วอดก้า (Vodka) เป็นเหล้าที่สามารถผสมผสานกับเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ทุกชนิด เนื่องจากเป็นแอลกอฮอล์เกือบบริสุทธิ์ ซึ่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์นั้นจะช่วยเน้นรสชาติของสิ่งที่ผสมลงไปให้หอมหวนชวนดมและดื่มยิ่งขึ้น รวมทั้งเครื่องดื่มชื่อดัง ๆ อย่าง Screw Driver, Bloody Mary และ Vodka Martini เครื่องดื่มสุดโปรดของ เจมส์ บอนด์ ก็มีวอดก้าเป็นส่วนผสมหลัก เป็นต้น
วอดก้าผูกพันลึกซึ้งกับชีวิตและจิตใจของทั้งคนรัสเซียและประเทศรัสเซีย จนถูกขึ้นทะเบียนเป็นเหล้าประจำชาติในศตวรรษที่ 16 “สตาลิน” เคยกล่าวไว้ว่า “วอดก้านำมาซึ่งรายได้หลักของประเทศ การเลิกผลิตเหล้าวอดก้าเท่ากับการสูญเสียรายได้ก้อนมหึมา”
บางตำนานเล่าว่าวอดก้าถือกำเนิดในโปแลนด์เมื่อศตวรรษที่ 9 แล้วแพร่หลายไปในประเทศแถบยุโรปตะวันออก และรุ่งโรจน์มีชื่อเสียงที่รัสเซียในศตวรรษที่ 14 เมื่อทูตสหราชอาณาจักรเดินทางสู่ไปมอสโก มีการต้อนรับด้วยวอดก้า จากนั้นวอดก้าก็ได้ยกในฐานะเป็นเครื่องดื่มประจำชาติชาติรัสเซีย
บางตำนานบอกว่าวอดก้าถูกพัฒนาในยุโรปตอนเหนือ ขณะที่รัสเซียและโปแลนด์ ต่างคุยว่าตัวเองเป็นเจ้าตำรับ ต่อมามีสวีเดนอีกชาติหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มหัวแถว ปัจจุบันมีการผลิตทั่วโลกเช่น ยูเครน สวีเดน สหรัฐ อังกฤษ นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย เยอรมัน เอสโทเนีย เม็กซิโก สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ รวมทั้งไทย เป็นต้น
สมัยที่ยังเป็นสังคมนิยม คนรัสเซียต้องเข้าแถวรอคิวซื้อวอดก้ากลางอากาศหนาวเหน็บ เมื่อซื้อมาแล้วก็แบ่งกันดื่ม ทุกคนจะมีแก้วประจำตัว วอดก้าคนละเป๊กตามด้วยขนมปังดำแบบรัสเซีย และเกลือนิดหน่อย แค่นั้นก็เป็นความสุขของคนรัสเซียยุคนั้น
วอดก้า (Vodka) เป็นนิวโทรส์ สปิริต (Neutral Spirit) คือ สุราที่มีความเป็นกลาง กล่าวคือ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีและไม่มีรส แต่ว้อดก้าราคาถูกอาจมีรสขมติดปลายลิ้นหรืออาจมีกลิ่นของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตหลงเหลืออยู่ วอดก้าที่ทำจากข้าวสาลี (Wheat) และข้าวไรย์ (Rye) ถือเป็นว้อดก้าระดับสุพีเรีย (Superior) ส่วนคุณภาพรอง ๆ ลงไปจะทำจาก มันฝรั่ง (potato) ข้าวโพด (Corn) กากน้ำตาล (Mollasses) และองุ่น (Grapes)
กรรมวิธีการผลิตเหล้าว้อดก้า มีขั้นตอนคล้ายการผลิตวิสกี้ ส่วนที่แตกต่างคือ วอดก้าไม่มีการบ่มในถังไม้โอค (Maturing) และในการผลิตเหล้า วอดก้าจะมีขั้นตอนพิเศษกว่าเหล้าชนิดอื่นๆ คือมีการกรองผ่านถ่านไม้ชนิดหนึ่ง เรียกว่า ชาโคล (Charcoal) ขั้นตอนคือ
1. นำวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตมาหมัก
2. นำไปกลั่น โดยกลั่นแบบต่อเนื่องเพื่อให้สุราที่ได้บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งเป็นหัวใจของเหล้าวอดก้า
3. กรรมวิธีการกรอง จะใช้ถ่านไม้บริสุทธิ์มาเป็นตัวกรองจนได้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ จะเติมน้ำบริสุทธิ์เพื่อปรับแรงแอลกอฮอล์ตามต้องการ ก่อนบรรจุภาชนะออกจำหน่าย
เพียวริที วอดก้า (Purity Vodka) เป็นหนึ่งในวอดก้าคุณภาพระดับอัลทรา พรีเมียม (Ultra Premium) หรือซูเพอร์ พรีเมียม (Super Premium ) ของโลกและของสวีเดน โดยเฉพาะในเมืองไทยถ้าไม่นับวอดก้าที่หอบหิ้วกันมาเอง คงต้องบอกว่านี่คือวอดก้าคุณภาพอัลทรา พรีเมียมที่สุดที่เคยนำเข้ามาในเมืองไทยอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
Purity Vodka เป็นวอดก้าที่เก่าแก่ของสวีเดนและของโลก ก่อกำเนิดตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ณ ปราสาท Ellinge Castle ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ผ่านร้อน ผ่านหนาว สั่งสมประสบการณ์ในการกลั่นวอดก้ามาหลายชั่วชีวิตคน กระทั่งมาถึงปัจจุบัน หน้าที่ Master Blender อยู่ในความรับผิดชอบของนายทอมัส คุททาเนน (Thomas Kuuttanen)
นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา Purity Vodka คว้ารางวัลเหรียญทองและรางวัลในงานใหญ่ ๆ ระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย เช่น The International Wine & Spirit Competition (England),The San Francisco World Spirits Competition (USA),The Destillata (Austria) และ The Sommelier’s Trophy (Sweden) เป็นต้น
ขณะที่ปี 2009 และ 2010 Purity Vodka คว้ารางวัล Vodka Masters and the Travel Masters ในเมือง Cannes ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีวอดก้า 116 ตัวจากทั่วโลกส่งเข้าประกวด และชิมแบบ blind tested ผลปรากฏว่า Purity Vodka พิชิตรางวัล Masters ทั้งประเภท Super Premium Vodka และ Vodka categories
Thomas Kuuttanen บอกว่า …กระบวนการทำ Purity Vodka พิถีพิถันมาตั้งแต่การคัดเลือกวัตุดิบที่จะนำมาทำนั่นคือ ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ ซึ่งเป็นข้าวแบบออแกนิก ผ่านการกลั่นในหอกลั่นที่ออกแบบโดยตัวเขาเอง ทำจากทองคำและทองแดง โดยตั้งอยู่ในปราสาท Ellinge Castle การกลั่นจะทำทั้งหมด 34 ครั้ง ซึ่งจะได้วอดก้นประมาณ 10 % เท่านั้น ที่ถูกบรรจุขวดแล้วส่งไปขายทั่วโลก คิดเป็นปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่บางบริษัท …..”บริษัทใหญ่ ๆ ผลิตวันเดียว ปริมาณกับ Purity Vodka ผลิตทั้งปี….” มาสเตอร์ เบลนเดอร์กล่าว
ผมเคยชิม Purity Vodka กับบาร์เทนเดอร์ระดับโลกชาวนิวยอร์คที่เดินทางมาเมืองไทย เขาบอกว่า “Purity Vodka is the Dom Perignon of Vodka” ขนาดนั้นเลยทีเดียว ขณะที่นิตยสาร Lifestyle Magazine เล่มที่ 4 2009/2010 เคยจัดชิมวอดก้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ปรากฏว่า Purity Vodka ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 98 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 อันดับ 2 ได้ 95 อันดับ 3 ได้ 91 และอันดับ 4 ได้ 90 คะแนน นอกนั้นต่ำกว่า 90 คะแนน ส่วน Dina Viner นิตยสารซอมเมอลิเยของสวีเดน ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2009 ให้ 97 คะแนน และนิตยสาร Drinks International ฉบันเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม 2009 บอกว่า “Purity Vodka is the Crown Jewel of Ultra Premium Vodka” เป็นต้น
จากการชิมในวันนั้นโดยส่วนตัวพบว่า Purity Vodka เป็นวอดก้าที่มีคลาสสิกทั้งรสชาติและกลิ่นที่หอมหวล นุ่มนวล สุกฉ่ำ มีมิเนอรัลที่โดดเด่นมาก นอกนั้นก็มีวานิลลา ชอกโกแลต เปลือกมะนาว สไปซีเฮิร์บ เช่น จันทร์เทศและยี่หร่า จบหวานนิด ๆ ปนสมุนไพร เป็นวอดก้าที่รสชาติอุมาหมิ (Umami) ดื่มแล้วอร่อย แต่เหมาะสำหรับการดื่มเปล่า ๆ หรือผสมน้ำแร่เล็กน้อย ไม่เหมาะสำหรับการทำค็อกเทล หรือเครื่องดื่มผสมอื่น ๆ เพราะจะทำให้รสชาติที่แท้จริงของวอดก้าสูญเสียไป
“It will leave you breathless….” เมื่อดื่มว้อดก้าแล้วจะไม่มีกลิ่นติดค้างเมื่อหายใจ” คอว้อดก้าเขาว่าอย่างนั้น !!!!
ผู้นำเข้าคือ บริษัท แอมโบรส ไวน์ จำกัด (Ambrose Wine Limited)