…”ทัสคานี” หรือ “ต
อสกานา” (Tuscany/Toscana) เป็นแคว้นผลิตไวน์ระดับหัวกะทิของอิตาลี มีไวน์ดัง ๆ ที่คอไวน์คุ้น ๆ กันมาแต่ครั้งอดีตอย่าง เคียนติ (Chianti) และบรูเนลโล ดิ มอนตาลชิโน (Brunello di Comune di Montalcino) เป็นต้น
แต่ที่โด่งดังและราคาแพงในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาเห็นจะไม่มีอะไรเกิน”ซุปเปอร์ ทัสคัน” (Super Tuscan) ซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักในบ้านเราไม่กี่ปีที่ผ่านมา เดิมรู้จักกันในนาม “ไวน์ขบถ”
“ซุปเปอร์ ทัสคัน” ผลิตในแคว้นทัสคานีเท่านั้น เริ่มในช่วงทศวรรษที่ 50 ในสไตล์ไวน์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ใช้องุ่นสายพันธุ์คลาสสิคจากเมืองบอร์กโดซ์ ของฝรั่งเศสที่นำมาปลูกในประเทศอิตาลี ในปริมาณที่มากกว่าพันธุ์พื้นเมืองที่กำหนดคือซานโจเวเซ (Sangiovese)
จากการใช้องุ่นดังกล่าวเกินกำหนด จึงถือว่าอยู่นอกกฎหมายฉบับ 164/1992 ที่ชื่อว่า “New Disciplinary Code for Denomination of Wines of Origine” ที่บังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.1992 (เป็น DOC ในวันที่ 5 พ.ย.1994) พวกเขาจึงไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นไวน์เกรดดีโอซี (DOC) หรือดีโอซีจี (DOCG) แต่เป็นได้เพียงเกรด VdT (Vino da Tavola หรือ Table wine) เท่านั้น เป็นที่มาของ “ไวน์ขบถ”
นั่นไม่ได้สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับชาวทัสคันผู้มีความคิดหลุดกำหนดกฎเกณฑ์แม้แต่น้อย เพราะปัจจุบันไวน์ของพวกเขาได้รับการยอมรับ ขายดิบขายดีไปทั่วโลก กระเป๋าตุงกันเป็นแถว แถมยังมีผู้ผลิตใหม่ ๆ พยายามจะทำกันมากขึ้น
ในบ้านเราที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของไวน์ “ซุปเปอร์ ทัสคัน” โดยเฉพาะไวน์ ดินเนอร์ ใช้ไวน์หลาย ๆ ผู้ผลิต มักจะอยู่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เอื้ออำนวยมากกว่าในต่างจังหวัด อีกอย่างหนึ่งไวน์พวกนี้บางรายผลิตไม่มาก เฉพาะกรุงเทพฯเมืองเดียวก็ไม่พอกับความต้องการ
เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมงาน “ซุปเปอร์ ทัสคัน ไวน์ ดินเนอร์” (Super Tuscan Wine Dinner) ที่ร้าน “ลิมอนชิโน” (Limoncino) จังหวัดตรัง เป็นร้านอาหารหรือริสโตรันเต (Ristorante) และขายไวน์ หรือเอโนเตกา (Enoteca) ซึ่งสวยงามและคลาสสิคมาก ทั้งตัวอาคารที่เก่าแก่และคลาสสิค การตกแต่งภายในที่ได้กลิ่นอายของทัสคานี ไม่คิดว่าจะมีร้านอาหารแบบนี้ในเมืองตรัง เปิดมาได้ประมาณปีเศษ ๆ ได้รับการตอบรับอย่างดี
จังหวัดตรังปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน มีร้านอาหารหลากหลายรวมทั้งร้านระดับหรูและไวน์ชอปไม่แพ้กรุงเทพฯ เกิดจากคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในเรื่องไวน์และอาหาร นับเป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่งของคนตรัง
“ลิมอนชิโน” เป็นร้านอาหารอิตาเลียน สไตล์ทัสคานี โดยนำวัตถุดิบพื้นเมืองมาเป็นส่วนผสมจนลงตัว เจ้าของคือคุณสุชาติ ทองสุข ที่มีประสบการณ์ในโรงแรมระดับ 5-6 ดาวทั้งในภูเก็ต กระบี่ และกรุงเทพฯ หลังจากเกิดโควิด-19 จึงนำประสบการณ์มาเปิดร้านดังกล่าว
จากการที่อาหารเป็นสไตล์ทัสคานี และไวน์”ซูเปอร์ ทัสคัน” ที่ใช้ในไวน์ ดินเนอร์ ครั้งนี้ กำเนิดในแคว้นทัสคานี ทุกอย่างจึงเหมาะเหม็ง ถ้าคนอิตาลีบอกว่า ”ไม่มีไวน์ชาติไหนจะเข้ากับอาหารอิตาเลียน เท่ากับไวน์อิตาลี” ชาวทัสคานีก็ต้องบอกว่า ”ไม่มีไวน์อิตาลีแคว้นไหนจะเข้ากับอาหารทัสคานี เท่ากับไวน์ทัสคานี”
สำหรับอาหารและไวน์”ซูเปอร์ ทัสคัน” ที่จับคู่กันมีดังนี้
คอร์สแรก Antipasti เป็น “Tordelli Lucchese” เป็นปาสต้าดั้งเดิมประจำจังหวัดลุซกา (Lucca) แคว้นทัสคานี คล้าย ๆ เกี๊ยว แบน ๆ และตัวใหญ่หน่อย ยัดใส้ด้วยหมูป่า พร้อมเฮิร์บ และชีส จับคู่กับไวน์ “กรอโญโล 2017” (Crognolo 2017) คู่นี้แป้งของปาสต้าทำให้ไวน์นุ่มหวานลิ้น และกลิ่นของหมูป่าพร้อมชีสเชื่อมประสานกับแตร์ฮรัวของไวน์ได้ดี ถ้าลดปริมาณอาหารลงสักนิด และให้อุณหะภูมิอุ่นกว่านี้หน่อยจะดีมาก
เตนูตา เซตเต ปอนติ “กรอโญโล” ตอสกานา ไอจีที 2017 (Tenuta Sette Ponti “Crognolo” Toscana IGT 2017) : เบลนด์จากซานโจเวเซ (Sangiovese) 90% และแมร์โลต์ (Merlot) 10% บ่ม 14 เดือนในถังโอคฝรั่งเศส บ่มต่อ 6 เดือนในขวด…..สีแดงทับทิม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รีกรุ่น ๆ พลัมนิด ๆ เชสนัท ชอกโกแลต เอิร์ธตี้ สไปซี เฮิร์บ จันทร์เทศ อบเชย ยาสูบ หนังสัตว์ ควันไฟกรุ่น ๆ แอซสิดสดชื่น แทนนินค่อนข้างแน่นและเริ่มนุ่ม จบยาวด้วย ผลไม้ เอิร์ธตี้ สไปซี เฮิร์บชุ่ม ๆ คอ เป็นไวน์ที่ฟูล บอดี้แต่ดื่มง่าย…18.5/20 คะแนน
คอร์สต่อมา Primi ชื่อ Ducketta เป็ดยัดไส้สไตล์ ซิเอเนเซ (Sienese Style) ซึ่งซิเอนา (Siena) เป็นเมืองสำคัญในแคว้นทัสคานี จับคู่กับไวน์ “โซเลงโก 2018” (Solengo 2018) คู่นี้เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อเป็ดแน่นนุ่ม และไส้ข้างในเป็นตัวแปรสำคัญให้อาหารเข้ากับไวน์
อาญาโน “โซเลงโก” ตอสกานา ไอจีที 2018” (Argiano Solengo Toscana IGT 2018) : Solengo หมายถึงหมูป่าผู้สันโดษ ชอบเที่ยวท่องไปในป่าในทัสคานี ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 50% เปตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 25% แมร์โลต์ (Merlot) 20% ซานโจเวเซ (Sangiovese) 5% บ่ม 18 เดือนในบาร์ริกฝรั่งเศส
สีแดงเข้ม โกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็เบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี ดอกไวโอเลต เอิร์ธตี้ สไปซี่ เฮิร์บ กานพลู จันทร์เทศ นัทตี้ ซีดาร์ ใบยาสูบ สนิมเหล็ก ไอโอดีน ไส้ดินสอดำ โอคหอมกรุ่น แอซสิดสดชื่น แทนนินยังแน่นแต่เริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี ฟูลบอดี้…..19.5/20 คะแนน
เมนคอร์ส Secondi มีให้เลือกทั้งเนื้อ,แกะ,ปลา ผมเลือก Carre di Agnello alla Toscana ซี่โครงแกะปรุงสไตล์ทัสคานี เสิร์ฟกับไวน์ 2 ตัวคือ “ซิเอปิ 2018” (Siepi 2018) และ “ปิเอเว 2018” (Pieve 2018) ให้ลองเปรียบเทียบว่าตัวไหนจะเข้ากับอาหารมากกว่ากัน ส่วนแกะของผมนั้นเข้ากับ“ซิเอปิ”มากกว่า“ปิเอเว”อยู่ครึ่งก้าว ด้วยบอดี้และความหนักแน่ของไวน์ที่มีแมร์โลต์มาช่วย สู้กับเนื้อแดงได้
กาสเตลโล ดี ฟอนเตรูโตลี มาร์เคซี มาซเซอิ “ซิเอปิ” ทอสกานา ไอจีที 2018 (Castello di Fonterutoli,Marchesi Mazzei,Siepi,Toscana IGT 2018) : ทำจากซานโจเวเซ (Sangiovese) และแมร์โลต์ (Merlot) ในอัตรา 50-50% เป็นองุ่นอายุมาก บ่ม 18 เดือนในถังบาร์ริกฝรั่งเศส
สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น พลัม แบล็กเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี และแบล็คเบอร์รี ดอกลาเวนเดอร์แห้ง ๆ เมนธอล มิเนอรัล ชอกโกแลต หนังสัตว์ ใบยาสูบ สไปซี่ เฮิร์บ อบเชย กานพลู โรสแมรี โอคหอมกรุ่น แอซสิดสดชื่น แทนนินค่อนข้างหนักแต่เริ่มนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บ อาจจะยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก แต่ก็สามารถดื่ม….19/20 คะแนน
ฟอนโตดิ “แฟลคซิอาเนลโล เดลลา ปิเอเว” คอลลิ ตอสกานา เซนตราเล ไอจีที 2018” (Fontodi “Flaccianello della Pieve” Colli Toscana Centrale IGT 2018) : ทำจากซานโจเวเซ (Sangiovese) 10% บ่ม 18 เดือนในถังบาริกฝรั่งเศส
สีแดงโกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และราสพ์เบอร์รี ดอกไวโอเลต ดอกลาเวนเดอร์ ไส้ดินสอดำ เอิร์ธตี้ กาแฟคั่ว ซีดาร์ หนังสัตว์ ควันซิการ์ สไปซี เฮิร์บ กานพลู ยี่หร่า มะกรูดกรุ่น ๆ แอซสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ สไปซี เฮิร์บ มิเนอรัล….19.5/20 คะแนน
ปิดท้ายด้วย ของหวานพิเศษของทางร้าน ให้ชุ่มชื่นหัวใจก่อนกลับไปนอน ซึ่งไม่ได้เสิร์ฟกับไวน์ แต่ผมนึกถึง “วิน ซานโต” (Vin Santo) ไวน์หวานของแคว้นทัสคานี ถ้าได้สักแก้วคงฝันหวานตลอดรุ่ง
ท่านที่มีโอกาสไปตรัง อย่าพลาดกับการไปแวะ Limoncino “ทัสคานีแห่งเมืองตรัง” สอบถามโทร.099 2655456