“การ์มากาเมต ดินเนอร์” (Karmakamet Dinner) ร้านอาหารในซอยสุขุมวิท 24 ด้านหลังห้าง The Emporium เป็นร้านอาหารที่ต่อยอดมาจากร้าน Karmakamet Secret World ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องหอมนานาชนิด รวมทั้งชาและขนมต่างๆ ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจโรแมนติก ประดับด้วยโถหัวเชื้อน้ำหอม พร้อมกลิ่นหอมอบอวล แต่ไม่ทำลายบรรยากาศในการรับประทานอาหารและไวน์ ก่อนหน้านั้นก็ประสบความสำเร็จจากร้านสไตล์คาเฟ่ Everyday Karmakamet ที่สีลมมาแล้ว
กลาง ๆ ปี 2516 Karmakamet Dinner ก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยการจัดไวน์ดินเนอร์เป็นครั้งแรก ร่วมกับบริษัท Fin ผู้นำเข้าไวน์คุณภาพและบูติกไวน์จากทั่วโลก จัดรายการพิเศษและท้าทาย “Taste the Mystery” : Fabulous wine dinner by Karmakamet Dinner and Fin” ค้นหาเสน่ห์ที่ซับซ้อนของเมนู 9 คอร์ส จับคู่กับยูนิคไวน์ 9 ตัว สำหรับแขก 19 คน โดยมีไวน์และอาหารดังนี้
แบร์นาร์ด เดลมาส์,บลังเกตต์ เดอ ลีมูซ์,คูเว ทระดิชชั่น ลีมูซ์,ฝรั่งเศส,เอ็นวี(Bernard Delmas,Blanquette de Limoux Cuvee Tradition,Limoux,France NV) : เป็นออร์แกนิก สปาร์คกลิ้งไวน์จากเมืองลีมูซ์ แคว้นลางด็อก (Languedoc) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ทำจากองุ่นมูแซค (Mauzac) ซึ่งพื้นเมืองเรียกว่า Blanquette กับชาร์โดห์เนย์ (Chardonnay) โดย Blanquette de Limoux เป็น 1 ใน 4 ของ AOC ที่ผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ของเขตนี้ รสชาติดรายและครีมมีเล็กน้อย มีกลิ่นหอมของดอกไม้ ยีสต์ แอปเปิ้ลเขียว เลมอน แอซสิดดีมาก ดื่มแล้วสดชื่น
เสิร์ฟกับ Reception Canape 2 อย่างคือ Parmigiano tartlet with goat cheese mousse และ Shrimp and avocado salsa
ฟรานซ์ ทาแฟร์แนร์,เกลแบร์ มุสกาเตลแลร์,คานัททุม,ออสเตรีย 2013 (Franz Taferner,Gelber Muskateller,Carnuntum,Austria 2013) : ไวน์ที่ผลิตและดั้งเดิมโดยครอบครัว Taferner แห่งตำบล Gottlesbrunn เมือง Carnuntum แคว้น Lower Austria ทางเหนือของออสเตรีย ทำจากองุ่น Gelber Muskateller 100 % ซึ่งเป็นองุ่นเก่าแก่ของออสเตรีย ปลูกแค่ 1.1 % หรือ 527 เฮกตาร์เท่านั้น สีเหลืองทองอ่อน ๆ หอมกลิ่นผลไม้ น้ำผึ้ง สไปซีกรุ่น ๆ ที่โดดเด่นคือจันทน์เทศ อัลมอนด์ ดอกไม้ แอซสิดไม่สูงมาก
จับคู่กับ Pickle Oyster : Japanese cucumber,dill,rice wine vinegar,white wine vinegar ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่เข้ากันแน่นอน เพราะไวน์แอซสิดไม่สูง จึงยากจะดับความคาวของหอยนางรม แต่จุดเปลี่ยนคือแตงกวาญี่ปุ่นดอง เสริมสร้างแอซสิดของไวน์ ทำให้ลงตัวทั้งไวน์และอาหาร เป็นคู่ที่เซอร์ไพรซ์มาก
แกร์นอต ไฮน์ริค,ชาร์โดห์เนย์ ไลธาแบร์ก ดีเอซี,บูร์เกนลันด์,ออสเตรีย 2012 (Gernot Heinrich,Chardonnay,Leithaberg DAC,Burgenland,Austria 2012) : ชาร์โดห์เนย์ 100 % จากเขตที่เล็กที่สุดทางตะวันออกสุดของออสเตรีย สีเหลืองทอง หอมกลิ่นผลไม้ เช่น แอปริคอต สับปะรด และแพร์ ดอกไม้ เฮิร์บแห้ง ๆ มิเนอรัล ไม้เปียกน้ำ ขมนิด ๆ แอซสิดน้อยไปหน่อย จบด้วยเฮิร์บแห้ง ๆ และผลไม้สุกฉ่ำ
จับคู่กับ Creamy Lobster Broth : Luxurious creamy lobster broth cooked with Gewurztraminer and garden herbs fume. คู่นี้อาหารหนักกว่าไวน์พอสมควร เมื่อกินด้วยกันแล้วไวน์กับอาหารแยกตัวกัน เอาไปจับกับ Franz Taferner,Gelber Muskateller อร่อยกว่า
อูแบร์,มัลแตร์ดิงแกร์ ไบเนนแบร์ก อูแซร์รัวส์,คาบิเนต,บาเดน,เยอรมัน 2011 (Huber,Malterdinger Bienenberg Auxerrois,Kabinett Trocken,Baden,Germany 2011) : องุ่น Auxerrois ที่หมักบ่มในถังสแตนเลส เพื่อแสดงความเป็นบาเดนที่ชัดเจน สีเหลืองทอง หอมกลิ่นพีช เมลอน พลัม แอปริคอต มิเนอรัล แอซสิดน้อยไปหน่อย จบด้วยแอปริคอตและมิเนอรัล
จับคู่กับ Blue Crab : Salad of blue crab meat,Dijon mustard,Japanese melon,crisp fried solf-shell creb,tomato tartar and chive oil…คู่นี้ไวน์เบาและจืดไปหน่อย อาจจะต้องใช้ไวน์ที่น้ำหนักหรือฟูลบอดี้มากกว่านี้ หรืออาจจะใช้ไวน์ที่แอซสิดสูงกว่านี้
แกร์ฮาร์ด คราเคอร์,เค เบลนด์,นอยไซด์แลร์เซ,บูร์เกนลันด์,ออสเตรีย 2013 (Gerhard Kracher,K Blend,Neusiedlersee,Burgenland,Austria 2013) : ไวน์ขาวจากผู้ผลิตไวน์คุณภาพของแคว้นบูร์เกนลันด์ เบลนด์จากองุ่น 3 พันธุ์คือชอยเรเบ (Scheurebe) ชาร์โดห์เนย์ (Chardonnay) และเวลส์รีสลิง (Welschriesling) รสชาติแบบเซมิ ดราย (Semi dry) สีเหลืองทอง หอมกลิ่นแอปริคอต ส้มโอ ส้มจีน ลูกเกด เปลือกส้มกรุ่น ๆ ซีททรัส มิเนอรัล แอซสิดปานกลาง จบด้วยมิเนอรัล
จับคู่กับ Linguini White calm sauce : Refined clam sauce,fresh manila clams,handmade linguini…คู่นี้ไวน์เหนืออาหารพอสมควร เพราะเส้นลังกวะนีค่อนข้างหนักและซอสค่อนข้างเยอะ ควรใช้ไวน์ที่แอซสิดสูงกว่านี้ บอดี้หนักกว่านี้ เพื่อจะสู้กับแป้งและซอสได้ หรือไม่ก็ทำแบบแห้ง ๆ ซอสไม่ต้องเยอะ ใช้ไวน์แดงที่แอซสิดและผลไม้สูง ๆ ยังได้เลย จานนี้จับคู่กับไวน์ยากที่สุด
มาร์กุส ชไนเดอร์,โรเซ ซายแญร์,ฟาลซ์,เยอรมัน 2014 (Markus Schneider,Rose Saigner,Pfalz,Germany 2014) : คำว่า Saigner เป็นภาษาหมายถึงเลือดออก ทำจากองุ่น 5 พันธุ์แซงต์ โลรองต์ (St.Laurent) แมร์โลต์ (Merlot) กาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) และปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) เป็นโรเซที่ค่อนข้างหนัก แต่มีความหอมกรุ่นของผลไม้ที่หลากหลาย เช่น ราสพ์เบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แครนเบอร์รี และเรดเบอร์รี แทนนินกรุ่น ๆ มิเนอรัลนิด ๆ แอซสิดดีมาก จบด้วยเบอร์รีและมิเนอรัล
จับคู่กับ Basted Monkfish : with braised beef tongue and foie gras…เมนูที่ผสาน 3 อย่างในจานเดียวได้ค่อนข้างลงตัว ต้องรับประทาน 3 อย่างพร้อม ๆ กัน แต่จุดเปลี่ยนคือ Beef tongue หนักเกินไปสำหรับไวน์ ส่วน Foie gras และ Monkfish ส่งเสริมไวน์ได้ดี
กรานมอนเต วินเยิร์ด,ดูรีฟ,เขาใหญ่,ประเทศไทย 2014 (GranMonte Vineyards,Durif,Khao Yai,Thailand 2014) : ผลผลิตของกรานมอนเต ที่เขาใหญ่ ทำจากองุ่นแดงดูรีฟที่กำเนิดทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งในสหรัฐเรียกว่าเปติต ซีราห์ (Petite Syrah) เป็นดูรีฟสไตล์เบา ๆ ดื่มง่าย ๆ มีกลิ่นหอมของเบอร์รี บลูเบอร์รี มะเดื่อฝรั่ง เฮิร์บแห้ง ๆ กาแฟคั่วกรุ่น ๆ แอซสิดปานกลาง แทนนินปานกลาง จบด้วยผลไม้แดงสุก ๆ และเฮิร์บ
จับคู่กับ Petit Quail : Stuffed with artichoke,baby spinach,garnished with beef cheek jus…คู่นี้อาหารกลบไวน์สนิท ไวน์เบาเกินไปที่จะสามารถสยบเนื้อและกลิ่นของนกกระทาอยู่ แม้จะมีเครื่องเคียงมาช่วยก็ตาม ถ้าเป็น Petite Syrah จากอเมริกาอาจจะพอได้ จานนี้ผมนึกถึงปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) จากโซโนมา (Sonoma) ในแคลิฟอร์เนียมากกว่า ส่วน Durif ตัวนี้น่าจะคู่ควรกับเป็ดย่าง+ซอสหวานนิด ๆ มากกว่า
โยฮัน รีย์เนเก,แคปสโตน,สเตลเลนบอสช์,เซาท์ แอฟริกา 2010 (Johan Reyneke,Capstone,Stellenbosch,South Africa 2010) : ตัวนี้ในเซาท์ แอฟริกาเรียกว่ารุ่น “Cornerstone” ส่วนในสหรัฐชื่อรุ่น “Capstone เป็นไวน์สไตล์บอร์กโดซ์ เบลนด์จากองุ่น Cabernet Sauvignon (70%),Merlot (18%) และ Cabernet Franc12% …สีแดงเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี พลัม ดอกไวโอเลต เปปเปอร์มินต์ ซีดาร์ กาแฟคั่ว ชอกโกแลต เฮิร์บแห้ง ๆ ทรัฟเฟิลกรุ่น ๆ บอดี้หนักแน่น แทนนินปึ๊ก จบยาวด้วยผลไม้และแอลกอฮอล์ ยังค่อนข้างดิบ อีก 3-4 ปีน่าจะอร่อยกว่านี้
จับคู่กับ Chocolate Terrine : On layered bread pudding ..คู่นี้แทบไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถเกี่ยวก้อยกันได้อย่างดี พุดดิ้งเป็นตัวแปรทำให้เนื้อของไวน์นุ่มนวล
เตลโม โรดริเกซ,เอ็มอาร์ เมาน์เทิน ไวน์,แมลละกา,สเปน 2012 (Telmo Rodriguez,MR Mountain Wine,Malaga,Spain 2012) : ไวน์ขาวหวานที่ทำจากองุ่นมอสกาเตลหรือมัสแคท (Moscatel / Muscat) ที่ปลูกบนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตรในเขต DO Malaga ….สีเหลืองทองอร่าม หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แอปริคอต ดอกไม้ สไปซีกรุ่น ๆ จันทน์เทศ รวงผึ้ง มิเนอรัล บอดี้ปานกลาง จบด้วยความหอมหวานของผลไม้สุกและดอกไม้ เป็นไวน์ที่ร้านเอล บูลยี (El Bulli) ตำนานร้านดังที่บาร์เซโลนาซึ่งปิดตัวไปแล้ว เสิร์ฟให้กับแขกทุกคน ๆ ละ 1 แก้วหลังจบดินเนอร์
จับคู่กับของหวาน 2 คอร์ส ๆ แรก Baked Pineapple : In fleur de sel และ Mignardises : Choclate bakes Coconut lavender truffle ,Thai banana mash mellow Longan tart ทั้งสองคอร์สนี้เข้ากับไวน์หวานตัวนี้ได้อย่างดี แต่ผมชอบ Baked Pineapple มากกว่าเพราะความหอมหวานและแอซสิดของสับปะรดส่งเสริมไวน์ได้ดีกว่าชอกโกแลต
“Taste the Mystery”…เป็นอีกหนึ่งในเสน่ห์ที่ชวนให้ค้นหาความลึกลับซับซ้อนของไวน์กับอาหาร ซึ่งไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่ว่าใครจะค้นพบเท่านั้นเอง…!!!