เฝินจิ่ว “3 ประสานเหนือเมฆา” ยอดสุราแห่งชานซี

ห้องเก็บหัวเชื้อที่ใช้หมักหรือชิว

ห้องหมัก

หัวเชื้อที่ใช้หมักเฝินจิ่วเรียกว่าชิว

ไหหมักเฝินจิ่ว

3 ประสานเหนือเมฆา

การต้มวัตถุดิบ

แก้วเฝินจื่ว

ข้าวฝ่างแดง

เตรียมข้าวฝ่างแดงไปหมัก

ที่หมักเฝินจิ่ว

เฝินจิ่ว 20 ปี

เฝินจิ่ว 30 ปี

ภูเขาอู่ไถ มรดกโลก

มณฑลซานซี

เมืองโบราณผิงเหยาหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว

รุ่น 20 ปี

รุ่น 30 ปี

หนึ่งในกระบวนการทำเฝินจิ่ว

หมุ่บ้านซิงฮวา

หมู่บ้านแขวน

หมู่บ้านซิงฮวา“ภูติวิญญาณในวันเชงเม้ง นึกอยากจะจิบสุราเฝินจิ่วอีกสักครา เสมือนครั้งยังมีลมหายใจ”
“ตู้มู่” ยอดกวีในราชวงศ์ถัง เปรียบเปรยรสชาติของสุรา “เฝินจิ่ว” ว่า “แม้แต่ผีในวันเชงเม้งยังนึกอยากจิบสุราเฝินจิ่วอีกครั้งเหมือนตอนมีชีวิตอยู่…”
“เฝินจิ่ว” เป็นยอดสุราที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีหลักฐานการขุดค้นพบข้อมูลการทำเฝินจิ่วในหมู่บ้านซิงฮวา แห่งมณฑลชานซี สามารถย้อนรอยไปได้ถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในช่วงยุควัฒนธรรมหลงซาน
กว่า 4,000 ปีที่แล้ว ผู้ที่ชื่นชอบบอกว่าเฝินจิ่ว เป็นสุรากลิ่นหอม หวาน อ่อนโยนเป็นพิเศษ แฝงไปด้วยจิตวิญญาณแบบเหล้าจีน
“เฝินจิ่ว” เป็นเหล้ากลั่นจากหมู่บ้านซิงฮวา (Xinghua Cun) ปัจจุบันคือตั้งอยู่ที่เมืองเฟินหยาง (Fenyang) ในมณฑลซานซี (Shanxi) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3- 4 พันปี เริ่มตั้งแต่กษัตริย์เป่ยฉีหวู่ (Bei Qiwu) ยาวนานถึง 24 ราชวงศ์
นอกจาก “ข้าวเกาเหลียง (Sorghum)” หรือ “ข้าวฟ่างแดง” จะเป็นวัตถุดิบสำคัญ “เฝินจิ่ว” แล้ว ก็ยังมี “น้ำ” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ จากการที่ภูมิศาสตร์เฉพาะของหมู่บ้านซิงฮวา ทำให้มีแหล่งน้ำที่นี่นั้นมีความพิเศษ มีความสะอาด และอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
“เฝินจิ่ว” ได้รับการยกย่องจากเซียนสุราตั้งแต่ครั้งโบราณว่าเป็น “3 ประสานเหนือเมฆา” ประกอบด้วย
1.สี สวย ใสกระจ่าง ดุจแม่น้ำแห่งสรวงสรรค์
2.กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จนผู้นิยมสุราถึงกับต้องหลงใหล ต่างจากเหล้าในแถบใต้ของจีนที่มักกลิ่นแรงฉุน
3.รสชาติ กลมกล่อมเพราะใช้น้ำพุธรรมชาติที่มีรสหวานเป็นวัตถุดิบในการกลั่น
กล่าวถึง “ชานซี” (Shānxī) ถิ่นกำเนิดของ “เฝินจิ่ว” นั้นในช่วงที่ยังไม่มีโควิด-19 ระบาดนั้น เป็นหนึ่งในดินแดนที่เรียกนักท่องเที่ยวได้จากทั่วโลก รวมทั้งคนไทย เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลายรูปแบบ รวมทั้งที่เป็นมรดกโลก นับเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งของจีน
“ซานซี” โด่งดังครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2020 เมื่อร้านอาหารแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเฉินจวงของอำเภอเซียงเฝิน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าครึ่งร้อย เป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่ไม่มีใครสามารถเดาล่วงหน้าได้
ชานซี (Shānxī) เรียกตามสำเนียงกลาง ถ้าตามสำเนียงฮกเกี้ยนเรียกว่า ซัวไซ เป็นมณฑลหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ในภาคเหนือของประเทศ เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของมณฑลคือไท่หยวน
คำว่า “ชานซี” แปลว่า “ทิศตะวันตกของภูเขา” เนื่องจากมณฑลนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของภูเขาไท่หังทางทิศตะวันออกของมณฑลติดกับมณฑลเหอเป่ย ทิศใต้ติดกับมณฑลเหอหนาน ทิศตะวันตกติดกับมณฑลส่านซี และทิศเหนือติดกับเขตปกครองตนเองมองโกเลีย ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง บางส่วนถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขา เป็นแหล่งผลิตถ่านหินชั้นนำ มีถ่านหินประมาณ 1 ใน 3 ของถ่านหินทั้งหมดในจีน
อย่างไรก็ตามการเกษตรกรรมก็ยังนับเป็นสิ่งสำคัญ จากภูมิประเทศที่เอื้อต่อการเพาะปลูก ทำให้สามารถปลูกพืชผักผลไม้ได้หลายอย่าง รวมทั้งผลไม้ที่นอกจากจะใช้อุปโภคบริโภคแล้ว ที่เหลือยังนำมากลั่นเป็นเหล้า เพื่อใช้บรรเทาความหนาวเหน็บ เพราะทางเหนือของชานซีติดกับมองโกเลียที่อากาศหนาวเย็น
เดือนมีนาคม 2021 ทีมงานของศาสตราจารย์หยาง อี้หมิน จากคณะโบราณคดีและมานุษยวิทยาของมหาวิทยาลัยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (University of Chinese Academy of Sciences) ร่วมกับสถาบันวิจัยโบราณคดีมณฑลซานซี มีการค้นพบกากเหล้าผลไม้ที่ตรวจพบในซากของเหลวและตะกอนที่ขุดพบในสุสานเป่ยป๋ายเอ๋อ สมัยราชวงศ์โจว ในมณฑลซานซี
หลังจากที่นักวิจัยได้วิเคราะห์เศษของเหลวที่พบในกาสัมฤทธิ์ และตัวอย่างดินที่ก้นภาชนะแล้วก็พบว่า ของเหลวในกาสัมฤทธิ์มีสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) จำนวนมากเช่น เอทานอล กรดอะซิติก และเอทิลอะซิเตต ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นเหล้าโบราณที่ทำจากผลไม้ ซึ่งทำในยุคก่อนราชวงศ์ฉิน ที่สำคัญเป็นหลักฐานการค้นพบที่เก่าแก่ที่สุดของเหล้าผลไม้ที่พบในเอเชียตะวันออกด้วย
อย่างไรก็ตามเหล้าขาวที่มีชื่อเสียงของชานซีก็คือ “เฝินจิ่ว” (Fenjiu) ดังกล่าวในตอนแรก เดิมทีทำจาก “ข้าวฟ่างแดง” หรือ “ข้าวเกาเหลียง (Sorghum) ในยุคต่อ ๆ จนถึงปัจจุบันมีการใช้ถั่วและข้าวบาร์เลย์เป็นวัตถุดิบผสมลงไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้คงจะเป็นสูตรเด็ดเคล็บลับของคนกลั่น แอลกอฮอล์ประมาณ 42-53 ดีกรี ขึ้นอยู่กับแต่ละตัว ปัจจุบันมีกำลังการผลิตปีละ 15,000 ตัน
หลังสถาปนาประเทศจีนใหม่ (ปี 1949) อุตสาหกรรมการผลิตเหล้าพัฒนาไปตามเศรษฐกิจและการยกระดับการครองชีพของคนจีน ประเทศจีนเคยจัดงานการประกวด “สุรายอดเยี่ยม” ทั่วประเทศถึง 3 ครั้ง และมีการตัดสินเหล้าดีมีชื่อ 22 ชนิด เหล้าดีคุณภาพเยี่ยม 58 ชนิด
ในปี 1980 มีการพิมพ์สารานุกรม สุราดีมีชื่อของจีน แบ่งสุราดีของจีนเป็น 5 ชนิดใหญ่ๆ คือ เหล้าขาว เหล้าเหลือง เหล้าองุ่น เหล้าผลไม้ และเบียร์ สำหรับในประเภทเหล้าขาว หรือ “ไป๋จิ่ว” (Baijiu) นั้น “เฝินจิ่ว” เป็น 1 ใน 10 ไม่ธรรมดาเลย
ในประเทศไทย บริษัท สยาม ดรากอน เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเหล้าเฝินจิ่วอย่างเป็นทางการ และมอบให้บริษัทในเครือคือ เอซ พี ซัพพลาย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้ทำการตลาด ซึ่งมีทั้งไวน์และสปิริตหลายแบรนด์
นายปิยพงษ์ กาญจนธานนท์ CEO บริษัทดังกล่าวบอกว่า
“เฝินจิ่วเป็นเหล้าขาวจีนที่มีประวัติเก่าแก่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน การผลิตจะพิถีพิถันตามวิธีการดั้งเดิมคือ ใช้คนในการผลิตทุกขั้นตอน ทำให้ได้เหล้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความหอมของสมุนไพรนานาชนิด มีความซับซ้อนของกลิ่นและรสชาติสูงมาก และในขณะเดียวกันก็จะมีความนุ่มนวล ละมุนในลำคอ”
สำหรับ “เฝินจิ่ว” ที่ผมได้ชิมประกอบด้วย 2 รุ่นคือรุ่น 20 ปี และ 30 ปี ก่อนชิมผมแยกเหล้าเป็น 2 ส่วน ๆ แรกรินใส่แก้วธรรมดาไว้ ที่เหลืออยู่ในขวดที่เป็นคล้ายกระปุกเคลือบใส่ตู้เย็นไว้ ทุกวันนี้ก็ยังมีเหลืออยู่ในตู้เย็น แต่ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ เพราะกินข้าวเย็นเสร็จผมก็ทำให้ท้องไม่อืดวันละแก้ว ซึ่งแก้วก็เป็นแก้วเล็ก ๆ คล้ายแก้วเหมาไถ แต่อวบอ้วนกว่าเล็กน้อย ความจุของแก้วเขาทำมาพอดีให้กระดกครั้งเดียว เพื่อกำซาบกลิ่นและรสของเฝินจิ่วได้เต็มที่ ไม่ต้องการการจิบที่ละนิด ๆ
จากการชิมเปรียบเทียบ ปรากฏว่าส่วนที่แช่ในตู้เย็นกลิ่นและรสชาติดีกว่าที่ไม่ได้แช่ ส่วนหนึ่งน่าจะเนื่องด้วยถิ่นกำเนิดของเฝินจิ่วมาจากสภาพภูมิประเทศเย็นค่อนข้างจัด เวลาชิมก็ควรจะให้เย็น เปรียบเหมือนบ้านเราที่อากาศร้อน การเอาเหล้าขาวของเราไปแช่เย็นจะไม่ได้อรรถรส เป็นต้น
“เฝินจิ่ว ซิงฮวา 20 ปี ชานซี จีน” (Fenjiu Qinghua 20 years Shanxi, China) : เรียกสั้น ๆ ว่ารุ่น 20 ปี แอลกอฮอล์ 42% สีใส สะอาด ชิมจากแก้วที่ไม่แช่เย็นกลิ่นค่อนข้างแรงฉุนเฉียว ส่วนแก้วที่เย็นกลิ่นหอมอบอวล ค่อนข้างละมุน มีกลิ่นข้าว มิเนอรัล ดอกไม้ เฮิร์บแห้ง ๆ จบค่อนข้างยาวด้วยกลิ่นข้าว และสไปซี่เฮิร์บชุ่มคอ เป็นรุ่นที่น่าจะทำค็อกเทลได้หลากหลาย…..19/20 คะแนน
“เฝินจิ่ว ซิงฮวา 30 ปี ชานซี จีน” (Fenjiu Qinghua 20 years Shanxi, China) : เรียกสั้น ๆ ว่ารุ่น 30 ปีแอลกอฮอล์ 48% เป็นรุ่นที่เรียกว่า “กลิ่นหอมละมุนและอบอวล” (Light Fragrance) อย่างแท้จริง สีใส สะอาดสะอ้าน หอมกลิ่นข้าว โดยเฉพาะรำข้าวที่ออกจากโรงสีใหม่ ๆ หอมละมุนมาก กลิ่นกลีบดอกไม้แห้ง ๆ สไปซี่เฮิร์บคล้าย ๆ จันทร์เทศ หวาน ๆ ติดปากและลิ้น เอิร์ธตี้ ควันไฟเหมือนเผากะลามะพร้าวกรุ่น ๆ รสกลมกล่อม ชิมแล้วชวนให้หลงใหล จบยาวด้วยข้าวและเฮิร์บหวานลิ้นชุ่มคอ เป็นเหล้าจีนที่ควรชิมสักครั้งในชีวิต…19.5/20 คะแนน
มีคนบอกว่า”มณฑลซานซี” เป็นสถานที่ที่รวบรวมความเป็นที่สุดของเมืองจีนเอาไว้ ทั้งสถานที่เที่ยวทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหมู่ถ้ำสำคัญ 1ใน 3 ของจีน,พื้นที่มรดกโลก, ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 4 ของจีน,น้ำตก,เมืองโบราณ,บ้านโบราณและวัดวาอาราม แต่การมี “เฝินจิ่ว” ย่อมทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
ท่านที่สนใจ “เฝินจิ่ว” สอบถามที่ บริษัท เอซ พี ซัพพลาย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด โทร 02 682 5981-4 หรือ 081 619 1823

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...