“ไวน์และภาพยนตร์ เป็นศิลปะ เป็นชีวิตและจิตใจ”
ด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้ผู้สร้าง ผู้กำกับ ภาพยนตร์หลายคน ก้าวเข้ามาในเส้นทางสายไวน์ ไม่รวมดารา นักแสดง ที่สำคัญบางคนไม่ธรรมดา เพราะทำไวน์ด้วยความชอบของตัวเอง ไม่ได้สนใจการตลาด เรียกว่าบ้าไม่แพ้บทบาทบนจอ
จอห์น มัลโควิช หรือ จอห์น กาวิน มัลโควิช (John Gavin Malkovich) คือหนึ่งในจำนวนนั้น เขาเป็นทั้งผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายโครเอเชีย ที่ปรากฏในภาพยนตร์มากกว่า 70 เรื่อง เช่น Places in the Heart และ In the Line of Fire ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ผลงานที่ได้รับเสียงวิจารณ์เช่น น้ำตาสีเลือด,ทุ่งสังหาร,Dangerous Liaisons,Con Air,Being John Malkovich, และกระชากปมปริศนาคดีอำพราง รวมถึงซีรีส์ประวัติศาสตร์อย่าง “จอมจักรพรรดินโปเลียน” (Napoleon 2003) เป็นต้น
เดินทางบนแผ่นฟีล์มมาเกือบค่อนชีวิต ปี 1994 จอห์น มัลโควิช เดินทางมาฝรั่งเศส แล้วซื้อที่ประมาณ 9 เฮกตาร์ ในเมืองลูเบอฮรอง (Luberon) ทางตอนเหนือของแคว้นโปรวองซ์ (Provence) แห่งผลิตไวน์โรชื่อดังทางใต้ของฝรั่งเศส หวังจะใช้ชีวิตแบบธรรมชาติร่วมกับครอบครัว มาอยู่ในดินแดนแห่งไวน์ ซึมซับเสน่ห์และกลิ่นอายของไร่องุ่น ปี 2008 จึงตัดสินใจปลูกองุ่นทำไวน์ โดยปลูกเพียง 2 พันธุ์คือปีโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) และทำไวน์ด้วยการเบลนด์จากองุ่น 2 พันธุ์นี้ ซึ่งในโลกนี้แทบจะไม่มีใครทำ !!
ไวเนอะรีของเขามีชื่อว่า “เลส์ เกลล์ เดอ ลา กอสต์” หรือ แอลคิวแอลซี (Les Quelles de la Coste = LQLC) เป็นการร่วมหุ้นกับนิโคเลตตา เปย์รัน (Nicoletta Peyran) ผู้กำกับเชื้อสายอิตาเลียน
ปี 2011 เริ่มผลิตไวน์ลอตแรก 1,300 ลัง ประกอบด้วยไวน์แดง 3 รุ่น ที่ทำจากปีโนต์ นัวร์ และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง และโรเซ ที่ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง ก่อนจะผลิตรุ่นเรือธงชื่อ 14 Quelles และ 7 Quelles ซึ่งเบลนด์จากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 60% ปีโนต์ นัวร์ 40% ผลิตไม่ถึง 1,000 ลัง โดยมีทีมไวน์เมกเกอร์ที่มาร่วมสานฝันของเขาให้เป็นจริงทั้งจากทัสคานี ในอิตาลีและลังเกรอะด็อค ในฝรั่งเศส
ปี 2016 จอห์น มัลโควิช ไอเดียกระฉูดอีก เขาเริ่มปลูกองุ่นการ์แมแนร์ (Carmenère) องุ่นแดงประจำชาติชิลี ที่มีถิ่นกำเนิดในบอร์กโดซ์ และไวน์ของเขามีการนำเข้ามาเมืองไทยเช่นกันโดยบริษัท Ambrose
อย่างไรก็ตามผู้กำกับภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำไวน์จนไปไอดอลของหลาย ๆ คนคือ ฟรานซิส ฟอร์ด คอพโพลา (Francis Ford Coppola) เจ้าของผลงาน “เดอะ ก็อด ฟาร์เธอร์” อันโด่งดัง ปัจจุบันเป็นเจ้าของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอพโพลา ไวเนอะรี (Francis Ford Coppola Winery) และ“รูบิคอน อิสเตท ไวเนอะรี” (Rubicon Estate Winery)
ไร่นี้เดิมชื่อ “นีบอม – คอพโพลา ไวเนอะรี และอิงเกิ้ลนุ๊ก ไวเนอะรี” (Niebaum-Coppola Winery and Inglenook Winery) ตั้งอยู่ที่รัทเธอฟอร์ด (Rutherford) นาปา เคาน์ตี (Napa County) แคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งโดยกุสตาฟ เฟอร์ดินาน นีบอม (Gustave Ferdinand Niebaum) กัปตันเรือชาวฟินแลนด์ ในปี 1879
ปี 1975 Francis Ford Coppola และภรรยาชื่ออีลีนอร์ (Eleanor) ได้เข้ามาซื้อบ้านสไตล์วิกตอเรียน พื้นที่ 120 เอเคอร์ของนีบอม กระทั่งปี 1995 จึงได้ครอบครองเป็นเจ้าของทั้งคฤหาสถ์และไร่องุ่นที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อเป็น Rubicon Estate ในปี 2006
ในยุคแรก ๆ ไวน์ของฟรานซิส ฟอร์ด ใช้ชื่อว่า “นีบอม – คอพโพลา” (Niebaum – Coppola) โดยรุ่นสุดยอดและสร้างชื่อเสียงให้กับไร่องุ่นแห่งนี้คือรุ่น “รูบิคอน” (Rubicon) ซึ่งผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมเหมือนเมื่อ 150 ปีก่อน ทำไวน์สไตล์ “เมอริเทจ” (Meritage) หรือแบบบอร์กโดซ์ เบลนด์ ใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิคจากฝรั่งเศสคือ กาแบร์เนต์ โซวีญยอง,กาแบร์เนต์ ฟรอง และแมร์โลต์ นอกจากนั้นยังมีรุ่น แคชค์ (CASK) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง
“ฟรานซิส ฟอร์ด คอพโพลา” (Francis Ford Coppola) ประสบความสำเร็จทั้งโลกภาพยนตร์และโลกของไวน์ ปัจจุบันผลิตไวน์หลากหลายรุ่น และยังเกี่ยวพันกับวงการภาพยนตร์ เพราะเป็นไวน์ที่ใช้เสิร์ฟในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ (Oscar) ทุกปี ไวน์ของเขามีขายในบ้านเราหลายรุ่น
ปิดท้ายด้วย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับ The Terminator และ Avatar ซื้อไร่ Beaufort Vineyard & Estate Winery เมื่อปี 2014 อยู่ใน Comox Valley ทางฝั่งตะวันออกของ Vancouver ใน British Columbia ประเทศแคนาดา กำลังผลิต 1,800 – 2,000 ลัง
Beaufort Vineyard & Estate Winery ก่อตั้งในปี 2006 โดย Jeff และ Susan Vandermolen ที่เคยทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมัน ผลิตไวน์หลายรุ่น เช่น สปาร์คกลิ้งแบบแชมเปญ ไวน์แดงจาก Cabernet Sauvignon และโรเซจาก Pinot Noir เสียดายที่ไวน์ของเขาไม่มีขายในบ้านเรา
นั่นเป็น 3 ผู้สร้างหรือผู้กำกับภาพยนตร์ ที่หันมากำกับและสร้างสรรรสชาติของไวน์ ยังมีดารานักแสดง อีกหลายคนที่ก้าวเข้ามาเดินบนเส้นทางสายไวน์ จะเป็นใครบ้างจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป !!
