“แอดิเลด” เมืองที่น่าไปเยือนแล้วอยู่ต่อ

        แอดิเลด เป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยมหาสมุทรและเนินเขา เป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ ประวัติศาสตร์ตระการตา สวรรค์ของอาหารการกิน ไวน์ และดนตรีที่ผสมผสานกลิ่นอายของยุโรปและพื้นเมืองเอาไว้อย่างมีเอกลักษณ์”…

เป็นคำจำกัดความที่ค่อนข้างชัดเจนที่สุดของแอดิเลด (Adelaide) ที่คนท้องถิ่นออกเสียงว่า “แอ๊ดเล็ด” ขณะที่คนไทยหลายคนออกเสียงว่าอะเดเลด

ผมไปแอดิเลดครั้งแรกประมาณ 20 ปีที่แล้วมีร้านอาหารไทยร้านเดียวชื่อร้าน Amarin Thai จากนั้นก็ได้ไปอีกเรื่อย ๆ ครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีร้านอาหารไทยผุดเป็นดอกเห็ด เบียดแซงหน้าร้านอาหารเอเชียชาติอื่น ๆ

ร้านอาหารไทยได้รางวัลอย่างต่อเนื่องจากหลายหน่วยงาน  เช่นปีที่แล้วร้าน Golden Boy ได้รับเลือกให้เป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดของรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย จากการจัดของสมาคมอุตสาหกรรมร้านอาหารและผู้จัดทำอาหารรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย (SA Restaurant and Catering Association Awards for Excellence 2015 หรือ SARCAAE 2015)

แอดิเลด” วันนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนไทย…!!!

ผมชอบสนามบินแอดิเลด (Adelaide Airport : ADL) เพราะอยู่ห่างจากย่านกลางเมืองประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น รถราก็ไม่ติด มีรถมินิบัส Adelaide Airport Flyer พาเข้าไปส่งในเมืองตามจุดต่าง ๆ

แอดิเลดเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีสวนสาธารณะมากถึง 29 แห่ง ซึ่งกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของเมือง ตึกรามบ้านช่องล้วนใช้พลังงานสีเขียว รถราไม่มากแถมยังมีจักรยานให้ยืมปั่นไปได้รอบเมือง กรุงเทพฯก็(เคย)มี เป็นแบบเก็บตังค์ตอนนี้เหลือแต่ที่จอดให้ฝุ่นนอนเล่น ส่วนจักรยานหายเรียบ ที่สำคัญแอดิเลด เป็น “เมืองแรกของโลกที่มีรถบัสพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ให้บริการ” เป็นรถบัสสีเขียวเรียกว่า “ทินโด” (Tindo)

“เมือง 20นาที” (Twenty-minute city) เป็นหนึ่งในสมญานามของแอดิเลดเพราะสามารถเดินทางถึงกันได้ภายใน 20 นาที เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะดีมาก ตัวเมืองชั้นในมีรถเมล์ฟรี รถรางฟรี (Tram) ไว้คอยบริการ ผมลองพิสูจน์มาแล้วทุกอย่าง เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อยแต่ถือว่าใช้ได้ ส่วนนักท่องเที่ยวมีรถเมล์สาย 99C บริการฟรี

ไม่แปลกใจที่แอดิเลดติด 1 ใน 10 อันดับ “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” ของนิตยสาร The Economist’s World’s Most Liveable Cities Index ขณะที่นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก Lonely Planet จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 “เมืองที่น่าไปเยือนมากที่สุด” ประจำปี  2014

เมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐเซาท์ ออสเตรเลียแห่งนี้ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของประเทศ ประชากรประมาณ 1.4 ล้านคน ก่อตั้งในปี 1836 ตั้งชื่อเมืองตามพระนามของอเดลเลดแห่งแซ็กซ์-ไมนิงเก็น (Adelaide of Saxe-Meiningen) สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร พระอัครมเหสีในสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร โดยมรดกการจัดวางผังเมืองที่ดีเยี่ยมอย่างที่เห็นใจทุกวันนี้เป็นฝีมือของผู้พัน วิลเลียม ไลท์ (William Light) ปัจจุบันอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระนาง อยู่กลางจตุรัสกลางเมืองชื่อ “จัตุรัสวิคตอเรีย” (Victoria Square)

ย่านธุรกิจกลางเมือง (CBD) ไม่ได้มีตึกสูง ๆ มากมาย และรถราขวักไขว่เหมือนย่านธุรกิจของเมืองใหญ่อื่น ๆ อย่างซิดนีย์ และเมลเบิร์น ย่าน CBD จะผสานกับจตุรัสVictoria Square ดังกล่าวซึ่งเป็นสนามหญ้าสีเขียวสวยงามพื้นที่กว้างขวาง ใช้เป็นที่กิจกรรมต่าง ๆ ในโอกาสสำคัญ รอบ ๆ จตุรัสมีอาคารที่เป็นที่ทำการหรือสถาบันสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบของตึกทันสมัยและตึกรูปทรงแบบโคโลเนียล หนึ่งในจำนวนนั้นคือ The University of Adelaide มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ 113 ของโลก และอันดับที่ 7 ของประเทศออสเตรเลีย

แหล่งช้อปปิ้งสำคัญอยู่กลางเมืองเรียกว่าย่านรันเดิล มอลล์ (Rundle Mall) เป็นถนนคนเดิน หัวมุมถนนมีร้านไฮจ์ ช็อกโกแลต (Haigh’s chocolates) ที่เขาบอกว่าเป็นโรงงานช็อกโกแลตแห่งสุดท้ายในโลกที่ยังทำด้วยมือ มีโรงงานอยู่ที่ถนน Greenhill ไปชมและชิมได้ ตรงกลางถนน Rundle Mall หน้าห้างเดวิด โจนส์ (David Jones) มีโลหะลูกกลม ๆ สีเงิน 2 ลูกซ้อนกันอยู่เหมือนแลนด์มาร์คให้คนไปถ่ายรูปแล้วเชกอินได้ทันที

ไวไฟของที่นี่ชื่อ Adelaidefree สัญญาณแรงมากและใช้ฟรีเปิดเข้าไปใช้ได้เลย ไม่ต้องกรอกข้อมูลใด ๆ ใกล้ ๆ ก้อนโลหะมีฝูงหมู 3-4 ตัว อยู่ในอิริยาบถต่าง ๆ หมูพวกนี้มีชื่อด้วย เมื่อครั้งที่มีไข้หวัดหมูระบาด มีคนเอาผ้าไปปิดปากปิดจมูกหมูพวกนี้เป็นที่ฮือฮาและเฮฮา

สองข้างทาง Rundle เต็มไปด้วยห้างร้านรวงต่าง ๆ ตกแต่งงดงามผสานทั้งเก่าและใหม่ที่ดัง ๆ คือ Rundle และ David Jones คนไม่เยอะ ไม่แออัดพลุกพล่านเหมือนในซิดนีย์และเมลเบิร์น แต่ของที่คนไทยชื่นชอบก็มีครบ เช่น ครีมรกแกะ วิตามิน ฯลฯ ตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารและบาร์ให้เลือกหลายบรรยากาศ มีร้านแนะนำ เช่น ร้าน Maybe Mae เป็นสไตล์บาร์เครื่องดื่มนานาชนิด อาหารเบา ๆ  Gaucho’s Adelaide สเต็กสไตล์อาร์เจนตินาชื่อดัง และร้าน Sean’s Kitchen อยู่ตึกเดียวกันแอดิเลด กาสิโน แต่ถ้าเร่งรีบหรือหิวเฉพาะหน้าสามารถพึ่งหา Hungry Jack’s ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังของออสเตรเลีย ซึ่งเป็น Exclusive Franchise ของ Burger King สำหรับออสเตรเลียโดยเฉพาะ เอาชื่อมาจากเจ้าของคือ Jack Cowin ปัจจุบันมีกว่า 390 สาขา

ฮาห์นดอร์ฟ” (Hahndorf) อีกแห่งหนึ่งที่เมื่อไปแอดิเลดผมต้องแวะไปทุกครั้งเพื่อจิบเบียร์กินอาหารเยอรมัน พูดคุยกับคนเยอรมันรุ่นเก่า ๆ ผมมีเพื่อนรุ่นพ่ออยู่ที่นี่หลายคน ชอบฟังพวกเขาเล่าตอนที่อพยพมาอยู่แอดิเลดเมื่อ 60-60 ปีที่แล้ว บางคนยังใช้ศัพท์ภาษาเยอรมันดั้งเดิม ส่วนผมก็ร้างราภาษาดอยทช์ไปกว่ายี่สิบปี แต่เหนือสิ่งอื่นใดแค่ทักทาย Guten abend… Wie geht es ihnen ? กอดกัน ก็มีความสุขแล้ว คนเก่าคนแก่ทั่วโลกน่ารักเสมอ….!!!

Hahndorf หรือ Hahn’s village หมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ที่แอดิเลด ฮิลล์ (Adelaide Hills) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กม. เป็นชุมชนเยอรมันเก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย ชาวเยอรมัน 187 คน หรือ 37 ครอบครัว อพยพมาอยู่ที่นี่เมื่อประมาณปี 1838 โดยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแด่เดิร์ก ฮาห์น (Dirk Hahn) กัปตันที่เรือที่พาผู้อพยพมาขึ้นฝั่งและได้พื้นที่นี้ ปัจจุบันสถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนียม และอาหาร ฯลฯ ยังคงความเป็นเยอรมัน ใกล้ๆ กับ Hahndorf เป็นที่ตั้งของสวนสัตว์เปิด Cleland Wildlife Park ที่เปิดให้ผู้เข้าชมสามารถป้อนอาหารให้แก่จิงโจ้และอุ้มโคอาลาได้อย่างใกล้ชิด

อีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบคือ “ตลาด” ไปที่ไหนก็ตามต้องขอชมตลาด เพราะตลาดคือความจริงของประเทศนั้น ๆ ตลาดกลาง แอดิเลด (Adelaide Central Market) อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกด้านหน้ามีสถานีรถบัส เปิดมากว่า 140 ปี เป็นแหล่งรวมผักผลไม้สดใหม่ตามฤดูกาลที่ส่วนใหญ่ปลอดสาร เนื้อสัตว์คุณภาพเยี่ยม อาหารป่า ซีฟู้ด น้ำมันมะกอก ชีส ไวน์ ฯลฯ มีทั้งจากเกษตรกรทั่วรัฐเซาท์ ออสเตรเลียและรัฐอื่น ๆ มีแผงขายของกว่า 80 แผง บางแผงขายกันตั้งแต่รุ่นปูย่าตายาย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมเสริมต่าง ๆ เช่น มีเชฟมาสาธิตและแนะนำการทำอาหาร พร้อมทั้งเรียนการทำอาหารทั้งเอเชียและเจ้าถิ่น สลับกับเสียงดนตรีสด ๆ และเสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนโหวกเหวกขายสินค้าพิเศษของตัวเอง สนุกสนานและได้บรรยากาศของตลาดจริง ๆ

ธุรกิจที่คนไทยเกี่ยวข้องกับแอดิแลดและรัฐเซาท์ ออสเตรเลียมากที่สุดคือไวน์ เพราะรัฐนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น “เมืองหลวงแห่งไวน์ของออสเตรเลีย(Australia’s Wine Capital) เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นอีกหนึ่งสมญานามที่ชาวแอดิเลดภาคภูมิใจมาก แหล่งผลิตไวน์ชื่อดังที่คอไวน์บ้านเราคุ้นกันดี เช่น บารอสซา (Barossa) แม็คลาเรน (McLaren) ฯลฯ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ขณะที่ไวน์ดัง ๆ เพนโฟลด์ (Penfolds) และวูล์ฟ บลาสส์ (Wolf Blass) ซึ่งไปคราวนี้บริษัท Treasury Wine Estates เจ้าของไวน์ทั้ง 2 ยี่ห้อชวนผมไปชิมหลายรุ่น ท่านที่ยังไม่เคยไป อุ่นเครื่องหาชิมในเมืองไทยก่อนก็ได้มีขายหลายรุ่น

“แอดิเลด”…..เมือง 20นาที,เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก และเมืองที่น่าไปเยือนมากที่สุด….ไม่เกินความจริง !!!Victoria Square ครับ เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง Rundle Mall Feeling คล้าย Queen Street Mall ที่บริสเบน Central Market อาคารรัฐสภา อนุสาวรีย์พระราชินีวิคตอเรีย หนึ่งในหมูที่ Rundle Mall หน้าร้านชอกโกแลต Haigh ไวน์วูล์ฟ บลาสส์คุณภาพสูง ไวน์เพนโฟลด์ราคาแพง ไวน์กับอาหารเป็นเสน่ห์ของแอดิเลด วูล์ฟ บลาสส์ ไวน์ที่ควรไปชมและชิม ลูกโลหะกลางรันเดิล สตรีท ร้าน Sean’s Kitchen ร้าน Gaucho’s รันเดิลสตรีท เมนูปลาที่ร้าน Gaucho’s ม.แอดิเลด ผักนานาชนิดใน Central Market ผลไม้นานาชนิดใน Central Market เบอร์เกอร์ชื่อดัง นักดนตรีที่ Rundle Mall ไชนา ทาวน์ แกะตุ๋นร้าน Sean’s Kitchen

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...