“ดอน ฮูลิโอ” ตำนาน…แคลซสิค เตกีลา

เตกีลา (Tequila) เข้ามาเมืองไทยมากที่สุดในช่วงที่เศรษฐกิจฟองสบู่แตกในปี 2540 ไล่หลังวิสกี้ราคาถูก เนื่องจากผู้นำเข้าบางรายเห็นว่ามีการนำเข้าวิสกี้มากแล้ว จึงฉีกแนวด้วยการนำเข้า Tequila แทน ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะ Tequila รสชาติหนักแน่น ดีกรีแรง ราคาไม่แพง ตรงใจคอเหล้าเมืองไทยยุคตกงานในช่วงนั้น ปัจจุบันมี Tequila อยู่ในตลาดเมืองไทยหลายสิบยี่ห้อ ราคามีตั้งแต่ 300 กว่าบาท เรื่อยไปจนถึงหลัก 1,000 บาท บางยี่ห้อเกิน 2,000 บาท
บางคนบอกว่าจริงๆ แล้วรสชาติ Tequila ก็งั้น ๆ ขมขื่นคอเสียด้วยซํ้าไป ไม่ต่างอะไรกับเหล้าขาวของเรา แต่เสน่ห์ของเจ้าเหล้าขาวแดนจังโก้นี้อยู่ที่ “การดื่มหรือวิธีการดื่ม” วิธีดื่มที่ถือว่าแคลซสิคที่สุดคือ….ใส่แก้วเป๊กกระดกเพียวๆ บีบมะนาวตามลงไป แล้วใช้ลิ้นตวัดเลียเกลือที่เหยาะไว้บนหลังมือ …มีเรื่องเล่ากันว่าสมัยก่อนอยู่ในทะเลทราย อากาศร้อนเหงื่อไหลไคลย้อย คอเหล้าคนหนึ่งอาจจะดื่ม Tequila แล้วเช็ดปากด้วยหลังมือ ที่เค็มประแล่มๆ พบว่าทำให้รสชาติ Tequila อร่อยขึ้น
นอกจากนั้นยังมีการดื่มโดยเติมนํ้าแข็ง หรือ ออน เดอะ ร็อก ที่ให้ความซาบซ่านกระเพาะไปอีกแบบ อึกแรกรู้ได้ทันทีว่าแอลกอฮอล์ 40 ดีกรีไหลไปถึงช่วงไหนของลำไส้ แต่ที่หลายคนชอบเมื่อไปนั่งดื่มตามผับหรือร้านอาหารบางแห่งคือ ทำเป็นค็อกเทลสูตรที่ชื่อว่า มาร์การิตา (Margarita) ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น ร็อก (Rocks) อัพ (Up) และโฟรเซน (Frozen) เป็นต้น นอกจากนั้นยังใช้เป็นส่วนผสมหลักของค็อกเทลอีกหลายชนิด
เตกีลา (Tequila) เป็นเหล้ากลั่นตระกูลหนึ่งของเม็กซิโก ผลิตจากต้นอะกาเว หรืออะกาวี (Agave) ซึ่งบ้านเราเคยเรียกว่า อะกาเว เพราะคุณบุญชู โรจนเสถียร เคยนำพืชตระกูลนี้มาปลูกในเมืองไทยจนได้ฉายาว่า “ชู อะกาเว” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ต้นโคม” Tequila ถือกำเนิดในแดนจังโกมากว่า 1,000 ปี ครั้งนั้นอินเดียนแดงเผ่า แอซเทกส์ (Aztecs) ครอบครองอยู่ ขณะเดียวกันต้น Agave ก็ขึ้นอยู่มากมายทั้งหัวไร่ปลายทุ่งทะเลทราย วันหนึ่งได้มีผู้ค้นพบเหล้าที่เกิดจากการหมักของต้น Agave จึงนำไปแจกจ่ายให้เพื่อนฝูงในเผ่าลองดื่ม กระทั่งเป็นประเพณีภายใต้ชื่อเหล้าปุลเก (Pulque)
ศตวรรษที่ 16 สเปนยิ่งใหญ่มากออกล่าอาณานิคมไปทั่วโลก เม็กซิโกก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ชาวสเปนคนหนึ่งได้นำเหล้า Pulque ไปกลั่นที่ เมือง Tequilaจังหวัดกัวดาลาฮารา (Gaudalajara) รัฐฮาลิสกา (Jalisca) กลั่นไปกลั่นมาอยู่หลายปี จนได้เหล้าขาวดีกรีแรงกว่า 40 ดีกรี จึงตั้งชื่อว่า “Tequila” ตามชื่อเมืองและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะสเปนมีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก แต่เพิ่งได้รับความนิยมมากที่สุดนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 นี่เอง ตามผับตามบาร์เหล้าทุกแห่งทั่วโลก ถ้าไม่มี Tequila แสดงว่าผับนั้นเชยที่สุดในโลก
Agave มีอยู่กว่า 400 สายพันธุ์ แต่ที่ทำ Tequila ได้ยอดเยี่ยมคือ บลู อะกาวี (Blue Agave หรือ Agave tequilana) อายุที่จะใช้ทำเตกิลาได้ดีคือช่วงอายุ 8-12 ปี เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสะสมอยู่ในหัวเต็มที่แล้ว และต้องไม่เก็บช้าไป เพราะไม่เช่นนั้นน้ำตาลจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นหัวใหม่เพื่อที่จะขยายพันธุ์ต่อไป ผู้ที่ทำการเก็บเกี่ยวเจ้าต้นนี้เรียก “ฮีมาดอร์” (Jimador)
จะตัดใบของ Blue Agave จนหมด เหลือแต่หัว แล้วนำหัวไปหั่น และอบเพื่อย่อยผงแป้งที่อยู่ในหัวให้เป็นน้ำตาล ก่อนจะหมักด้วยยีสต์ และสูตรยีสต์นี้เป็นความลับบอกใครไม่ได้ เพราะจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็อยู่กันที่ตรงนี้เอง น้ำหวาน+ยีสต์ จะถูกหมักไว้ประมาณ 30-48 ชั่วโมง จากนั้นนำไปกลั่น
กระบวนการกลั่น Tequila หลักๆ มีอยู่ 2 ประเภท Tequila คุณภาพเยี่ยมราคาแพงจะกลั่นด้วยระบบ Pot Stills เป็นการกลั่นซ้ำกันหลายครั้ง ทำให้รสชาติหอมอบอวล น้ำเนื้ออวบอิ่มสมบูรณ์ แต่ต้องลงทุนสูง ถ้าคุณภาพรองๆ ลงมาจะกลั่นแบบ Continuous Stills หลังจากกลั่นแล้วผู้ผลิตยังสามารถนำไปบ่มในถังโอค ประมาณ 1 ปีขึ้นไปถึงจะทำให้รสชาตินุ่มกว่าที่ไม่ได้บ่ม แอลกอฮอล์จะอยู่ระหว่าง 70-110 ปรู๊ฟ (Proof)
Tequila ที่ได้จาก Blue Agave สีจะใสยิ่งกว่าตาตั๊กแตน แต่ที่เหนือชั้นคือรสชาติที่หนักแน่น กลิ่นหอมหวล อบอวล เต็มไปด้วยกลิ่นของผลไม้ ดอกไม้ เฮิร์บ ติดปากติดลิ้นยาวนาน
การผลิต Tequila ต้องอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล โดยองค์กรที่ควบคุมมีชื่อว่า Norma Oficial Mexicana de Calidad หรือ NOM ซึ่ง Tequila ที่ผลิตได้คุณภาพตามมาตรฐาน จะได้รับอนุญาตให้พิมพ์ตัวหนังสือ NOM ในฉลาก
หนึ่งในจำนวน Tequila คุณภาพระดับยอดเยี่ยมของเม็กซิโกและของโลก ต้องมีชื่อของ “ดอน ฮูลิโอ” (Don Julio) อยู่ในระดับหัวแถวอย่างแน่นอน ในฐานะ The Worlds first Luxury Tequila แบรนด์ใหญ่อันดับ 8 โดยปริมาณในสหรัฐ และเป็นอันดับ 11 ในเม็กซิโก บริหารจัดการทุกอย่างตั้งแต่การกลั่น ผลิต บรรจุขวด ขาย และจัดจำหน่ายโดย Tequila Don Julio, S.A. de C.V. ในจังหวัด Colonia El Chichimeco เมือง Atotonilco El Alto,Jalisco ในเมืองไทยนำเข้าโดยบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี (ประเทศไทย)จำกัด
ตำนานของ Don Julio เริ่มในปี 1942 จากมันสมองและพรสวรรค์ของ Don Julio González-Frausto Estrada (1925 – 2012) เด็กหนุ่มที่เริ่มกลั่น tequila ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น ปี 1942 เขาตั้งโรงกลั่นภายใต้ชื่อ La Primavera ซึ่งแปลว่าฤดูใบไม้ผลิ (the Springtime) แรก ๆ ก็แจกจ่ายในหมู่เพื่อนฝูง ต่อมาเพื่อน ๆ บอกว่ารสชาติดี น่าจะทำขาย จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัทดังกล่าว หลังจากนั้นใช้เวลากว่า 40 ปี พัฒนาคุณภาพ tequila ด้วยปณิธาน “from the cultivation of the agave to the bottling of the final product” โดยมีวัตถุดิบสำคัญคือ Blue agave
ปี 1985 Don Julio González-Frausto ฉลองแซยิด ครอบรอบ 60 ปี บรรดาลูก ๆ จึงผลิต Tequila รุ่นพิเศษภายใต้ชื่อ “Don Julio” เพื่อเป็นเกียรติกับคุณพ่อ อีก 2 ปีต่อมาจึงมีการพัฒนาและยกระดับผลิต Tequila คุณภาพพรีเมียม กระทั่งได้รับการยกย่องให้เป็น The Worlds first Luxury Tequila จากที่ผ่านมา ๆ Tequila เป็นเพียงเครื่องดื่มสำหรับชาวไร่ชาวนา ไม่ใครซื้อเกินขวดละ 30 เหรียญสหรัฐดื่มกัน
ปัจจุบัน Don Julio ผลิต Tequila รุ่นสำคัญคือ Don Julio 1942 Añejo / Don Julio Real Extra Añejo / Don Julio Reposado / Don Julio Blanco และ Don Julio Añejo แต่ละรุ่นได้รับรางวัลจากการชิมในหลายประเทศ
ผมได้ชิม Don Julio ครบทุกรุ่นมากที่สุดเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน Diageo Reserve World Class 2013 : The World Class Global Final 2013 ซึ่งแข่งขันกันบนเรือสำราญ Azamara เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2013 มีแชมป์บาร์เทนเดอร์จากทั่วโลก 44 คนร่วมชิงชัย รวมทั้งแชมป์จากประเทศไทยคือนายชาญชัย รอดบำรุง และ Don Julio ก็เป็นหนึ่งในเมนสปอนเซอร์ของการแข่งขันครั้งนี้
ในงานดังกล่าว Enrique De Colsa ในฐานะ Master Distiller ได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับ Don Julio ด้วย พร้อมกับโชว์ฝีมือด้านงานศิลป์ของศิลปินชาวเม็กซิกัน ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันนอกจากต้องใช้ Don Julio ในการทำค็อกเทลให้กับคณะกรรมการชิมแล้ว ยังมีการให้แชมป์บาร์เทนเดอร์จากหลายประเทศทำค็อกเทลสูตรพิเศษให้ชิมหลากหลายสูตร บางสูตรไม่เคยพบเห็นในเมืองไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยก็เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้เข้าแข่งขัน ขณะเดียวกันก็พบว่า Don Julio บางรุ่น สามารถดื่มเปล่า ๆ ได้อรรถรส โดยไม่ต้องเป็นส่วนผสมของค็อกเทล ซึ่ง tequila หลายยี่ห้อไม่สามารถทำได้ ลองดูแคแลกเตอร์ของแต่ละรุ่น
Don Julio Blanco : เป็น Tequila สไตล์หวาน ๆ มีคาราเมลนิด ๆ (sweet and caramel) พร้อมกลิ่นอะกาเวย่างไฟ ควันไฟกรุ่น ๆ จบด้วยกลิ่นคาราเมลกรุ่น ๆ
Don Julio Reposado : เป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียงมาก ตัวนี้มีกลิ่นอบเชย และน้ำผึ้งโดดเด่น จบด้วยควันไฟและสมุนไพรอบกรุ่น ๆ
Don Julio Añejo : เป็นรุ่นสไตล์หนักแน่นหอมหวานและนุ่มนวล นักชิมจากทั่วโลกชื่นชอบกันมาก หลายคนบอกว่ามีความคล้ายบรั่นดีมากที่สุด หอมกลิ่นโอค ดอกกุหลายแห้ง ๆ หวานนิด ๆ คาราเมล ชอกโกแลต จบยาวแบบมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นโอค และอะกาเวหวาน ๆ
Don Julio 1942 : ใช้ปีที่ก่อตั้งโรงกลั่น La Primavera มาเป็นชื่อรุ่น สไตล์หนักแน่น สีคล้าย ๆ ฟางแห้ง บ่มในถังโอค มีกลิ่นเชอร์รี วานิลลา ฟางที่ถูกตัดใหม่ ๆ อบเชย จบยาวด้วยกลิ่นบราวน์ ชูการ์ เปปเปอร์ และคาราเมล
Don Julio Real Extra Anejo : ตัวนี้เหนือชั้นกว่ารุ่น Anejo จากการบ่มมากเป็นพิเศษคือ 5 ปีใน American Oak Bourbon barrels มีกลิ่นหอมโอคเป็นพิเศษ ตามด้วยครีมมีวานิลลาหอมหวาน เนย เฮิร์บ ซิททรัส พีช เชอร์รี ชอกโกแลต คาราเมล จบยาวนานด้วยโอค และเปปเปอร์ ส่วนหนึ่งของรางวัล การันตีคุณภาพ เช่น Double Gold, San Francisco World Spirits Competition (2011, 2008) / Gold, 2004 International Review of Spirits / Top Extra-Aged Anejo Tequila, San Francisco World Spirits Competition (2011, 2008)
คนเม็กซิกันบอกว่า Tequila เป็นเครื่องดื่ม สำหรับผู้รักความสนุกส่วนหนึ่งของถังบ่ม Don Julio

Blue Agave

Don julio 1942

Don Julio Añejo

Don Julio González

Don Julio Real Extra Anejo

Don Julio Reposado

การเก็บเกี่ยวอะกาเว

การหมักของ Don Julio

เตรียมต้ม อะกาเว

ที่ทำการ Don Julio

โรงกลั่น Don Julio

blue_agave4

blue_agave3สนาน ต้องการสิ่งแปลกใหม่และเร้าใจ ขณะที่ Tequila ตัวจริงเสียงแท้บอกว่า รสชาติจะดีหรือไม่ต้อง “เทสต์” หรือ “ชิม” ด้วยตัวเองเท่านั้น

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...