แจน แก้วยอด “Bartender of the year 2018″

10 คนสุดท้าย

ค็อกเทลวัส-สะ-นะ ของเจน แก้วยอด

เจน แก้วยอด

ดาวรุ่งที่น่าจับตามอง

ผู้ชนะและรอง

แผู้ชนะเลิศและรองฯ

แชมป์เก่าจากปีต่าง ๆ

ใช้ของไทยๆ

เผ็ดจี๊ดจ๊าด

รวมแชมป์เก่า

รับรางวัลจากผู้บริหารดิอาจิโอฯ

สีหวานแหวว

อลังการ
บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งวงการมิกโซโลจิสต์ไทย “DIAGEO Reserve World Class 2018 Thailand Final”ภายใต้การสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและแคมเปญ “Amazing Thailand” สร้างมาตรฐานและความสามารถของบุคลากรในแวดวงค็อกเทลเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฟ้นหาสุดยอดบาร์เทนเดอร์ผู้รังสรรค์ความเป็นที่สุดของค็อกเทล เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงแชมป์ระดับโลกในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมทั้งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย
“ดิอาจิโอ เวิลด์ คลาส” (Diageo World Class ) เป็นแคมเปญระดับโลกที่เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อค้นหาสุดยอดบาร์เทนเดอร์ผู้เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการรังสรรค์เครื่องดื่มชั้นเลิศ ในประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมแคมเปญนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา โดยมีบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Diageo Moët Hennessy (Thailand) Ltd.) เป็นผู้ขับเคลื่อน วัตถุประสงค์หลักเพื่อยกระดับวงการบาร์เทนเดอร์ไทยให้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลอย่างเต็มตัว พร้อมทั้งมอบความรู้ และสร้างเสริมทักษะประสบการณ์ให้กับผู้เข้าแข่งขัน
พรเสก ภาคสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มผลิตภัณฑ์รีเสิร์ฟ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โปรแกรม World Classไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่ยังเป็นโปรแกรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ ทักษะฝีมือ และความสามารถของผู้ประกอบอาชีพบาร์เทนเดอร์ทั่วโลก โดยบาร์เทนเดอร์ที่ผ่านการฝึกฝนและผ่านการแข่งขันจะได้รับประกาศนียบัตร World Class เพื่อการันตีถึงความมีระดับ ความหรูหรามีสไตล์ ความสามารถ รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์และบริการชั้นเลิศ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการทำค็อกเทลระดับโลก”
สำหรับปี 2018 นี้รอบแรกที่ผู้เข้าแข่งขัน 130 คน และมีเพียง 35 คนที่จะได้เข้าสู่รอบ Semi Final ซึ่งถือว่าเป็นรอบที่สำคัญเช่นกัน จัดที่ห้องบอลรูม โรงแรม Compass Skyview ซอยสุขุมวิท 24 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้แข่งขันจริง 33 คน คัดเลือก 10 คนผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายหรือรอบ Final โดยรอบ Semi Final มี 2 โจทย์คือ Thai Eco และ The Cocktail at Home
1.Thai Eco เป็นการแข่งขันที่ให้บาร์เทนเดอร์รังสรรค์เครื่องดื่มในแนวทางที่ยั่งยืน (Sustainability) อันเนื่องมาจากประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพรพื้นบ้านต่าง ๆ ที่มีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญก็คือมีมากมายล้นเหลือ ทำให้บริโภคกันอย่างไม่รู้คุณค่า จนก่อให้เกิดสิ่งที่เหลือทิ้งขว้างกันอย่างมากมาย รวมทั้งในบาร์ต่าง ๆ แทบทุกพื้นที่ของเมืองไทย
บาร์เทนเดอร์ต้องสร้างสรรค์ค็อกเทลด้วยการเลือกวัตถุดิบที่สื่อความเป็นไทย แล้วนำเสนอคณะกรรมการในแนวทางที่ยั่งยืน (Sustainability) นั่นคือเลือกวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า รู้ถึงประโยชน์ที่แท้จริง ลดการบริโภคทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และบริการสิ่งต่าง ๆ ในบาร์อย่างคุ้มค่า เป็นต้น
2.The Cocktail at Home สืบเนื่องมาจากในยุคปัจจุบัน การทำอาหารที่บ้านในรูปแบบต่าง ๆ เริ่มแพร่หลายมากขึ้น อาจจะเป็นรูปแบบการปาร์ตี้ที่บ้าน หรือการทำอาหารของเชฟที่มีการสอนและแชร์เทคนิคต่าง ๆ ในการทำอาหารตามสื่อต่าง ๆ ทำให้ท่านสามารถทำเมนูระดับเริดหรูได้ง่ายขึ้น
บาร์เทนเดอร์ต้องรังสรรค์สูตรเครื่องดื่มที่สามารถทำให้วัฒนธรรมการดื่มค็อกเทลแพร่หลายและเข้าถึงง่ายขึ้น บาร์เทนเดอร์ต้องจัดเตรียมและทำค็อกเทลด้วยวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ต่อหน้าคณะกรรมการ ที่เปรียบเสมือนเป็นเพื่อน ๆ ที่มาร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้านของท่าน
ส่วนรอบ Final จัดขึ้นที่ร้าน Escape Bangkok ชั้น 5 The Emquartier เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมผ่านมา บาร์เทนเดอร์ 10 คนสุดท้าย ประกอบด้วย (ในวงเล็บคือสถานที่ทำงาน) : Jane Kaew-Yod (Sorrento) / Kitibordee Chortubtim (Backstage Cocktail Bar) / Nattawut Jeerasatienkul (Vesper&il Fumo) / Phongsathorn Chaokitiwut (Dibuk House) / Dheeradon Dissara (The Never Ending Summer) / Sutthinon Phanthanam (#FindThePhotoBooth) / Dennis Thurner (Sooth Bar) / Weerachon Pasukkhee (Cielo Sky Bar) / Krit Pragobdee (Tropic City) และ Supathon Kairat (Thaipioka) ขอบันทึกชื่อและร้านที่ทำงานของพวกเขาไว้ ณ ที่นี้ด้วย เผื่อท่านที่มีโอกาสแวะไปชิมฝีมือของพวกเขา
ในรอบนี้บาร์เทนเดอร์ทั้ง 10 คนต้องพบกับ 2 โจทย์คือ Against the Clock และ The Blue ‘s Dinner ผู้ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันรอบ World Class Global Finals 2018 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันี ที่จะมีบาร์เทนเดอร์ตัวแทนของชาติต่าง ๆ กว่า 40 ชาติเข้าร่วมชิงชัย
1.Against the Clock เป็นการวัดขีดความสามารถของบาร์เทนเดอร์ในการทำงานภายใต้เวลาที่จำกัด ความกดดันสูงและต้องเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนมีเวลา 8 นาทีในการทำค็อกเทลอย่างน้อย 5 แก้วด้วยกรรมวิธีการทำที่ไม่ซ้ำกัน (อนุญาตให้ทำเกิน 5 แก้วได้ แต่ต้องไม่เกิน 8 แก้ว)
2.The Blue ‘s Dinner โจทย์นี้เกิดจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “วิสกี้ ดินเนอร์” ได้รับความนิยมและแพร่หลายมากขึ้น กระทั่งกลายเป็นวัฒนธรรมดินเนอร์ที่หรูหรามีระดับ แน่นอนเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับวัฒนธรรมการดื่มกินในเมืองไทย ซึ่งดีอาจีโอฯ ได้จัดวิสกี้ ดินเนอร์กับจอห์นนี วอร์คเกอร์ (Johnnie Walker) รุ่นต่าง ๆ มาโดยตลอด
บาร์เทนเดอร์จะต้องรังสรรค์เครื่องดื่ม โดยใช้ จอห์นนี วอร์คเกอร์ บลู เลเบิ้ล (Johnnie Walker Blue Label) เป็นส่วนผสมหลัก เพื่อเป็นค็อกเทลปิดท้ายดินเนอร์ให้สมบูรณ์แบบ สร้างประสบการณ์ ความตื่นตาตรึงใจ และรสชาติที่อลังการ ทำให้ผู้ร่วมดินเนอร์เกิดความประทับใจและจดจำ จอห์นนี วอร์คเกอร์ บลู เลเบิ้ล อย่างมิรู้ลืม
ผลการแข่งขันมีดังนี้
Bartender of the year 2018 : Jane Kaew-Yod (Sorrento)
1st Runner up : Kitibordee Chortubtim (Backstage Cocktail Bar)
2nd Runner up : Nattawut Jeerasatienkul (Vesper&il Fumo)
Rising Star : Dennis Thurner (Sooth Bar,Samui Island)
ลองย้อนกลับไปดูพัฒนาการของผู้เข้าแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว “เวิลด์ คลาส ไทยแลนด์ บาร์เทนเดอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ 2017” (World Class Thailand Best Bartender of the Year 2017) ผู้ชนะเลิศคือ รณภร คณิวิชาภรณ์ (Backstage Cocktail Bar) ซึ่งได้ตำแหน่งนี้เป็นสมัยที่ 2 / รองชนะเลิศ อันดับ 1 เจน แก้วยอด (Sorrento) และรองชนะเลิศอันดับ 2 กิติบดี ช่อทับทิม (Backstage Cocktail Bar)
พรเสก ภาคสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายขายกลุ่มผลิตภัณฑ์รีเสิร์ฟ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส (DIAGEO Reserve World Class) นับได้ว่าเป็นรายการแข่งขันบาร์เทนเดอร์อันดับหนึ่งของโลก เพราะเป็นโปรแกรมอบรมและการแข่งขันมิกโซโลจิสต์ ที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุด ซึ่งให้ความรู้และแรงบันดาลใจแก่บาร์เทนเดอร์มาแล้วกว่า 250,000 คน ใน 60 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ได้เข้าร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งไม่เพียงค้นหาสุดยอดบาร์เทนเดอร์เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงแชมป์ระดับโลก แต่ยังเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะด้านการผสมเครื่องดื่มให้กับบาร์เทนเดอร์เพื่อยกระดับมาตรฐานอาชีพบาร์เทนเดอร์ในประเทศไทยให้ดีขึ้นด้วยโดยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันนี้ได้ช่วยพัฒนาศักยภาพบาร์เทนเดอร์ไทยไปแล้วกว่า 500 คน”
เจน แก้วยอด เจ้าของตำแหน่ง World Class Thailand Best Bartender of the Year 2018 กล่าวว่า “ต้องขอบคุณเวิลด์ คลาสที่เปิดโอกาสให้ผมได้มีพื้นที่พิสูจน์ตัวเอง และทุกคนที่คอยสนับสนุน เพราะผมซ้อมค่อนข้างหนักมาก สำหรับความพิเศษของค็อกเทลที่ทำให้คว้ารางวัลครั้งนี้ มีชื่อว่า วัส-สะ-นะ ซึ่งแปลว่ากลิ่นอายของฤดูฝน คนจะคิดว่าเวลาที่ฝนตกผลไม้หรือวัตถุดิบรสชาติจะเจือจางแต่จริงๆ การที่ฝนตก ยังให้อย่างอื่นกับราก ผล ลำต้น ผมจึงเลือกใช้วัตถุดิบที่ออกในช่วงนี้พอดี คือดอกกระเจียว หรือ สยามทิวลิป ฟลาวเวอร์ ซึ่งในดอกจะมีน้ำฝนที่กักขังอยู่ และใช้มะตูมสด ซึ่งมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง และใช้ผอบ และบลู เลเบิ้ล รีเสิร์ฟ เข้ามาเป็นองค์ประกอบในการสร้างค็อกเทล และใช้ลูกฟิกส์ จากโครงการหลวง ซึ่งทุกอย่างผมได้แรงบันดาลใจมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 คือมองของที่เรามี บวกกับเทคนิควิธีการและใส่ความสนุกลงไป สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แล้วนำมาพัฒนาในแบบแผนของเรา ทำให้ได้ค็อกเทลออกมาดีที่สุดในช่วงเวลาเหมาะสมที่สุด”
สำหรับการเตรียมความพร้อมที่จะไปร่วมชิงชัยในเวทีระดับโลก World Class Global Finals 2018 ณ กรุงเบอร์ลิน ในเดือนสิงหาคมนี้ เจน บอกว่า“ต้องศึกษาค้นคว้าหาโจทย์ของการแข่งขันว่าต้องการอะไร และมีข้อจำกัดอะไรบ้าง จากนั้นจึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ พร้อมกับคำแนะนำต่างๆ มาพัฒนาทักษะเพิ่มเติม รวมถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อทำค็อกเทลให้ออกมาดีที่สุด”
นอกจากส่งกำลังใจไปเชียร์ เจน แก้วยอดแล้ว สิ่งที่ท่านจะช่วยแวดวงบาร์เทนเดอร์เมืองไทยได้คือ สั่งค็อกเทลสักแก้วแล้วพูดคุยกับพวกเขา !!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...