ในงาน Vinexpo Hong Kong 2018 ที่ประเทศฮ่องกงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้พบกับนาธาลี ฟรานเกน (Nathalie Vranken) เจ้าของร่วม Vranken-Pommery และผู้บริหารของ Vranken-Pommery ด้วยการประสานงานของบริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด (Ambrose Wine) ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมกับชิมชอมปาญหลายรุ่น เช่น
ปอมเมอรี โรยัล บลู สกาย ซูร์ กลาซ เอ็นวี (Pommery Royal Blue Sky Sur Glace NV) : ชอมปาญที่สร้างความฮือฮา ซึ่งเจ้าของบอกว่าเป็น “21st – Century Innovation” โดยข้างขวดเขียนว่า Sur Glace คือใส่น้ำแข็ง นั่นหมายความว่าชอมปาญตัวนี้รังสรรค์มาเพื่อให้ใส่น้ำแข็งลงไปด้วยจึงจะอร่อย บางคนบอกว่าเป็น “Champagne on the rocks” เป็น semi-dry ซึ่งจะหวานกว่ารุ่น Brut (dry) รุ่นนี้ทำจาก ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ปีโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) และชาร์โดเนย์ (Chardonnay) จากประมาณ 40 ไร่ในแคว้นชอมปาญ เหมาะสำหรับดื่มริมทะเล ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ที่สำคัญสภาพอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรา หอมกลิ่นผลไม้ เชอร็รี สรอว์เบอร์รี ทอฟฟี และดอกไม้
ปอมเมอรี บรุต โรยัล เอ็นวี (Pommery Brut Royal NV) : ทำจากชาร์โดเนย์ (Chardonnay) ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และปีโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) ในอัตรา 35-35-30 % ตามลำดับ เป็นชอมปาญสไตล์ Elegant and Lively ดื่มง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ได้รสชาติของชอมปาญอย่างครบถ้วน สีเหลืองทองอ่อน ๆ มีประกายเขียวเล็กน้อย หอมกลิ่นเรด เชอร์รี ซีทรัส เรดเบอร์รี ดอกไม้ มิเนอรัล ขนมปังกรอบ ยีสต์ สไปซี แอซสิดยอดเยี่ยมมาก ดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ ยีสต์ และมิเนอรัล
ปอมเมอรี บรุต โฮรเซ โรยัล เอ็นวี (Pommery Brut Rose Royal NV) : ทำจากชาร์โดเนย์ (Chardonnay) ปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และปีโนต์ เมอนิเยร์ (Pinot Meunier) ในอัตรา 34-33-33 % ตามลำดับ สีออกไปทางแซลมอน สดใสงดงาม หอมกลิ่นผลไม้ เช่น พีช แพร์ แอปเปิ้ล ลูกท้อ สตรอว์เบอร์รี เชอร์รี มะนาว ส้มจีน มิเนอรัล แทนนินติดปากนิด ๆ ขนมปังกรอบ ครีมมีหน่อย ๆ ควันไฟกรุ่น ๆ แอซสิดยอดเยี่ยมดื่มแล้วสดชื่น จบด้วยผลไม้ และมิเนอรัล
“Never imitate anyone,including yourself”
Madame Pommery ว่าไว้อย่างนั้น…!!