ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ แชมป์ “คัมพารี บาร์เทนเดอร์ฯ 2018”

เนโกรนี มาสเตอร์ คลาส

บรรยากาศเนโกรนี มาสเตอร์ คลาส

ผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย

รับรางวัลจากผู้บริหาร

ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ผู้ชนะเลิศ

ศุภวิชญ์ มุททารัตน์

Daniele Pirotta  แบรนด์ แอมบาสเดอร์ของคัมพารี

Dinnis Thurner

Negroni Cocktail

Saimai Nantarat

Supawit Muttarattana ขณะแข่งขัน

Thorntan Siriwittayacharoen

Thorntan Siriwittayacharoen1

Worawut Changkrom

กรรมการ

กรรมการทำงานหนัก

คณะกรรมการ

Supawit Muttarattana ขณะแข่งขัน การแข่งขัน “คัมพารี บาร์เทนเดอร์ ไทยแลนด์ 2018” (Campari Bartender Competition Thailand 2018) เป็นอีกหนึ่งรายการที่สนับสนุนและส่งเสริมบาร์เทนเดอร์ไทย ให้ไปแสดงความสามารถในระดับโลก ภายใต้การจัดของ คัมพารี กรุ๊ป และบริษัท อินดิเพนเดนท์ ไวน์ แอนด์ สปิริต (ประเทศไทย) จำกัด ณ โรงแรม โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตำแหน่งผู้ชนะเลิศตกเป็นของ ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ถิ่นกำเนิดของ “คัมพารี” พร้อมผู้ชนะจากประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย เพื่อทำการแข่งขันในรายการ Campari Bartender Competition ASIA 2018 รอบชิงชนะเลิศ ในเดือนมกราคม 2562 ที่สำคัญเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 100 ปีของค็อกเทลเนโกรนีที่มีส่วนผสมหลักคือคัมพารี
นับเป็นการจัดการแข่งขันบาร์เทนเดอร์เป็นครั้งแรกของคัมพารี และการแข่งขัน “คัมพารี บาร์เทนเดอร์ ไทยแลนด์ 2018” (Campari Bartender Competition Thailand 2018) ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน “คัมพารี บาร์เทนเดอร์ เอเชีย 2018” (Campari Bartender Competition ASIA 2018) เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมาด้วยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับคัมพารี จากนั้นเข้าสู่รอบคัดเลือกด้วยการให้บาร์เทนเดอร์ทั้งในร้านอาหารและค็อกเทล บาร์ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ส่งวีดีโอนำเสนอเรื่องราวของเนโกรนี คัมพารีและค็อกเทลมาให้คณะกรรมการตัดสิน และคัดเลือกบาร์เทนเดอร์เข้าสู่รอบที่ 2
สำหรับรอบที่ 2 คัดเลือกบาร์เทนเดอร์เข้ารอบจำนวน 15 คน โดยในรอบนี้คณะกรรมการจะเดินทางไปชิมค็อกเทลถึงที่ร้านที่บาร์เทนเดอร์ทำงานอยู่ (Bar Visit) และบาร์เทนเดอร์ต้องทำค็อกเทล 2 แก้วตามที่ผู้จัดการแข่งขันกำหนดไว้เพื่อให้คณะกรรมการชิม เพื่อคัดเลือก 5 บาร์เทนเดอร์เข้ารอบสุดท้าย และคัดเลือกหนึ่งเดียวเป็นผู้ชนะเลิศ
ขณะที่รอประกาศผล 5 คนในรอบสุดท้ายนั้น ก็มีกิจกรรม “เนโกรนี มาสเตอร์ คลาส” (Negroni Master Class) โดยมี ดาเนียเล พิรอตตา (Daniele Pirotta) แบรนด์ แอมบาสเดอร์ของคัมพารี เป็นผู้บรรยาย ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเครื่องดื่มค็อกเทลเนโกรนีที่จะมีอายุครบ 100 ปีในปี 2562 โดยเน้นประวัติความเป็นมาของค็อกเทล เนโกรนี จนถึงวิวัฒนาการที่เริ่มจากการเป็นค็อกเทลที่ ถูกคิดค้นที่เมืองฟลอเรนซ์ในปี 1919 โดยท่านเคานท์ เนโกรนี มาจนถึงปัจจุบันที่กลายเป็นเครื่องดื่มค็อกเทล คลาสสิค มีบาร์เทนเดอร์เข้าร่วมถึง 200 คน
สำหรับบาร์เทนเดอร์ที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย เป็นบาร์เทนเดอร์ในกรุงเทพฯ 4 คนจาก 4 บาร์ และจากเกาะสมุย 1 คน ประกอบด้วย Supawit Muttarattana (Vesper),Saimai Nantarat (ABar,Bangkok Marriot Marquis Queens Park Hotel),Worawut Changkrom (Cielo Skybar),Thorntan Siriwittayacharoen (Thaipioka) และ Dinnis Thurner (Tiki Box,Samui) ซึ่งแข่งขันเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ทุกคนล้วนนำเสนอทักษะการทำค็อกเทลพร้อมรสชาติที่ที่ยอดเยี่ยม ขณะที่เรื่องของการนำเสนอเรื่องราวตามคอนเซปต์ที่ทางผู้จัดการแข่งขันกำหนดไว้ บางคนยังค่อนข้างทำได้ไม่ค่อยลงตัวหรือลื่นไหลเท่าที่ควร
อยากจะพูดถึงเรื่องของการนำเสนอเรื่องราวสักหน่อย ไม่เฉพาะรายการนี้แต่แทบทุกรายการ บาร์เทนเดอร์บ้านเราที่มักจะเสียเปรียบในเรื่องนี้เมื่อถึงเวทีระดับอินเตอร์ แต่ไม่ใช่เรื่องเสียหายและไม่อยากให้นำมาคิดเป็นอุปสรรค เพราะแท้ที่จริงแล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับการศึกษาเรียนรู้และประสบการณ์ หนึ่งในวิธีแก้ไขคือควรเข้าร่วมการแข่งขันอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นรายการเล็กหรือใหญ่
สุดท้าย “ศุภวิชญ์ มุททารัตน์” (Supawit Muttarattana) หรือ “ปาล์ม” Bar Manager จากร้านเวสเปอร์ (Vesper) ค็อกเทล บาร์ ชื่อดังในย่านคอนแวนต์,สีลม คว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศในการแข่งขัน “คัมพารี บาร์เทนเดอร์ คอมพีทิชชัน ไทยแลนด์ 2018” ไปครอง และจะได้เดินทางไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งเข้าร่วมอบรมที่คัมพารี อคาเดมี (Campari Academy) ณ สำนักงานใหญ่ของคัมพารี กรุ๊ป (Campari Group) ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และยังจะได้มีโอกาสทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ ในบาร์ชั้นนำในมิลาน รวมทั้งนำเสนอค็อกเทลที่ได้เข้ารอบสุดท้ายให้กับบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน ในระหว่างวันที่ 20 – 23 มกราคม 2562
“เนโกรนี” (Negroni) เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการดัดแปลงจากค็อกเทลชื่อ อเมริกาโน (Americano) ที่มีส่วนผสมง่ายๆ เพียง 3 ส่วนแต่ดื่มอร่อยคือ คัมพารี เวอร์มุธ และโซดา (Campari,Vermouth ,Soda) ถูกเสิร์ฟครั้งแรกในกาฟเฟ คัมพารี (Caffè Campari) บาร์ของนายกัสปาเร คัมพารี (Gaspare Campari) ในปี 1860
“เนโกรนี” กำเนิดครั้งแรกในช่วงปี 1919 โดยท่านเคาท์ กามิลโล เนโกรนี (Count Camillo Negroni) ผู้ชื่นชอบค็อกเทล วันหนึ่งท่านเคาท์ไปร้านกาฟเฟ กาโซนี (Caffè Casoni) ในเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ปกติท่านจะชอบค็อกเทล อเมริกาโน (Americano) แต่วันนั้นเกิดเบื่อขึ้นมา จึงบอกบาร์เทนเดอร์ให้ช่วยทำค็อกเทลใหม่ ๆ ให้สักแก้ว แต่ต้องมีแคแลกเตอร์ของ Americano อยู่ด้วย บาร์เทนเดอร์จึงปรับแต่งด้วยการใส่จิน (Gin) และส้มลงไป 1 ชิ้นลงไป ปรากฏว่าถูกใจท่านเคานท์มาก
ด้วยส่วนผสมที่ไม่มากและเรียบง่ายมีเพียง จิน (Gin) เวอร์มุธ (Vermouth) และกัมปารี (Campari) เสิร์ฟด้วยแก้วโอลด์ แฟชั่น เติมแต่งด้วยเปลือกส้มฝานบาง ๆ ประกอบกับการทำที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ทำให้เนโกรนีได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง แม้จะเนิ่นนานเพียงใดสูตรเนโกรนีก็ไม่ได้ถูกดัดแปลงเลยเป็นเวลาเกือบ 100 ปีสร้างสรรค์มา ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นเสน่ห์อย่างแรง กระทั่งเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในบาร์ฮิป ๆ และค็อกเทลบาร์เก๋ ๆ มากมายที่ เริ่มนำค็อกเทลคลาสสิคมานำเสนอโดยไม่มีการดัดแปลงปรุงแต่งใดๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนโกรนีทำได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นเครื่องดื่มที่คนอิตาเลียนนิยมชมชอบ ดื่มได้ทุกโอกาส ทั้งเรียกน้ำย่อย ก่อนอาหาร,หลังอาหาร และเพื่อเพิ่มความสดชื่น
หลังจากนั้นสมาพันธ์บาร์เทนเดอร์นานาชาติ (The International Bartenders Association, IBA) จึงบรรจุ Campari ไว้เป็นส่วนผสมอย่างเป็นทางการของ Classic Negroni ดังนั้นจึงไม่มี Negroni ที่ปราศจาก Campari
Campari ที่ถือเป็นหัวใจหลักของเนโกรนี เป็นเหล้าตระกูลบิตเตอร์ (Bitter) คือเหล้ายาที่ได้รับการยกย่องว่าผสมผสานระหว่างความหอมหวาน ความขม และสไปซีได้อย่างลงตัวและแนบเนียน กำเนิดราวปี 1860 ที่เมืองโนวารา (Novara) แคว้นเพียดมอนต์ (Piedmont) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี โดยนายกัสปาเร คัมปารี (Gaspare Campari :1828–1882) เจ้าของภัตตาคารและคาเฟระดับสุดยอดของเมืองตูริน (Turin) หลังจากเปิดตัวสู่ท้องตลาดอย่างเป็นทางการ ในปี 1904 ไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
ปัจจุบัน Campari อยู่ในเครือ กลุ่ม Campari Group ผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลกโดย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมิลาน มีแบรนด์กว่า 50 แบรนด์ทั้งระดับพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียม เช่น Aperol, Appleton Estate, Campari, SKYY, Wild Turkey และ Grand Marnier บริษัทก่อตั้งในปี พ. ศ. 2403 ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียม มีโรงงาน 18 แห่งทั่วโลก และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายของตัวเองใน 20 ประเทศ พร้อมสินค้าที่ขายในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก.
ที่สำคัญอย่างลืมส่งกำลังใจเชียร์ ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ “ปาล์ม” เพื่อสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งให้กับแวดวงบาร์เทนเดอร์เมืองไทย.

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...