“กอนชา อี โตโร” เปิดตัวไวน์”เพชรแห่งโลกใหม่”

…

“ชิลี” หรือ “ชิเล” (Chile) เป็นชาติเก่าแก่ที่สุดในบรรดาผู้ผลิตไวน์โลกใหม่ด้วยกัน ผลิตไวน์มากว่า 500 ปี ซึ่งนานกว่าการทำไวน์ในแคลิฟอร์เนียถึง 300 ปี และเก่ากว่าไวน์ของออสเตรเลียประมาณ 200 ปี
ชิลีเป็นชาติเดียวในทวีปอเมริกาใต้ที่รอดพ้นจากการทำลายของแมลงฟีลลัคเซอะระ (Phylloxera) ซึ่งทำลายไร่องุ่นทั่วยุโรปราวกลางศตวรรษที่ 19 และชิลีก็ใช้จุดนี้ผสมผสานกับฝีมือ เทคโนโลยีทันสมัย และไวน์เมกเกอร์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันชั้นสูงในศาสตร์แห่งไวน์ทั้งในชิลี อเมริกาและยุโรป ผลิตไวน์จนกระทั่งก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบคุณภาพกับราคาขวดต่อขวด ชิลีทำได้เหนือกว่าชาติใดในโลก
ไวน์ชิลีเป็นวัฒนธรรมสืบสานต่อมาจากสเปน ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสำรวจดินแดนอเมริกาใต้ ทศวรรษที่ 16 และฝากวิชาการทำไวน์ไว้ทั้งในชิลีและในอีกหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ “กอนชา อี โตโร” (Concha y Toro)
“กอนชา อี โตโร” หรือ “คอนชา อี โทโร” (Concha y Toro) เป็นผู้ผลิตไวน์ยักษ์ใหญ่หรือเบอร์ 1 ของชิลี ก่อตั้งในปี 1883 โดยนายดอน เมลชอร์ (Don Melchor) อดีตนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งพื้นเพเดิมเป็นชาวสเปน หลังจากเปิดกิจการมาครบ 100 ปี เขาจึงนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่สหรัฐในปี 1994 นับเป็นบริษัทไวน์รายแรกของโลกที่มีชื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
“Concha y Toro” มาจาก 2 คำในภาษาสเปนรวมกัน คำว่า “กอนชา” (Concha) แปลว่า เปลือกหอย ส่วน “อี” แปลว่า และ ขณะที่ “โตโร” (Toro) แปลว่าวัวกระทิง รวมความแล้วไวน์ยี่ห้อนี้หมายถึง “เปลือกหอยและวัวกระทิง” ซึ่งบางคนแซวว่ามีที่มาที่ไปมาจากบุคลิกของดอน เมลชอร์ เจ้าของไวน์นั่นเอง
นายดอน เมลชอร์ นั้นสมัยที่เป็นนักการเมือง ลีลาของแกดุดันฮึกเหิมและเด็ดขาดมากคล้ายวัวกระทิง ส่วนหอยไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะปากจัดประเภทปากหอยปากปู แต่ทุกคนก็ตั้งฉายาให้เป็นนักการเมือง “เปลือกหอยและวัวกระทิง” สัญลักษณ์ข้างขวดจึงเป็นรูปเปลือกหอยขดซ้อนทับเขาวัว
ขณะที่บางตำราบอกว่า เนื่องจากพื้นที่ปลูกองุ่นของเขาดินมีส่วผสมของเปลือกหอยมากจึงตั้งชื่อ “กอนชา” (Concha) ส่วน “โตโร” (Toro) แสดงถึงว่าเขามาจากสเปน ดินแดนแห่งวัวกระทิง
อันหลังนี่เข้าเค้าความจริงหรือเข้าเค้ามากกว่า !
กอนชา อี โตโร ผลิตไวน์รุ่นต่าง ๆ มากมาย รุ่นหนึ่งที่คนไทยคุ้นกันดีคือรุ่น “กาสติลเลโร เดล ดีอาโบล” (Casillero del Diablo) ที่แปลว่า “ปราสาทผีสิง” ซึ่งเคยเป็นสปอนเซอร์สโมสรฟุตบอลชื่อดังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีฉายาว่า “ปีศาจแดง” ในช่วงปี 2016
นอกจากทำไวน์ของตัวเองแล้วยังจับมือข้ามชาติทำไวน์ราคาแพงคือ “อัลมาวีวา” (Almaviva) โดยร่วมกับ บาฮอง ฟิลิปป์ เดอ ร็อธส์ไชลด์ (Baron Philippe de Rothschild) เจ้าของชาโต มูตอง ร็อธส์ชิลด์ 1 ใน 5 เสือเมด็อก ยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส
ผลิตวินเทจแรกคือ 1996
ไวน์กอนชา อี โตโร ถูกนำเข้ามาเมืองไทยกว่า 20 ปีแล้ว และเปลี่ยนผู้นำเข้าหลายราย ปัจจุบันผู้นำเข้าคือบริษัท อินดิเพนเดนท์ ไวน์ แอนด์ สปิริต (ประเทศไทย) จำกัด (Independent Wine & Spirit Co., Ltd.) หรือ IWS
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2467 ที่ผ่านมา บริษัท IWS ได้จัดงานดินเนอร์ เปิดตัวไวน์คอนชา อี โตโร (Concha y Toro) กลุ่มลักเชอะรี แบรนด์ (Luxury Brand) ภายใต้คอนเซปต์ “Jewels of the New World” ที่ห้องอาหาร The District โรงแรม แมริออท กรุงเทพ สุขุมวิท โดยมีไวน์เมกเกอร์สาวเดินทางมาแนะนำ
….”Jewels of the New World” ประกอบด้วยไวน์ที่น่าสนใจหลายรุ่น ที่ถือว่าหัวกระทิและเข้ามาเมืองไทยหลายปีแล้วคือ “ดอน เมลชอร์” (Don Melchor) พร้อมรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นดังนี้
กอนชา อี โตโร อาเมเลีย ชาร์โดเนย์ ดี.โอ.วัลเล เดล ลามารี 2022 (Concha y Toro Amelia Chardonnay D.O.Valle del Limari 2022) : ทำจากชาร์โดเนย์ 100% จากไร่เกบราดา เซกา (Quebrada Seca) ในลิมารี แวลลีย์ ทางเหนือของซันติอาโก เมืองหลวงประมาณ 320 กม.ขณะที่ไร่ Quebrada Seca อยู่ห่างจากมหาสมุทรแปซิฟิก 22 กม.บ่ม 12 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศส (10% ในโอ๊คใหม่ 90% ในโอ๊คเก่า)…..สีเหลืองทองสดใส หอมกลิ่นผลไม้ พีช แพร์ สับปะรด แอปเปิ้ล มิเนอรัล ไอโอดีน สาหร่ายทะเล เฮิร์บเขียว ๆ แอสปารากัส โอ๊คหอมกรุ่น แอซสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล โอ๊คหอมกรุ่น ……19/20 คะแนน
กอนชา อี โตโร เทอร์รุนยา กาแบร์กเนต์ โซวีญยอง ดี.โอ.เปียเก 2019 (Concha y Toro Terrunyo Cabernet Sauvignon D.O.Pirque 2019) : ทำจากกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง 98% กาเมแนร์ (Carménère) 2% เป็นองุ่นคุณภาพพรีเมียมจากไร่ Pirque Viejo ใน D.O.Pirque ในไมโป แวลลีย์ (Maipo Valley) บ่ม 17 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศส (73% ในโอ๊คใหม่ที่เหลือในโอ๊คที่ใช้มาแล้ว 2 และ 3 ครั้ง) เป็นไวน์รุ่นรักษ์ธรรมชาติและบรรจุขวดโดยไม่กรอง
สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี เรดเชอร์รี ดอกไม้แห้ง โอ๊ค ชอกโกแลต วานิลลา สโม๊คกี้ หนังสัตว์ ไส้ดินสอดำ สไปซี เฮิร์บ จันทร์เทศ อบเชย แอซสิดสดชื่น แทนนินนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ วานิลลา โอ๊ค และสไปซี เฮิร์บ …..19/20 คะแนน
กอนชา อี โตโร เดอะ มาสเตอร์ ดี.โอ.ไมโป วัลเล เดล ไมโป 2020 (Concha y Toro The Master D.O.Maipo Valle del Maipo 2020) : ฉลากงดงามเป็นรูปวัวกระทิง (Toro) ยื่นแก้วไวน์ให้สาวงามที่ยืนอยู่ในเปลือกหอย (Concha) เป็นบอร์กโดซ์ เบลนด์ ทำจากกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 94% เปอร์ตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 5% และกาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 1 % บ่ม 16 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศส (30% ในโอ๊คใหม่ที่เหลือในโอ๊คที่ใช้มาแล้ว 2 และ 3 ครั้ง)
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี ดอกไวโอเลต มิเนอรัล กาแฟคั่ว แบล็คชอกโกแลต ซีดาร์ สโม๊คกี้โอ๊ค ไส้ดินสอดำ สไปซี เฮิร์บ จันทร์เทศ อบเชย มินต์ วานิลลา แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่น จบยาวด้วยผลไม้ วานิลลา สไปซีเฮิร์บ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ควรชิมเป็นอย่างยิ่ง….19/20 คะแนน
มาเกส เด กาซา กอนชา เฮอริเทจ ดี.โอ.ปูเอนเต อัลโต วัลเล เดล อัลโต ไมโป 2020 (Marques de Casa Concha Heritage D.O.Puente Alto Valle del Alto Maipo 2020) : เป็นบอร์กโดซ์ เบลนด์ ทำจากกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 76% และกาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 27 % จากไร่ El Mariscal Vineyard ใน D.O.Puente Alto บ่ม 16 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศส (35% ในโอ๊คใหม่ที่เหลือในโอ๊คมือสอง)
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี ฟิก พลัม ดอกไวโอเลต มิเนอรัล ผงโกโก้ กาแฟคั่ว ซีดาร์ ใบไธม์ วานิลลา สโม๊คกี้โอ๊ค สไปซี้เฮิร์บ อบเชย โป๊ยกั๊ก ยี่หร่า ใบยาสูบ แอซสิดสดชื่น แทนนิหนักแน่น จบยาวด้วยผลไม้ สไปซีเฮิร์บ วานิลลา โอ๊คกรุ่น ๆ สามารถดื่มได้ในตอนนี้ แต่อาจจะไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะอีกสัก 2-3 ปี และเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าชิม……….19/0 คะแนน
มาถึงรุ่นท็อปสุดซึ่งอาจจะเรียกว่ากรองด์ ครู ของชิลี กอนชา อี โตโร “ดอน เมลชอร์” กาแบร์กเนต์ โซวีญยอง ปูเอนเต อัลโต วินเยิร์ด ดี.โอ.ปูเอนเต อัลโต ชิลี 2020 (Concha y Toro Don Melchor,Cabernet Sauvignon,Puente Alto Vineyard D.O.Puente Alto Chile 2020) : ตั้งชื่อรุ่นเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัทคือนาย “ดอน เมลชอร์” (Don Melchor) ใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิคจากบอร์กโดซ์ทั้งหมดคือกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 92% กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 6% แมร์กโลต์ (Merlot) 1 % เปอติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 1 % บ่ม 15 เดือนในถังโอ๊คฝรั่งเศส (ในโอ๊คใหม่ 71 % ในโอ๊คเก่า 29 %) ผลิต 14,600 ลัง ส่งออก 3,500 ลัง
สีแดงเข้มปึ๊ก สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ เชอร์รี ราพส์เบอร์รี ฟิก ดอกไวโอเลต มิเนอรัล ชอกโกแลต สไปซี่เฮิร์บ เปปเปอร์ อบเชย มินต์ ซีดาร์ ใบยาสูบ หนังสัตว์ ไส้ดินสอดำ โอ๊ค ควันไฟ ครีมมี แอซสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและเนียน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซีเฮิร์บ วานิลลาและมิเนอรัล ดื่มได้ในตอนนี้ แต่ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะเริ่มดื่มได้ดีในอีกประมาณ 4-5 ปีหน้า เป็นไวน์ชิลีที่ต้องชิม ……19.5/20 คะแนน
สมัยก่อนที่ไวน์ชิลีเข้ามาเมืองไทยยุคแรก ๆ ไวน์ชิลีได้ชื่อว่า “ขวัญใจคนยาก” เพราะคุณภาพดีและราคาย่อมเยา เมื่อเทียบกับอีกหลาย ๆ ชาติ ปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้น พร้อมความพิเศษเหนือชั้นขึ้นมาคือไวน์ ”เพชรแห่งโลกใหม่” ดังกล่าว