“กัมเบโอ รอสโซ” (Gambero Rosso) เป็นชื่อของนิตยสารเกี่ยวกับอาหารและไวน์ของอิตาลี ก่อตั้งในปี 1986 หมายถึง “กุ้งแดง” สัญลักษณ์จึงเป็นรูปกุ้งสีแดง (Red prawn) เดิมมี 8 หน้าแทรกอยู่ในหนังสือพิมพ์ il manifesto หนังสือพิมพ์ภาษาอิตาลีในกรุงโรม พิมพ์ครั้งแรกวันที่ 16 ธันวาคม 1986 จากนั้นปี 1987 Gambero Rosso จึงได้ออกหนังสือแนะนำไวน์อิตาลีชื่อ “Vini d’Italia” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีการพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ “Italian Wines” และปี 2017 นี้อายุครบ 30 ปีพอดี
ปี 1990 จึงมีการพิมพ์แนะนำร้านอาหารอิตาเลียน และปี 1992 Gambero Rosso ก็ถูกผนวกเข้าในเครือ Gruppo Espresso ในฐานะนิตยสารรายเดือน จากนั้นปี 1999 มีการขยายธุรกิจด้านทีวี.ชื่อ Gambero Rosso Channel ร่วมกับ Rai Sat หลังจากเดือนกรกฎาคม 2009 เป็นต้นมา Gambero Rosso Channel ย้ายมาออกอากาศที่ Sky Italia ช่อง 411
ปี 2002 มีการเปิด “Gambero Rosso’s Città del gusto” หรือ City of taste ในกรุงโรม ในพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ภายในประกอบด้วยสทิวดีโอ เพื่อผลิตรายการทาง ทีวี.,โรงเรียนสอนทำอาหาร,บาร์ และกิจกรรมอื่น ๆ ในอิตาลีจะมี Città del gusto ใน 4 เมืองคือโรม,เนเปิ้ล,คาทาเนีย และปาแลร์โม
หลังจากปี 2012 เป็นต้นมา Gambero Rosso เริ่มทำสื่อดิจิทัล เช่น
Vini d’Italia และ Ristoranti d’Italia รวมทั้งแอพส์ (Apps) สำหรับ iPhone, Samsung Apps,Google Play, Amazon Appstore และ Windows 8 เรียกว่าครบวงจรเลยทีเดียว
ทางด้านการให้เรตติ้งไวน์ใน Vini d’Italia ทาง Gambero Rosso ใช้วิธีการให้จำนวนแก้ว (Bicchieri) โดยใส่ไว้หลังชื่อไวน์ สูงสุดคือ 3 แก้ว หมายถึงยอดเยี่ยมที่สุด (Extraordinary) รองลงมาคือ 2 แก้ว หมายถึงดีมาก (Very good) และสุดท้าย 1 แก้ว หมายถึง ดี (Good) คะแนนเหล่านี้ได้มาจากการชิมแบบ Blind tasting ของนักชิมและผู้เชี่ยวชาญไวน์อิสระ โดย Vini d’Italia มีการพิมพ์เป็น 3 ภาษาคืออิตาลี อังกฤษ และเยอรมัน
ในโอกาสครบรอบ 30 ปีของ Vini d’Italia เมื่อเร็ว ๆ “Italian Signature Wines Academy” (ISWA) ซึ่งมีหน้าที่ในการเผยแพร่วัฒนธรรมไวน์ของอิตาลี จึงได้จัดกิจกรรมในเมืองไทยเป็นครั้งแรกที่ โรงแรม มิวส์ กรุงเทพ (Hotel Muse Bangkok) โดยการคัดเลือกไวน์จาก 7 ผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของอิตาลีมาให้ชิม พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญแนะนำและให้ข้อมูล พร้อมจับคู่กับอาหาร
วิลลา ซัลดี โปรเซกโก วัลดอบบิอาเดเน ซูเปริโอเร ดีโอซีจี บรุต มิลเลซิมาโต 2015 (Villa Sandi Prosecco Valdobbiadene Superiore DOCG Brut Millesimato 2015) : เริ่มจากไวน์ฟองชื่อดังของแคว้นเวเนโต (Veneto) ทางอีสานของอิตาลี Villa Sandi ก่อตั้งในปี 1622 โดยครอบครัว Moretti Polegato เป็นหนึ่งในผู้ผลิตโปรเซกโกคุณภาพเยี่ยม…สีเหลืองทอง หอมกรุ่นด้วยดอกไม้ ยีสต์ แอปเปิ้ล แฟชั่นฟรุต แอซสิดดีมาก ดื่มแล้วสดชื่น
ฟีอูดี ดี ซาน เกรโกริโอ เกรโก ดี ตูโฟ ดีโอซีจี 2015 (Feudi di San Gregorio Greco di Tufo DOCG 2015) : ไวน์ขาวจากองุ่นเกรโก (Greco) ที่ผู้ผลิตไวน์ในแคว้นกัมปาเนีย (Campania) ทางใต้ของอิตาลี ใช้ผลิตไวน์ขาวเกรด DOCG ภายใต้ชื่อ Greco di Tufo ตัวนี้หมักในถังสแตนเลสและบ่มอีก 4 เดือนในถังสแตนเลสพร้อมกากยีสต์ หอมกลิ่นขนมปัง แอปริคอต แพชั่นฟรุต มิเนอรัล สไปซี บัลซามิกกรุ่น ๆ แอซสิดปานกลาง จบด้วยผลไม้และมิเนอรัล
ปลาเนตา เอทนะ รอสโซ ดีโอซี 2014 (Planeta Etna Rosso DOC 2014) : ขยับลงใต้ไปอีกที่เกาะซิซิลี (Sicilia) : Planeta เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของซิซิลี ทำจากองุ่นเนเรลโล มัสคาเลเซ (Nerello Mascalese) ซึ่งปลูกได้ดีในดินที่มีส่วนผสมของเถ้าและลาวาภูเขาไฟอย่าง Etna หมักและบ่มถังในถังสแตนเลสและถังไม้ สีแดงสดใส หมอกลิ่นผลไม้ เช่น เบอร์รี เชอร์รี และสตรอว์เบอร์รีกรุ่น ๆ ขนมตาร์ท ดอกไม้ วานิลลา แบล็คเปปเปอร์ สไปซี แอซสิดดีมากดื่มแล้วสดชื่น จบด้วยผลไม้และสไปซีเป็นไวน์ที่มีขายในเมืองไทยน้อยมาก
มาร์เคซี เด เฟรสโกบัลดี มอร์มอเรโต ไอจีที 2011 (Marchesi de’Frescobaldi Mormoreto Toscana IGT 2011) : Mormoreto เป็นชื่อของไร่องุ่นเป็นหนึ่งในไวน์ที่ยิ่งใหญ่ของเฟรสโกบัลดี ผลิตวินเทจแรก 1983 หลังจากนั้นผลิตเฉพาะวินเทจดี ๆ เท่านั้น ที่สำคัญเป็นไวน์อิตาลีที่ไม่มีองุ่นอิตาลีเลยเพราะทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet sauvignon) 64%, กาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 26%,เปติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 5% และแมร์โลต์ (Merlot) 5% ….สีแดงเข้ม หอมผลไม้ เช่น แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี เรซิน ยาสูบ เห็ด ไอโอดีนกรุ่น ๆ บัลซามิก ยูคาลิปตัส มินต์ กลิ่นสาบสางของป่า แทนนินหนักแน่นแต่หวานนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้สุก ไอโอดีน บัลซามิก และเฮิร์บชุ่มคอ….18.5/20 คะแนน
ฟอนตานาเฟรดดา บารโรโล วิญา ลา โรซา ดีโอซีจี 2011 (Fontanafredda Barolo Vigna la Rosa DOCG 2011) : หนึ่งในผู้ผลิตไวน์ระดับคุณภาพ องุ่นเนบบิโอโล (Nebbiolo) จากไร่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 300 เมตร หมักในถังไม้โอคขนาดใหญ่ ก่อนจะถ่ายไปบ่มในโอคเล็กประมาณ 12 เดือน ตกตะกอนด้วยไข่ขาว บรรจุขวดแล้วปล่อยในจำศีลอยู่ในเซลลาร์ 1 ปี …สีแดงค่อนข้างเข้ม วินเทจดูเก่าแต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างเต็มที่นัก แต่มีกลิ่นหอมผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี และเชอร์รี เป็นไวน์ที่มีกลิ่นดอกไม้โดดเด่น เช่นกุหลาบ และไวโอเลต ยาสูบ วานิลลา มิเนอรัล แอซสิดยังดีมาก จบยาวด้วยผลไม้และเฮิร์บชุ่มคอชื่นใจ
อาร์นัลโด คาปราอิ มอนเตฟัลโก ซากรานติโน 25 อันนี 2007 (Arnaldo Caprai Montefalco Sagrantino 25 Anni 2007) : เป็นวินเทจครบรอบ 25 ปี Arnaldo Caprai ผู้ผลิตคลาสสิค ไวน์แห่งแคว้นอุมเบรีย (Umbria) ทำจากองุ่นซานกรานติโน (Sagrantino) 100% บ่มในถังโอคฝรั่งเศส 24 เดือน บ่มต่อในขวดอีก 6 เดือน…สีแดง มีกลิ่นหอมผลไม้สุก ๆ นำหน้า เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี และพรุน ตามด้วยเปปเปอร์ จันทน์เทศ ยางสน มินต์ โกโก กานพลู แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้และเฮิร์บ ผลิตเพียง 40,000 ขวด
อัลเลกรีนี อมาโรเน เดลลา วัลโปลิเซลลา กลาสสิโก ดีโอซีจี 2012 (Allegrini Amarone della Valpolicella Classico DOCG 2012) : ชื่อเสียงของ Allegrini แทบไม่ต้องพูดถึง เป็นที่รู้จักกันดีและประกันคุณภาพอยู่แล้ว ตัวนี้ทำจากคอร์วีนา เวโรเนเซ (Corvina Veronese) 90 %,รอนดิเนลลา (Rondinella) และมอลินารา (Molinara) อย่างละ 5 % ผึ่งลมให้แห้งประมาณ 3-4 เดือนก่อนจะนำมาบีบน้ำ หลังจากผ่านกระบวนการหมักแล้วบ่มในถังโอค 18 เดือน เป็นไวน์ที่ก่อนดื่มต้องเปิดไว้ล่วงหน้าหลายชั่วโมง ….สีแดงเข้มปึ๊ก ดมครั้งแรกได้กลิ่นลูกเกดชัดเจนที่สุด ตามด้วยผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี เชอร์รี พลัม สไปซี พร้อมด้วยมิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ แทนนินนุ่มเนียน แอซสิดเยี่ยมมากดื่มแล้วไม่เลียน จบยาวเนิ่นนานด้วยผลไม้สุกหอมหวานยังค่อนข้างดิบและไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
“30 ปีของ Vini d’Italia” ยังคงก้าวไกล เหมือนไวน์อิตาลีที่ผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี…Zalute !!!