“From an encounter between two persons, everything begins”
ภาษิตญี่ปุ่นว่าเอาไว้อย่างนั้น และน่าจะนำมาใช้กับไวน์ “ลูเช” (Luce) ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการจับมือระหว่างผู้ผลิตไวน์ชื่อดังจาก 2 ทวีป “มาร์เคซี เดอ เฟรสโคบัลดี” (Marchesi De Frescobaldi) หรือ “เฟรสโคบัลดี” (Frescobaldi) แห่งอิตาลี ที่ทำไวน์มากว่า 700 ปี ในแคว้นทัสกานี (Tuscany) กับโรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) เจ้าพ่อไวน์นาปา แวลลีย์ ก่อตั้งบริษัท เตนูตา ลูเช เดลลา วีเต (Tenuta Luce della Vite)
ตอนที่แล้วเป็นเรื่องราวของวินเทจ 2012 ฉลองครบรอบ 20 ปีของการผลิตไวน์ Luce เปิดตัวที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่ง ลัมแบร์โต เฟรสโกบัลดี (Lamberto Frescobaldi) ประธานของบริษัท Marchesi De Frescobaldi คนปัจจุบัน เดินทางมาแนะนำ พร้อมจัดชิมไวน์ Luce อีกหลายวินเทจ รวมทั้งวินเทจทดลอง 1993 และ 1994 พร้อมวินเทจ 1995 ซึ่งเป็นวินเทจแรกที่ 2 ผู้ยิ่งใหญ่จับมือกันอย่างเป็นทางการ ทั้งหมดนั้นผมรายงานไปเมื่อวัยเสาร์ที่แล้ว เพื่อให้ต่อเนื่องกันครั้งนี้จะเป็น Luce ที่ชิมในวันนั้น
ก่อนชิมผมถาม Lamberto Frescobaldi ว่า…อยากจะให้ยืนยันตัวตนที่แท้จริง ของวินเทจ 2012 ฉลองครบรอบ 20 ปีอย่างไร ? เขาบอกว่าเป็นวินเทจที่ “Elegance and force,stunning aromatic complexity” ซึ่งเป็นคำจำกัดความที่ชัดเจนของไวน์ที่ยิ่งใหญ่ อีกคำถามหนึ่งสำหรับคนรัก Merlot โดยเฉพาะ ..”มีความคิดจะเอากาแบร์เนต์ โซวีญยอง มาเป็นส่วนผสมของลูเชหรือไม่ ?”…นายใหญ่ของลูเชตอบทันที “ไม่ เด็ดขาด เพราะแมร์โลต์ของเรายอดเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมาเติมแต่ง” แฟน ๆ แมร์โลต์สบายใจได้
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 1999 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 1999) วินเทจนี้ Sangiovese เก็บสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน บ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศส 66 % เป็นโอคใหม่ อีก 33 % เป็นโอคใช้แล้วและถังโอคสลาโวเนียนขนาดใหญ่ ปล่อยให้สงบนิ่งในขวดอีก 18 เดือน ผลิต 120,000 ขวด
สีแดงขอบบราวน์แกมส้มนิด ๆ หอมกลิ่นผลไม้เปลือกดำสุก หวาน ๆ เช่น พลัม แบล็คเบอร์รี พรุน และบลูเบอร์รี ตามด้วยหนังสัตว์ ใบยาสูบ อบเชย ชะเอมเทศ กานพลู วานิลลา แทนนินนุ่มเนียน แอซสิดปานกลาง จบค่อนข้างยาวด้วยผลไม้สุกฉ่ำและเฮิร์บชุ่มคอ……….88/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2000 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2000) วินเทจนี้ Sangiovese เก็บสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน บ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศส 90 % เป็นโอคใหม่ อีก 10 % เป็นโอคใช้แล้ว และบ่มในถังโอคสลาโวเนียนขนาดใหญ่อีก 6 เดือน ปล่อยให้สงบนิ่งในขวดอีก 18 เดือน ผลิต 130,000 ขวด
สีแดงเข้ม ดมครั้งแรกได้กลิ่นซีดาร์ ตามด้วยกลิ่นผลไม้สุกหอมหวาน เช่น พลัม แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี และสตรอว์เบอร์รี แถมยังได้กลิ่นพุทราจีนเชื่อมกรุ่น ๆ กาแฟคั่ว มิเนอรัล สไปซี กานพลูและโป๊ยกั๊ก มีกลิ่นยาสูบกรุ่น ๆ แทนนินหนักแน่นแต่เริ่มนุ่ม แอซสิดยอดเยี่ยมมาก จบยาวด้วยผลไม้สุก เฮิร์บ และซีดาร์ ดื่มตอนนี้ก็ได้ หรือเก็บอีกสัก 2-3 ปีค่อยเปิดดื่มจะได้อรรถรสที่ดีกว่านี้….91/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2002 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2002)วินเทจนี้ Merlot เก็บสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน ส่วน Sangiovese เก็บสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน บ่ม 24 เดือนโอคฝรั่งเศสล้วน โดยบ่มในถังบาริกใหม่ 90 % อีก 10 % เป็นโอคใช้แล้ว จากนั้นถ่ายไปบ่มในถังโอคขนาดใหญ่อีก 1 เดือน ผลิต 8,000 ขวด
สีแดงเข้มสดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี เชอร์รี พลัม และราสพ์เบอร์รี พร้อมทั้งสไปซีชะเอมเทศและกานพลู ดอกไม้แห้ง ๆ ตัวนี้แปลกมีกลิ่นโกโก้ และบาซามิกติดจมูกยาวนาน แทนนินแน่นและเนียน แอซสิดปานกลาง จบยาวด้วยผลสุก ซีดาร์ และมิเนอรัล สามารถดื่มตอนนี้ก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดีอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะอร่อยกว่านี้…….93/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2003 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2003) วินเทจนี้เก็บ Sangiovese สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน บ่ม 24 เดือนในบาริกฝรั่งเศส โดย 90 % เป็นโอคใหม่ อีก 10 % เป็นโอคที่ผ่านการใช้มาครั้งเดียว ผลิตเพียง 48,000 ขวด
สีแดงเข้มสดใส มีกลิ่นหอมของผลไม้สุกหวาน ๆ ชื่นใจ เช่น เชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี และพลัม ตัวนี้ค่อนข้างมีหนังสัตว์โดดเด่นเป็นพิเศษ สไปซีอบเชยและจันทร์เทศ เมนธอลซ่า ๆ โกโก้ กาแฟ ชอกโกแลต แทนนินหนักแน่นส่อแววเริ่มนุ่มนวล แอซสิดยังค่อนข้างสูง จบยาวด้วยเฮิร์บและผลไม้สุก เป็นวินเทจที่น่าเก็บสะสม……95/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2004 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2004) วินเทจนี้เก็บ Merlot สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน ส่วน Sangiovese เก็บสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม บ่ม 24 เดือนโอคบาริกฝรั่งเศสใหม่ 90 % ล้วน อีก 10 % เป็นโอคใช้แล้วครั้งเดียว ผลิต 53,000 ขวด
สีแดงเข้มสดใส กลิ่นแรกที่เตะจมูกคือควันไฟจากโอค ตามด้วยกลิ่นหอมผลไม้สุกปนห่าม ๆ เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี และพลัม ที่พิเศษคือมีกลิ่นดอกไม้กรุ่น ๆ ตั้งแต่แรกดมจนหมดแก้ว มินต์ซ่า ๆ ปนสไปซีเหมือนกระชาย วานิลลา กาแฟ สไปซี อบเชย กานพลู วานิลลา แทนนินหนักแน่น แอซสิดปานกลาง จบยาวด้วยมิเนอรัล ผลไม้ และสไปซี น่าจะดื่มอร่อยในอีก 3-4 ปีข้างหน้า…….92/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2006 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2006) วินเทจนี้เก็บ Sangiovese สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน บ่ม 18 เดือนในบาริกฝรั่งเศสใหม่ 100 % ผลิต100,000 ขวด
สีแดงเข้มขอบม่วงนิด ๆ หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี พลัม แบล็คเบอร์รี และมีบลูเบอร์รีแทรกมาบางจังหวะ ตามด้วยควันไฟ วานิลลา บาซามิก กาแฟ ชอกโกแลต ยาสูบ สไปซี่โอค ไส้ดินสอ แทนนินยังแน่นเป็นมัด ๆ แอซสิดค่อนข้างสูง จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล และเฮิร์บ ใครที่มีอยู่ในครอบครองถือว่ามีเพชรสีม่วงคุณภาพและราคาสูง และอีก 2-3 ปีค่อยเปิด แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะอร่อย ควรรออีกสัก 5-6 ปีเป็นอย่างน้อย…..96/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2008 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2008) วินเทจนี้เก็บ Sangiovese สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน บ่ม 24 เดือนในบาริกฝรั่งเศสใหม่ 90 % ส่วนอีก 10 % เป็นโอคที่ใช้แล้วหนึ่งครั้ง ผลิต 75,000 ขวด
เป็นวินเทจที่แปลกว่าทุกวินเทจคือมีกลิ่นทรัฟเฟิลหอมกรุ่น ตามด้วยกลิ่นผลไม้สุก ๆ เช่น แบล็คเชอร์รี แบล็คเบอร์รี พลัม และบลูเบอร์รี นอกจากนั้นมิเนอรัลยังค่อนข้างสูง ไส้ดินสอ กาแฟคั่ว ชอกโกแลต ยาสูบ หนังสัตว์ สไปซี อบเชย กานพลู มินต์ แทนนินหนักแน่น แอซสิดค่อนข้างสูง จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล เป็นวินเทจที่สามารถดื่มได้เร็วกว่า 2006…….90/100 คะแนน
ลูเช เดลลา วีเต ไอจีที ทอสกานา “ลูเช” 2011 (Luce della Vite IGT Toscana “Luce” 2011) วินเทจนี้เก็บ Sangiovese สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน ส่วน Merlot เก็บสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม บ่ม 24 เดือนในบาริกฝรั่งเศสใหม่ 100 % ผลิต 67,000 ขวด
สีแดงเข้มแกมม่วงเป็นประกายสดใส เป็นวินเทจที่ดมครั้งแรกมีกลิ่นดอกไม้โชยมาเตะจมูก ทั้งดอกไม้แห้งและดอกไม้สด โดยเฉพาะไวโอเลต ผสานกับกลิ่นหอมผลไม้สุก เช่น แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม ราสพ์เบอร์รี และแบล็คเบอร์รี มอคคา วานิลลา สไปซีเฮิร์บ อบเชย และจันทร์เทศ มินต์ซ่า ๆ มิเนอรัล แทนนินแน่นแต่นุ่มเนียน จบยาวด้วยมิเนอรัล ผลไม้ และเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ น่าจะพร้อมดื่มในอีกประมาณ 5-6 ปีข้างหน้า……92/100 คะแนน
นั่นคือ Luce 8 วินเทจจากการได้ชิมครั้งล่าสุดที่เสียมราฐ ไม่รวม 1993 1994 1995 และ 2012 ครบโหลพอดี ซึ่งคนกัมพูชาบอกผมว่า..เป็นการชิม Luce ครั้งมโหฬารที่สุด…ก็จริงของเขา เพราะแม้แต่เมืองไทยก็ยังไม่มีแบบนี้ !!!