“Barone Ricasoli” ตำนานแห่งไวน์เคียนติ

ในจำนวนไวน์อิตาลีที่เข้ามาเมืองไทยในยุคแรก ๆ และคนไทยรู้จักกันดีที่สุด แน่นอนต้องเป็นไวน์ “เคียนติ” (Chianti) ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปขวดอ้วน ๆ ห่อด้วยฟางที่เรียกว่าฟาสโก (Fiasco) ไวน์เคียนติที่เข้ามาเมืองไทยยุคแรก ๆ และยืนยงคงกระพันมาตราบเท่าทุกวันนี้กว่า 20 ปีก็ต้องเป็น “ริคาโซลิ” (Ricasoli) ซึ่งมีชื่อเต็ม ๆ ว่า “บาโรเน ริคาโซลิ” (Barone Ricasoli) หรือ บารอน ริคาโซลิ (Baron Ricasoli)

บาโรเน ริคาโซลิ (Barone Ricasoli) เป็นผู้ผลิตไวน์คุณภาพรายหนึ่งของอิตาลีและของโลก นิตยสาร Family Business ของสหรัฐระบุว่า เป็นไวนะรีที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี และเป็น 1 ใน 4 ไวนะรีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งโดยบาโรเน เบตติโน ริคาโซลิ (Barone Bettino Ricasoli / 1809 – 1880) เจ้าของฉายา “บารอนเหล็ก” (Iron Baron) เป็นนักปกครองและนักการเมืองที่มีชื่อเสียง เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของอิตาลี และเป็นเจ้าของปราสาทโบรลิโอ (Brolio) ซึ่งเป็นปราสาทงดงามแห่งหนึ่งของอิตาลี มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11

ที่ทำการใหญ่ของ Barone Ricasoli ตั้งอยู่ที่มาดอนนา อา โบรลิโอ (Madonna a Brolio) ห่างจากจากหมู่บ้านกายโอเน (Gaiole) ใน Chianti ประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจากซิเอนา (Siena) ประมาณ 25 กิโลเมตร และจากฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองหลวงของแคว้นตัสกานี (Tuscany) ประมาณ 75 กิโลเมตร

Barone Bettino Ricasoli เป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างตำนานไวน์เคียนติ และพัฒนาจนไวน์เคียนติโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน คำว่าเคียนติหรือคิอานติ (Chianti) ถูกเรียกขานกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ช่วงนั้นเกิดสงครามกลางเมือง กองทัพฝ่ายใต้ยกพลมารุกรานฝ่ายเหนือที่แคว้น Tuscany ณ เวลานั้นท่านบารอนเหล็กก็เริ่มปลูกองุ่นเป็นแปลง ๆ รอบ ๆ ปราสาทแล้ว

องุ่นที่ท่านบารอนเหล็กปลูกคือองุ่นแดงซานโจเวเซ (Sangiovese) และองุ่นเขียวมาลเวเซีย (Malvesia) เมื่อนำมาทำไวน์จะหมักองุ่นแยกทีละถังไม่ปะปนกัน แล้วนำมาปรุงผสมกับน้ำองุ่นรสเข้มข้นหนักแน่นซึ่งทำจากผลองุ่นเกือบแห้งที่เรียกว่าโกเวอร์โน (Governo) และเจ้าโกเวอร์โนนี่เองที่ทำให้รสชาติของไวน์เคียนติในอดีตกลมกล่อม

แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สูตรที่ต้องการ ท่านบารอนยังเดินหน้าความลงตัวของไวน์เคียนติ โดยเดินทางไปทั่วทุกหัวระแหงที่ได้ชื่อว่าผลิตไวน์คุณภาพดี ๆ เพื่อไปเอาวิชาความรู้ เครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยี ฯลฯ กระทั่งปี 1872 สูตรสำเร็จจึงเกิดขึ้น รวมเวลาแล้วกว่า 30 ปี โดยท่านบารอนเขียน จม.ถึงศาสตราจารย์เซซาเร สตูดิอาโต (Cesare Studiati) แห่งมหาวิทยาลัยปิซา (Pisa) ดังนี้

        “… I verified the results of the early experiments, that is, that the wine receives most of its aroma from the Sangioveto (which is my particular aim) as well as a certain vigour in taste; the Canajuolo gives it a sweetness which tempers the harshness of the former without taking away any of its aroma, though it has an aroma all of its own; the Malvagia, which could probably be omitted for wines for laying down, tends to dilute the wine made from the first two grapes, but increases the taste and makes the wine lighter and more readily suitable for daily consumption … “

สูตรที่ท่านบารอนใช้ทำไวน์เคียนติคือ Sangiovese 70%,กาไนโอโล (Canaiolo)15%, Malvasia 10% และองุ่นแดงพันธุ์อื่นอีก 5% ในปี 1967 รัฐบาลได้กำหนดเป็นสูตรที่เรียกว่า “Ricasoli formula” ใช้ Sangiovese เป็นหลัก มี Malvasia และเตรบไบอาโน ตอสกาโน (Trebbiano Toscano) ประมาณ 10-30% ต่อมารัฐบาลอนุญาติให้ผสมกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) ได้ไม่เกิน 10 % หากเกินจะถูกปรับลงไปเป็นเทเบิ้ลไวน์ (Vino da Tavola) อันเป็นตำนานของ “ไวน์ขบถ”

Barone Bettino Ricasoli เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมผู้ผลิตไวน์แคว้นตัสกานีในปี 1835 อยู่ได้ไม่นานก็ล้มเลิกไป แต่ก็เป็นการจุดประกายให้พ่อค้าไวน์ในเคียนติจัดตั้งสมาคมหรือคอนซอร์ซิโอ (Consorzio) ขึ้นมาในปี 1924 เรียกว่า Consorzio Vino Chianti Classico เพื่อสอดส่องดูแลควบคุมคุณภาพไวน์ในหมู่สมาชิกผู้ผลิตด้วยกัน พร้อมออกแสตมป์ตรา “ไก่ดำ” (Gallo Nero) ให้ติดที่คอขวดสำหรับไวน์ Classico ต่อมามีปัญหาเรื่องการจัดการ ทำให้สมาชิกถอนตัวกันหลายราย เจ้าแรกก็คือ Barone Ricasoli นี่เอง

อย่างไรก็ตามหลักการของ Consorzio Vino Chianti Classico นี้ก็ถูกรัฐบาลนำไปประยุกต์ ออกกฎหมายควบคุมคุณภาพไวน์ DOC (Denominazione di Origine Controllata) ในปี 1963 ก่อนจะเพิ่ม DOCG (Denominazione di Origine Controllata e Garantita) ในปี 1984

หลังจากปี 1993 เป็นต้นมากิจการไวน์ Barone Ricasoli อยู่ภายใต้การดูแลของ Francesco Ricasoli บารอนคนที่ 32 ของปราสาท Brolio ปัจจุบันเป็นไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดใน Chianti Classico เฉพาะพื้นที่ปลูกองุ่นก็ปาเข้าไป 240 เอเคอร์ (1 เอเคอร์ = 2.529 ไร่) ไม่รวมพื้นที่อื่น ๆ ผลผลิตปีละประมาณ 3 ล้านขวดส่งไปขายทั่วโลก มีทั้งไวน์ Chainti Classico,ไวน์ขาว,ไวน์หวาน (Vin Santo),กราปปา (Grappa) และน้ำมันมะกอก

ไวน์ที่น่าสนใจที่ผมได้ชิมหนึ่งในห้องบ่มของ Barone Ricasoli Albia 2009 Barone Bettino Ricasoli Barone Ricasoli wines Brolio 2008 Castello di Brolio 2007 Chianti 2009 Rocca Guicciarda 2007 Torricella 2009 เก็บเกี่ยวองุ่นในไร่ Barone Ricasoli ดินในไร่ของ Barone Ricasoli ปราสาท Brolioล่าสุดเช่น
บาโรเน ริคาโซลิ ตอร์ริเซลลา ตอสกานา 2009 (Barone Ricasoli Torricella Toscana 2009) : เป็นไวน์ขาวระดับ IGT ทำจาก Chardonnay 80 % กับ Sauvignon Blanc 20 % จากไร่ใน Siena โดย 50 % บ่มในถังโอค ที่เหลือบ่มในถังสแตนเลสเป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นบ่มในขวดอีก 3-4 เดือน….สีเหลืองทองอ่อนสดใส มีกลิ่นหอมดอกไม้หลายชนิด พีช แอปริคอต เลมอน แอปเปิ้ล ซีทรัส แอซสิดดีมากดื่มแล้วสดชื่น จบค่อนข้างยาวด้วยพีช วานิลลาและน้ำผึ้ง

บาโรเน ริคาโซลิ อัลเบีย ตอสกานา 2009 (Barone Ricasoli Albia Toscana IGT 2009) : เป็นไวน์โรเซระดับ IGT ทำจาก Sangiovese และ Merlot จากไร่ชื่อ Albia บ่มในถังสแตนเลสล้วน ๆ ….สีดอกกุหลาบ หอมกลิ่นดอกไม้ เช่น ไวโอเล็ต และกุหลาบ รวมทั้งผลไม้สุก เช่นสตรอว์เบอร์รี และราสพ์เบอร์รี แอสซิดดีมากดื่มแล้วสดชื่น

บาโรเน ริคาโซลิ เคียนติ 2009 (Barone Ricasoli Chianti 2009) : เป็น DOCG ทำจาก Sangiovese เป็นหลัก มีพันธุ์อื่นผสมอีกเล็กน้อย 90 % บ่มในถังสแตนเลส อีก 10 % บ่มในถังโอค… สีแดงสดใสขอบม่วงเล็กน้อย หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี เชอร์รี ไวโอเล็ต ยาสูบหอม ๆ หวาน ๆ แทนนินปานกลาง แอซสิดค่อนข้างสูง จบปานกลางด้วยผลไม้สุก และสไปซี

บาโรเน ริคาโซลิ โบรลิโอ เคียนติ คลาสสิโก 2008 (Barone Ricasoli Brolio Chianti Classico 2008) : เป็น DOCG ทำจาก Sangiovese 80%, Merlot 15% และ Cabernet sauvignon 5% จากไร่ Gaiole ใน Chianti บ่ม 9 เดือนในถังโอคขนาดเล็ก ตั้งชื่อรุ่นตามชื่อปราสาท Brolio …สีแดงสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่นแบล็คเคอแรนท์ มัลเบอร์รี พรุน และเบอร์รี ยาสูบ พริกไทย อบเชย มิเนอรัล แนนนินนุ่ม ๆ จบค่อนข้างยาวด้วยผลไม้สุกและมิเนอรัล เป็นไวน์ดื่มง่าย ๆ กับอาหารได้หลากหลาย

บาโรเน ริคาโซลิ คาสเตลโล ดิ โบรลิโอ เคียนติ คลาสสิโก รีแซร์วา 2007 (Barone Ricasoli Castello di Brolio Chianti Classico Reserva 2007) : เป็น DOCG  ทำจาก Sangiovese 80%, Merlot 10% และCabernet Sauvignon 10% หมักพร้อมเปลือก 12-18 วัน บ่มในถังโอคเล็กและใหญ่ 18 เดือน…สีแดงเข้มมีประกายสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี และราสพ์เบอร์รี นอกนั้นก็มี ยาสูบ วานิลลา ชอกโกแลต สไปซีเฮิร์บ มิเนอรัล แทนนินปานกลาง แอซสิดดีดื่มแล้วสดชื่น จบค่อนข้างยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล และสไปซี

บาโรเน ริคาโซลิ ร็อกกา กุยซิอาร์ดา เคียนติ คลาสสิโก รีแซร์วา 2007 (Barone Ricasoli Rocca Guicciarda Chianti Classico Reserva 2007) : Rocca Guicciarda เป็นชื่อไร่องุ่นสำคัญแห่งหนึ่งของ Ricasoli ทำจาก Sangiovese เป็นหลัก ผสมกับพันธุ์อื่นอีกเล็กน้อย บ่ม 16 เดือนในถังโอคเล็ก …ไวน์สีแดงเข้มมีประกายสดใสเล็กน้อย หอมกลิ่นดอกไม้ กลิ่นเชอร์รีและเบอร์รีสุก นอกนั้นก็มีเมล็ดกาแฟคั่ว ถั่ว ยาสูบ และเฮิร์บ แทนนินหนักแน่น แอสซิดยอดเยี่ยม

Barone Ricasoli ไม่เพียงแต่จะเป็นไวน์เคียนติคุณภาพเท่านั้น แต่ทุกหยาดหยดเต็มไปด้วยตำนานแห่งอิตาลีและของโลก …สนใจสอบถามที่ผู้นำเข้า บริษัท วานิชวัฒนา (กรุงเทพฯ) จำกัด โทร. 02 221 5340 / 02  224 8044

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...