“Oreno” กับเมนูลงตัวที่ Lenzi

Uovo in Camicia เสิร์ฟกับ Crognolo 2012 Vigna dell’Impero 2012 ไวน์ขาวที่เสิร์ฟเป็นรีเซฟชัน สะพานซึ่งที่มาของชื่อไวน์ Antonio Moretti Chiara Borchi ผจก.ด้านส่งออก Grappa Crognolo Oreno 2004 Oreno 2011 Risotto จับคู่กับ Vigna dell’Impero Stew USDA Prime Rib-Eye จับคู่กับ Oreno 2 วินเทจซูเปอร์ ทัสกัน” หรือ “ซูเปอร์ ทุสกัน” (Super Tuscans) ซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักในบ้านเราไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความหมายโดยหลัก ๆ คือไวน์อิตาลีที่ผลิตในแคว้นทัสกานี (Tuscany) ในช่วงทศวรรษที่ 50 ในสไตล์ไวน์บอร์กโดซ์ (Bordeaux) ใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิคจากฝรั่งเศสที่นำมาปลูกในประเทศอิตาลี

เตนูตา เซตเต ปอนติ (Tenuta Sette Ponti) แห่งตำบลกาสติโญน ฟิบ็อคคี (Comune di Castiglion Fibocchi) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ Super Tuscan ระดับคุณภาพเจ้าหนึ่งในทัสกานี ตั้งอยู่ใจกลางของเคียนติ (Chianti) ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์แห่งการทำไวน์ของแคว้นทัสคานี (Tuscany) เจ้าของคือตระกูล Moretti หลังจาก Alberto Moretti ซื้อพื้นที่ 50 เฮกตาร์ มาจากเจ้าหญิง Margherita และ Maria Cristina Savoia d’Aosta ในปี 1950

ชื่อของ Tenuta Sette Ponti นำมาจากจำนวนความโค้งของสะพานข้ามแม่น้ำ Arno ที่เชื่อมอาเรซโซ (Arezzo) กับฟลอเรนซ์ (Florence) ประกอบด้วย 7 โค้งสะพาน โดยโค้งแรกมีชื่อว่า The Buriano Bridge ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ที่สำคัญก็คือสะพานนี้เป็นแบล็คกราวด์ด้านหลังภาพโมนา ลิซา ที่โด่งดังของดา วินชี เป็นความลงตัวของแฟชั่น ไวน์และศิลปะอย่างแท้จริง

The Tenuta Sette Ponti มีพื้นที่ปลูกองุ่นรวมทั้งสิ้น 330 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) จาก 4 พื้นที่ โดยไร่ที่เก่าแก่ที่สุดชื่อ Vigna dell’Impero หมายถึง Vineyard of the Empire ขนาดแค่ 3 เฮกตาร์ ปลูกองุ่นมาตั้งแต่ปี 1935 ส่วนใหญ่เป็นซานโจเวเซ (Sangiovese) กระบวนการทุกอย่างทำด้วยมือ ผลิตไวน์ออกสู่ท้องตลาดครั้งแรกคือรุ่น Crognolo วินเทจ 1998

 

ผู้บริหารในปัจจุบันคืออันโตนิโอ มอเรตติ (Antonio Moretti) รับช่วงจากพ่อของเขา และทำอย่างจริงจังมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาการทำไวน์ เช่น Gilbert Bouvet หนึ่งในยอดฝีมือในการปลูกองุ่นทำไวน์ของฝรั่งเศส ส่วนอีกคนชื่อ Dr.Benedetto d’Anna ดูแลเรื่องการเตรียมพื้นดินสำหรับปลูกองุ่นรุ่นใหม่ ๆ และระบบระบายน้ำให้สมดุลกับธรรมชาติและดิน เป็นต้น

จากนั้นในปี 1999 จึงซื้อไร่แห่งที่ 2 พื้นที่ 115 เอเคอร์ ชื่อ Azienda Agricola Le Fornace ใน Maremma ซึ่งอยู่ชายขอบด้านใต้ของแคว้นทัสกานี  ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ DOC ภายใต้ชื่อ Azienda Agricola Poggio al Lupo หรือ “Hill of the Wolf”  ปัจจุบันปลูกองุ่นซานโจเวเซ (Sangiovese) 40% กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 35%  อลิกันเต (Alicante) 15% ที่เหลือเป็นเปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot)  ปี 2000 ซื้อไร่ที่ 3 ในเขตโนโต (Noto) ขนาด 250 เอเคอร์บนเกาะซิซิลี และตั้งชื่อว่า Feudo Maccari หลังจากทุกอย่างลงตัว ปัจจุบันเขามอบหน้าที่ให้กับลูก ๆ 3 คนดูและกิจการ

เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท G4 ผู้นำเข้าไวน์ตัวนี้อย่างเป็นทางการ ได้จัดแนะนำไวน์ในเครือ Tenuta Sette Ponti ประมาณ 3-4 รุ่นที่ร้าน Lenzi ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่กำลังดังในขณะนี้ โดยมีคิอารา บอร์คี (Chiara Borchi) ผู้จัดการฝ่ายส่งออกเดินทางมาแนะนำไวน์ ไฮไลท์อยู่ที่ “Oreno” วินเทจล่าสุดคือ 2011

เตนูตา เซตเต ปอนติ “กรอโญโล” ตอสกานา ไอจีที 2012 (Tenuta Sette Ponti “Crognolo” Toscana IGT 2012) : วินเทจนี้ทำจาก Sangiovese 90% และMerlot 10% บ่ม 14 เดือนในถังโอคฝรั่งเศส และ 5-6 เดือนในขวด…สีแดงทับทิมเข้ม กลิ่นหอมผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี พลัม และบลูเบอร์รี ตามด้วยสไปซี เฮิร์บ จันทร์เทศ อบเชย แอซสิดค่อนข้างสูงดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้และสไปซี เฮิร์บชุ่ม ๆ คอ

จับคู่กับ Uovo in Camicia,Biroldo Della Garfagnan su Crostone di Pane เป็น Poached Egg,Chard,Grilled Bread & Blood Pudding Ham จากฟาร์มของตระกูล  Lenzi เจ้าของร้าน ปกติ Poached Egg จับคู่กับไวน์ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะไวน์ขาวที่ต้องแช่เย็น ไข่แดงเมื่อเจอความเย็นจะแข็งตัวและคาว แม้แต่ไวน์แดงก็ตาม แต่จุดเปลี่ยนของเมนูนี้คือขนมปังและแฮมที่ช่วยลดความคาวของไข่ลงจนได้ความกลมกล่อม ประกอบกับไวน์แดงตัวนี้แอซสิดและแทนนินค่อนข้างสูงสามารถควบคุมความคาวของไข่ได้ดี

เตนูตา เซตเต ปอนติ “วิญา เดล ลิมเปโร” ตอสกานา ไอจีที 2012 (Tenuta Sette Ponti “Vigna dell’Impero” Toscana IGT 2012) : ตัวนี้ทำจาก Sangiovese 100% สีแดงเข้ม กลิ่นหนังสัตว์และยาสูบค่อนข้างโดดเด่น มิเนอรัลค่อนข้างสูง ส่วนผลไม้มีแบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสพ์เบอร์รี และบลูเบอร์รี  ดอกไม้ป่า ไวโอเลต ขนมตาร์ท แทนนินหนักแน่นและเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก และมิเนอรัล

จับคู่กับ Risotto Taleggio e Tartufo หรือ Risotto with Taleggio cheese in Truffle Sauce คู่นี้เข้ากันได้แนบเนียนกว่าคู่แรกด้วยซ้ำไป องุ่น Sangiovese ที่แอซสิดค่อนข้างสูงเจอกับแป้งข้าวริซอตโตกลายเป็นความหวาน ส่งเสริมด้วยทรัฟเฟิลและ Taleggio ชีสนมวัวจากแคว้นลอมบาร์ดี (Lombardy) ของอิตาลี ซึ่งปกติจะเข้ากับองุ่นเนบบิโอโล (Nebbiolo) ได้ดี

เตนูตา เซตเต ปอนติ “ออเรโน” ตอสกานา ไอจีที 2011 (Tenuta Sette Ponti “Oreno” Toscana IGT 2011) : มาถึงตัวทอปของบริษัทนี้  ทำจาก Merlot 45%, Cabernet Sauvignon 40% และ Petit Verdot 15% บ่ม 18 เดือนในถังบาริกฝรั่งเศสใหม่ ตามด้วยบ่มในขวดอีก 12 เดือน สีแดงเข้มพร้อมประกายทับทิมสดใส กลิ่นผลไม้ที่ดมแล้วเตะจมูกในครั้งแรกคือแบล็คเบอร์รีและสไปซี ตามด้วยพลัม แบล็คเคอร์แรนท์ และราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล ชอกโกแลต โอคหอมหวาน แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มจะนุ่มเนียน แอซสิดสูง ยังไม่เปิดตัวเท่าใดนัก น่าจะอีกประมาณ 5-6 ปี

เตนูตา เซตเต ปอนติ “ออเรโน” ตอสกานา ไอจีที 2004 (Tenuta Sette Ponti “Oreno” Toscana IGT 2004) : ทำจาก Merlot,Cabernet Sauvignon และ Sangiovese ในอัตรา 50-25-25 ตามลำดับ กำลังดื่มอร่อยมาก สีแดงเข้ม กลิ่นโอคหอมหวาน พร้อมผลไม้สุก เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี เชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพรุน เอสเปรสโซ ซีดาร์ ครีมมี เฮิร์บ สไปซี แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้สุก เฮิร์บ และครีมมี

ทั้ง 2 วินเทจนี้จับคู่กับ Spezzatino con Patate alla Toscana หรือ Stew USDA Prime Rib-Eye with Potatoes&Tomato Sauce เนื้อริบอายซึ่งเป็นเนื้อส่วนที่ติดอยู่กับซี่โครง จากสหรัฐตุ๋นจนนุ่มเนียน พร้อมซอสมันฝรั่งและมะเขือเทศ คู่นี้วินเทจ 2004 ซึ่งสุกพร้อมดื่ม แทนนินสุกหอมหวานเข้ากับเนื้อที่นุ่มและซอสหอมหวาน เข้ากับอาหารได้แนบเนียนกว่าวินเทจ 2011 ที่ยังค่อนข้างดิบ แทนนินสูง แอซสิดสูง เมื่อเจออาหารแล้วแยกกันคนละทางทั้งไวน์และอาหาร

Oreno” เป็นหนึ่งในซูเปอร์ ทัสกัน คุณภาพระดับคลาสสิค ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาด ขณะที่มื้อนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ความจริงได้อีกครั้งว่า “ไม่มีไวน์ชาติใด จะเข้ากับอาหารอิตาลีได้ดีเท่ากับไวน์อิตาลี

 

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...