วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา มีการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล 2 ทีมดังในพรีเมียร์ ลีก ของอังกฤษภายใต้ชื่อ THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 ผลเป็นอย่างไรคงทราบกันไปแล้ว
ในส่วนของลิเวอร์พูลไม่มีปัญหากับตัวผู้เล่นเพราะดารามากับครบถ้วน ที่สร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะแทบทุกคนคาดหวังกับการมาของ “คริสเตียโน โรนัลโด” ซูเปอร์สตาร์ ที่มีปัญหาไม่สามารถเดินทางมาได้ ทำให้บรรยากาศของแฟน ๆ เหงาไปถนัดตา
“คริสเตียโน โรนัลโด” มีชื่อเต็ม ๆ ตามภาษาโปรตุเกสว่า “กริชตียานู รูนัลดู ดุช ซังตุช อาเวรู” (Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro) เกิดที่ตำบลซาว เปรโด (São Pedro) นอกกรุงฟุงชาล (Funchal) เมืองหลวงของมาเดรา (Madeira) ในมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างแผ่นดินใหญ่ราว 500 กม.
“คริสเตียโน โรนัลโด” นั้นไม่ธรรมดา ก้าวแรกที่เหยียบเกาะมาเดราก็ต้องสัมผัสกับเขา เพราะสนามบินชื่อ Cristiano Ronaldo International Airport ใช้ชื่อนี้เมื่อปี 2017 หลังเขานำทีมชาติโปรตุเกสได้แชมป์ยุโรป 2016 นอกจากนั้นในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ The Cristiano Ronaldo Museum,Museu CR7 และรูปปั้นสัมฤทธิ์ของเขา
ขณะที่แวดวงธุรกิจเขาเป็นเจ้าของธุรกิจธุรกิจต่าง ๆ อย่าง เช่น โรงแรมในบ้านเกิดชื่อ Pestana CR7 รวมถึงแบรนด์น้ำหอม และชุดชั้นในชาย CR7 อีกด้วย
“มาเดรา” เป็นเกาะเล็ก ๆ มีประชากร 220,000 คนเป็นที่รู้จักในนาม “แอตแลนติก เพิร์ล” หรือ “เกาะฮานโออิ” เป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่ดีที่สุดในยุโรปที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและพืชพรรณ และมีไวน์ที่สร้างชื่อเสียงกับชาวเกาะและประเทศโปรตุเกสเป็นที่ชื่นชอบของบุคคลชั้นนำของโลกคือ “มาเดรา” (Madeira) ชื่อเดียวกับเกาะนั่นเอง
“มาเดรา” เป็น “ฟอร์ติไฟด์ไวน์” (Fortified Wine) ซึ่งโปรตุเกสมีอยู่แล้วและคนทั่วโลกจะคุ้นมากกว่าคือ “พอร์ต” (Port) ซึ่งเรียกตามภาษาโปรตุเกสว่า วีโญ ดู ปอร์ตู (Vinho do Porto) หรือ ปอร์ตู (Porto) กำเนิดมากว่า 500 ปี ปัจจุบันมีฐานะเป็นผลิตภัณฑ์คุ้มครองแหล่งผลิต (Protected Designation of Origin = PDO)
ขณะที่ในโปรตุเกสมาเดรายังอยู่ภายใต้ร่มเงาของพอร์ต ถึงแม้รสชาติของมาเดราหลายยี่ห้อคุณภาพจะดีกว่าพอร์ตบางยี่ห้อก็ตาม ขณะที่คนโปรตุเกสบอกว่าพอร์ตและมาเดราเป็นฝาแฝดกัน ส่วนอีกฝ่ายบอกว่าพอร์ตกับมาเดราต่างกัน เพราะรสชาติหรือแคแลคเตอร์ต่างกัน
“ฟอร์ติไฟด์ ไวน์” มีรสชาติเข้มข้นเต็มปาก กระเดียดไปทางหวาน เนื่องจากตอนที่ไวน์กำลังหมักมีการเติมเหล้าองุ่นกลั่นลงไปด้วย น้ำเหล้าองุ่นหมักกำลังมีรสหวานอยู่เต็มที่ มีดีกรีประมาณ 7 % แต่เมื่อเติมเหล้ากลั่นลงไปทำให้กระบวนการหมักหยุดลงและทำให้ไวน์ดีกรีแรงขึ้นถึง 20 % บางชนิดอาจจะถึง 25 % ABV.ขณะที่บางแห่งนิยมเติมของเหลวสกัดจากเครื่องเทศและสมุนไพรลงไปด้วย เพื่อเป็นการตกแต่งกลิ่นหรือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
“มาเดรา” จะทำจากองุ่นหลัก ๆ 4 พันธุ์คือ เซอร์เชียล (Sercial) ซึ่งสีเหลืองอ่อน รสเปรี้ยวนำ แวร์เดโล (Verdelho) รสหวานนิดเปรี้ยวหน่อย บูล (Bual) รสหนักแน่น หวานปานกลาง และมีกลิ่นขี้เถ้าภูเขาไฟ และมาลวาเซีย (Malvasia) หรือ Malmsey รสหวาน นุ่มนวล หนักแน่นและมีกลิ่นเถ้าภูเขาไปผสมกับพวงองุ่น
“มาเดรา” มีทั้งประเภทไม่หวานหรือดราย (Dry) ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย (Aperitif) และประเภทหวานที่ใช้ดื่มกับของหวานต่าง ๆ ขณะที่มาเดราราคาถูก ๆ สามารถใช้ประกอบอาหารได้
“มาเดรา” แบ่งเป็น 4 ประเภทคือ ซึ่งเป็นการแบ่งตามชนิดของพันธุ์องุ่น เริ่มจากหวานสุดไปถึงดรายสุดคือมาลวาเซีย (Malvasia / Malmsey หรือ Malvazia), โบล (Bual หรือ Boal),แวร์เดโญ (Verdelho) และแซร์ชีล (Sercial) บางครั้งอาจจะเห็นองุ่นแตร์แรนเตซ (Terrantez) บาสตาร์ดู (Bastardo) และโมสกาเตล (Moscatel) บ้าง แต่ถูกฟีลล็อกซีรากัดกินไปแทบหมด ขณะที่บาสตาร์ดูและตินตา เนกรา โมล (Tinta Negra Mole) เป็น 2 องุ่นแดงที่แทรกอยู่ท่ามกลางองุ่นเขียว
“มาเดรา” อาจจะขายในรูปแบบ “วินเทจ มาเดรา” แต่ต้องบ่มในถังไม้โอคมากกว่า 20 ปี หรืออาจจะผสมผสานกันระหว่าง 3,5,10 หรือมากกว่า 15 ปี แต่ถ้าข้างขวดเขียนว่า “Harvest” (ฮาร์เวสต์) และ “Garrafeira” (การ์ฮราเฟรา) จะเป็นมาเดราที่ผลิตจากปีพิเศษ แต่บ่มน้อยกว่าประเภทวินเทจ เป็นต้น
ขณะที่ “Rainwater” เดิมเป็นมาเดราที่ส่งไปขายเฉพาะสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ปัจจุบันมีขายทั่วไปแล้ว โดยมีเรื่องเล่าว่าสมัยก่อนที่การขนส่งมาเดราทางเรือไปขายที่รัฐจอร์เจีย (Georgia) ปรากฏว่าฝนตกหนักถังมาเดราเปียกปอน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อรสชาติของมาเดรา ตอนแรกผู้นำเข้าก็ตำหนิเรื่องนี้ แต่ผู้ดื่มกลับชื่นชอบ จึงมีการผลิตมาเดราโดยปล่อยให้ถังอยู่กลางแจ้ง ส่วนใหญ่ทำจากองุ่น Verdelho
“มาเดรา” เป็นที่โปรดปรานของอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐหลายคน โดยเฉพาะ โธมัส เจฟเฟอร์สัน ซึ่งได้ชื่อว่ามีรสนิยมในการดื่มไวน์ระดับสุดยอดคนหนึ่งของโลก ก่อนหน้านั้นเคยเป็นเครื่องเฉลิมฉลองการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน และเบนจามิน แฟรงกลิ้น นอกจากนั้นยังมีอีกหลายคนที่ชอบ เช่น จอห์น อดัมส์ (John Adams) และจอห์น มาแชลล์ (John Marshall) ย้อนไปก่อนหน้านั้นก็มีบุคคลสำคัญ ๆ อย่าง Shakespeare,Leonardo da Vinci,Columbus และ Napoleon
ในยุโรป มาเดราเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ในยุคอาณานิคมอังกฤษซึ่งได้ครอบครองเกาะมาเดรา จากผลของสงครามนโปเลียน แต่หลังจากที่โปรตุเกสได้ครอบครองเกาะนี้ มาเดราก็ลดความนิยมจากชาวอังกฤษ
เกาะมาเดราจะมีการจัดงาน “Madeira Wine Festival” เป็นประจำทุกปีล่าสุดคือปี 2019 หลังจากนั้นโควิด-19 ระบาดจึงงด ปีนี้ทุกอย่างผ่อนคลายลงจึงกลับมาจัดอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 11 กันยายน 2022 ที่ Estreito de Câmara de Lobos ห่างจากเมืองหลวงฟุงเชา 12 กม.
ท่านที่มีปัจจัยและเวลาไม่ควรพลาด ไปสัมผัสความคลาสสิคของ “มาเดรา” และวัฒนธรรมชาวเกาะ แผ่นดินบ้านเกิดของ “คริสเตียโน โรนัลโด” !!!