…
วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมามีข่าวเล็ก ๆ แต่เป็นข่าวใหญ่ในแวดวงไวน์ เขตริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) และทั่วประเทศสเปน นั่นคือการเสียชีวิตด้วยวัย 88 ปีของ “อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ” (Alejandro Fernandez) เจ้าของไวน์ชื่อดัง “เปสกูเอรา” (Pesquera) หรือ “ตินโต เปสกูเอรา” (Tinto Pesquera)
“อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ” นั้นได้ชื่อว่าผู้ปฏิวัติการทำไวน์ในเขตริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) รวมทั้งวงการไวน์สเปน ด้วยการทำให้องุ่นเตมปรานีโญ (Tempranillo) ซึ่งในเขตนี้เรียกว่าตินโต เดล ปาอิส (Tinto del País) หรือตินโต ฟีโน (Tinto Fino) มีคุณภาพและศักยภาพสูง ในช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชาแห่งเตมปรานีโญ” หรือ “คิง ออฟ เตมปรานิโญ” (King of Tempranillo)
เตมปรานีโญ (Tempranillo) เป็นองุ่นแดงประจำชาติของสเปน ชื่อแผลงมาจากคำว่า “เตมปราโน” (Temprano) ในภาษาสเปนแปลว่า Early เนื่องจากองุ่นพันธุ์นี้สุกเร็วกว่าองุ่นทุกชนิดในสเปนประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเตมปรานีโญมีคุณสมบัติคล้ายกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) มากที่สุด ปัจจุบันสเปนปลูกเตมปรานีโญประมาณ 75% ของทั่วโลก
เตมปรานีโญเป็นองุ่นเปลือกค่อนข้างหนา ใช้ทำไวน์แดงประเภท ฟูล บอดี้ สามารถดื่มขณะที่เป็นไวน์ใหม่ (Young Wine) ได้ แต่ถ้าเป็นไวน์คุณภาพดี บ่มในถังโอค สีจะแดงเข้มสดใส มีกลิ่นเบอร์รี พลัม ยาสูบ วานิลลา หนังสัตว์ และเฮิร์บ
ในสเปน เตมปรานีโญ ปลูกมากใน 2 พื้นที่หลักคือริโอฆา (Rioja) และริเบรา เดล ดูเอโร (Ribera del Duero) ขณะที่เขตโตโร (Toro) ที่อยู่ติดกับริเบรา เดล ดูเอโรเรียกว่าตินโต เดอ โตโร (Tinto de Toro) โดยในริโอฆานิยมผสมกับองุ่นอีก 2 -3 พันธุ์ คือ การ์นาชา ตินตา (Garnacha Tinta),กราซิอาโน (Graciano) และมาซูเอโย (Mazuelo) ในอัตราส่วนเทมปรานีโญไม่ต่ำกว่า 60 % แล้วบ่มในถังโอค ส่วนในริเบรา เดล ดูเอโร ซึ่งมีไวน์แดงแพงที่สุดของสเปนคือ Vega Sicilia รุ่น Unico ใช้เตมปรานีโญผสมกับกาแบร์เนต์ โซวีญยอง ส่วนรุ่น Valbuena 5° ใช้เตมปรานีโญผสมกับแมร์โลต์
นอกจากนั้นยังปลูกใน 2 เขตสำคัญในโปรตุเกสคือเซนทรัล อเลนเตโจ (Alentejo Central) เรียกว่าอราโกเญซ (Aragonêz) และในดูเอโร (Douro) เรียกว่าตินโต โรริซ (Tinta Roriz) ใช้ทำพอร์ต ขณะที่ในเมืองไทยก็มีการปลูกเตมปรานิลโยเช่นกัน เพื่อผสมกับชิราซ ที่ปลูกมากที่สุดคือพีบี แวลลีย์ เขาใหญ่ไวเนอะรี
ในสเปนมีชื่อเรียกเตมปรานีโญหลากหลายกว่า 50 ชื่อ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เช่น Tinto de Madrid,Tinto del País (ใน Ribera del Duero),Tinto de Rioja,Tinto de Toro และ Tinto del Toro(ใน Toro),Tinto Ribiera และ Tinto Fino (ในCastile y Leon, Madrid, Valencia) เป็นต้น
ปี 2011 ผมไป Ribera del Duero อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ เป็นหนึ่งในหลาย ๆ เจ้าของไวน์ที่มาแนะนำความเป็น Ribera del Duero และเสน่ห์ของไวน์ในเขตนี้ จากนั้นจึงไปเยี่ยมชมไวเนอะรีของเขา พร้อมชิมไวน์อีกหลายรุ่น ได้ความรู้จากเขามามากมายมหาศาล หนึ่งในจำนวนนั้นคือความแตกต่างระหว่างตินโต ฟีโน (Tinto Fino) กับเตมปรานีโญ (Tempranillo)…!!!!
หลังจากคุยกันถูกคอเขาเรียกผมว่า…”เอล ลีโฆ” (El lijo)…ไอ้ลูกชาย ประมาณนั้น เพราะไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว 4 คน….ผมก็เรียก “ปาเดระ” (Padre) ..คุณพ่อ..!!
อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ มีลูกสาว 4 คนคือออลกา (Olga) แมรีครูซ (Maricruz) ลูเชีย (Lucia) และอีวา มาเรีย (Eva Maria) ล้วนมีครอบครัว มีหลานให้กับคุณปู่หลายคน
อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ เกิดเมื่อปี 1933 ต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 14 ปี หลังจากพ้นภาระทหารจึงมาเป็นช่างไม้ ช่างกลโรงงาน และได้คิดค้นเครื่องอำนวยความสะดวกในการปลูกธัญพืชต่าง ๆ รวมทั้งองุ่น ซึ่งกลายเป็นความคิดที่อยากจะทำไวน์ ปี 1972 จึงยืมเงินจากบริษัทที่ทำงานมาก่อตั้งไวเนอะรีเล็ก ๆ พร้อมตั้งชื่อว่า “Pesquera” ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ ได้รับความช่วยเหลือจากเตโอฟีโล เรเยส (Teófilo Reyes) นักปรุงไวน์ที่ทำงานอยู่ในสหกรณ์ท้องถิ่น จากนั้นจึงก็สร้างอาคารด้วยหินแบบยุคศตวรรษที่ 16 ภายในมีเซลลาร์ใต้ดิน ขณะที่ไวน์ Pesquera ลองผิดลองถูกจนลงตัว และขายอย่างเป็นทางการวินเทจ 1975 เขาเป็นหนึ่งในแกนนำผลักดันให้ Ribera del Duero ได้รับ DO (Denominación de Origen) อย่างเป็นทางการในปี 1982
หลังจากไวน์ตัวแม่ Pesquera ประสบความสำเร็จ เขาจึงเริ่มคิดทำไวน์ตัวใหม่ ขณะเดียวกัน “เบกา ซิซิเลีย” (Vega Sicilia) ไวน์ชื่อดังที่อยู่ในเขตเดียวกัน ได้ผลิตไวน์ตัวแดงใหม่ชื่อ “อาลิออน” (Alion) แปลว่า “สิงโต” เป็นไวน์ในสไตล์หนักแน่น ซึ่งเป็นสไตล์ที่อเลฆานโดรเป็นคนบุกเบิกในการทำมาก่อน เขาบอกเขาทำได้ดีกว่าตัวนี้ !!
ปี 1989 เขาซื้อไวเนอะรีใหม่ชื่อคอนกาโด เดอ อาซา (Condado de Haza) จากนั้นปี 1998 จึงเริ่มขายพื้นที่ออกไปนอกรีเบรา เดล ดูเอโร เป็นครั้งแรก ด้วยการซื้อไร่เดเอซา เดอ ลา กรานฆา (Dehesa de la Granja) ในเมืองซามารา (Zamora) ในเขตโตโร (Toro) ซึ่งเป็นเขตติดกันนั่นเอง ปี 1994 เตโอฟีโล เรเยส ขอลาออกไปทำไวน์ของตัวเอง Eva Maria ลูกสาวคนสุดท้องจึงเข้ามาดูแลกันผลิต Pesquera ทั้งหมด
“ริเบรา เดล ดูโร” (Ribera del Duero) ตั้งอยู่บนที่ราบทางตอนเหนือของคาบสมุทไอบีเรีย มีแม่น้ำ (Duero) เป็นเส้นเลือดสายสำคัญในการผลิตไวน์ เป็นเขตผลิตไวน์ชื่อดังแห่งหนึ่งของสเปน และเป็นเขตควบคุมการผลิตไวน์ (Denominacion de Origen = DO) 1 ใน 5 ของแคว้นคาสติล แอนด์ เลโอน (Castile and Leon) ซึ่งได้รับมาเมื่อปี 1982
ประวัติการผลิตไวน์ของริเบรา เดล ดูโร นับย้อนไปเป็นพัน ๆ ปี แต่คาดกันว่าพันธุ์องุ่นระดับโลกหลายพันธุ์ถูกนำเข้ามาโดยพระเบเนดิกทีน (Benedictine) จากเมืองคลูนี (Cluny) แคว้นเบอร์กันดี (Burgundy) ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงศตวรรษที่ 12
ริเบรา เดล ดูโร เป็นเขตผลิตไวน์ชื่อดังระดับโลกอย่าง เบกา ซิซิเลีย (Vega Sicilia) และตินโต เปสกูเอรา (Tinto Pesquera) เป็นเขตที่มีความลงตัวของแตร์รัวร์ (Terroir) ดินฟ้าอากาศ (Microclimate) และองุ่นพื้นเมืองโดยเฉพาะตินโต ฟิโน (Tinto Fino) ปลูกองุ่นอยู่รอบ ๆ เมืองเบอร์โกส (Burgos) บัลยาโดลิด (Valladolid) เมืองหลวงของแคว้น คาสติล แอนด์ เลโอน และโรอา เดอ ดูเอโร (Roa de Duero) Ribera del Duero เคยได้รับการยกย่องให้เป็น Wine Region of the Year 2012 โดยนิตยสารไวน์ Wine Enthusiast Magazine
Ribera del Duero ผลิตไวน์แดงเป็นส่วนใหญ่ จากองุ่นตินโต ฟิโน (Tinto Fino) นอกจากนั้นก็มีกรานาชา (Garnacha) หรือเกรอะนาช (Grenache) กาแบร์เนต์ โซวีนยอง (Cabernet Sauvignon,มาลเบค (Malbec) และแมร์โลต์ (Merlot) พวกนี้นิยมเบลนด์กับตินโต ฟิโน บางรายผลิตจากตินโต ฟิโน 100 % เช่น Tinto Pesquera ของ Alejandro Fernández ขณะที่ Vega Sicilia สุดยอดไวน์แดงของสเปนและมีลูกค้าประจำอย่าง เจ้าฟ้าชายชาร์ล แห่งอังกฤษ ใช้แมร์โลต์ และกาแบร์เนต์ โซวีญยอง เป็นส่วนผสม ส่วนไวน์ขาวของเขตนี้ผลิตจากองุ่นอัลบีโญ (Albillo)
ไวน์แดงของ Ribera del Duero ที่ระบุข้างขวดว่า Crianza ต้องมีอายุ 2 ปีและบ่มในถังโอคอย่างน้อย 12 เดือน ขณะที่ Reserva ต้องมีอายุ 3 ปีและบ่มในถังโอคอย่างน้อย 1 ปี แต่ถ้าเขียนว่า Gran Reservas ต้องอายุ 5 ปีและบ่มในถังโอค 2 ปี ในถังโอค อีก 3 ปีบ่มในขวด
Descanse en Paz…!! สู่สุคติ “อเลฆานโดร แฟร์นานเดซ” และไวน์
“เปสกูเอรา”…จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป…!!!