ปี 1986 เดวิดและมาร์ค เมสัน (David & Mark Mason) 2 พี่น้องเจ้าของฟาร์ม พร้อมด้วยโทนี บิช (Tony Bish) ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและไวน์เมกเกอร์ยอดฝีมือคนหนึ่งของนิว ซีแลนด์ นั่งจับเข่าคุยกันว่าอยากจะผลิตไวน์ระดับคุณภาพที่ดื่มง่าย ๆ สามารถดื่มกับครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมทั้งดื่มกับอาหารได้หลากหลาย
หลังจากนั้นไวน์ “เซคริด ฮิลล์” (Sacred Hill) จึงเกิดขึ้น ณ ปูเกตาปู (Puketapu) ซึ่งในภาษาเมารี (Maori) หมายถึงเนินเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ใกล้กับที่ดินของตระกูล (Mason) เรียกกันว่า “ดาร์ทมัวร์ แวลลีย์” (Dartmoor Valley) ซึ่งมีดินสีขาวที่เกิดจากภูเขาไปและหินกรวด และอยู่ในเขตฮอว์ค เบย์ (Hawke’s Bay) เขตผลิตไวน์ชื่อดังทางตะวันออกของเกาะเหนือ และมีไร่องุ่นอยู่ในหลายพื้นที่
Hawke’s Bay เป็นเขตที่อากาศอบอุ่น เหมาะสำหรับปลูกองุ่น Chardonnay, Syrah และองุ่นที่ใช้ทำไวน์บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux blend) ขณะที่ Gimblett Gravels ซึ่งเป็นเขตย่อยมีชื่อเสียงโด่งดังในการปลูกองุ่นที่ใช้ทำไวน์แดง โดยไร่ Deerstalker ของตระกูลอยู่ที่นี่ปลูก Merlot,Cabernet Franc,Cabernet Sauvignon, Malbec และ Syrah เพื่อทำไวน์ 3 รุ่นคือ Helmsman, Deerstalkers และBrokenstone
Dartmoor vineyard เป็นไร่องุ่นดั้งเดิมของตระกูล ตั้งอยู่ในบริเวณร่องน้ำสายใหญ่ที่เป็นหิน ซึ่งมีดินที่ผสมผสานกันทั้งดินโคลน ตะกอนแม่น้ำ เนินเขาหินปูน หินกรวดจากแม่น้ำ ทำให้สามารถผลิตไวน์คุณภาพยอดเยี่ยม โดยปลูกองุ่นที่ใช้ทำไวน์ขาวเป็นหลักคือ Chardonnay และ Sauvignon Blanc
ขณะที่ Rifleman’s Vineyard อยู่ริมแม่น้ำตูตากูริ (Tutaekuri) มีดินที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟทับถมกันมานานกว่า 10,000 ปี ผสมผสานกับแร่ธาตุสีแดงและดินปูน มีพื้นที่ประมาณ 5 เฮกตาร์ ปลูกองุ่น Chardonnay โคลน Mendoza ที่มีอายุกว่า 22 ปี เป็นหนึ่งใน Chardonnay ที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยม
ส่วนในเขต Marlborough ตอนบนของเกาะใต้ แผ่นดินทองของการผลิตไวน์ของนิวซีแลนด์ ตระกูลนี้ก็มีไร่ Hell’s Gate อยู่ที่ Waihopai Valley ใกล้ ๆ กับ Omaka River ซึ่งเป็นดินผสมหินและได้ความเย็นจากแม่น้ำดังกล่าว ปลูก Sauvignon Blanc, Pinot Gris และ Pinot Noir
เมื่อเร็ว ๆ นี้นายเดล ไรจ์ (Dale Whight) ในฐานะ Fine Wine Director ของ Sacred Hill Vineyards เดินทางมาเมืองไทยเป็นครั้งแรกตามคำเชิญของบริษัท บางกอก ลิคเคอร์ จำกัด ผู้นำเข้า เพื่อแนะนำไวน์ Sacred Hill พร้อมดินเนอร์มื้อพิเศษที่ห้องอาหาร 22 Kitchen & Bar โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นอาหารสไตล์เปรู (Peruvian) ที่ควรไปลิ้มลองอย่างยิ่ง โดยมีไวน์และอาหารที่จับคู่กันดังนี้
เซคริด ฮิลล์ ฮาโล มาร์ลโบโรจ์ โซวีญยอง บลัง 2015 (Sacred Hill Marlborough Halo Sauvignon Blanc 2015) : โซวีญยอง บลัง จากเขตดังของนิว ซีแลนด์ คือ Marlborough เป็นไวน์สไตล์ดื่มง่าย ๆ กลิ่นผลไม้ไม่ฉูดฉาดเหมือนหลาย ๆ ยี่ห้อจากเขตเดียวกัน สีเหลืองทองอ่อน ๆ สดใส หอมกลิ่น แพชชั่น ฟรุต กูสเบอร์รี ส้มเขียวหวาน และที่ขาดไม่ได้เพราะถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Sauvignon Blanc โลกใหม่คือกลิ่นฝรั่งสุก ตามด้วยดอกไม้ แอซสิดกำลังพอดีดื่มอร่อยสดชื่น จบด้วยผลไม้และดอกไม้
เสิร์ฟกับ Peruvian Ceviche : Sea bass “tiger’s milk” sauce,lemonglass marinated calamari “เซบิเช” เป็นอาหารสไตล์เปรู เป็นซีฟู้ดที่ทำให้สุก ด้วยการบีบมะนาวลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและพริก คล้ายๆ กับการทำลาบ ก้อย หรือกุ้งเต้น ของคนไทย จานนี้เป็นเนื้อปลากะพง และซอสไทเกอร์ มิลค์ สูตรของที่นี่ เนื้อปลาและเครื่องปรุงหนักไปหน่อยสำหรับโซวีญยอง บลัง ลองเอาชาร์โดห์เนย์มาจับคู่ด้วยสูสีดีกว่า
เซคริด ฮิลล์ ฮอว์ค เบย์ “เวอร์จิน” ชาร์โดห์เนย์ 2014 (Sacred Hill Hawke’s Bay Virgin Chardonnay 2014) : เป็นชาร์โดห์เนย์ที่ Sacred Hill คิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อฉลองครบรอบการผลิตเป็นปีที่ 25 ในวินเทจ 2011 ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าเป็นชาร์โดห์เนย์สไตล์ใหม่ของนิว ซีแลนด์ องุ่นมาจากไร่ใน Rifleman Terraces ใน Hawke’s Bay บ่มสแตนเลสล้วน ๆ ไม่บ่มโอค ทำให้ได้รสชาติของชาร์โดห์เนย์ของ Hawke’s Bay เต็มที่ ที่ตั้งชื่อว่า Virgin Chardonnay เพราะเป็นน้ำแรกที่บีบมาจากของชาร์โดห์เนย์ สีเหลืองทองสดใส หอมกลิ่นดอกไม้ และกลิ่นอายของทะเล ตามด้วยกลิ่นผลไม้ เช่น ซีทรัส แอปเปิ้ลเขียว
เสิร์ฟกับ 22 Caesar Salad : Baby romaine hearts,Hawaiian style pulled pork,parmesan cheese tomato saseme relish,creamy anchovy dressing ซีซาร์สลัดสไตล์ 22 Kitchen & Bar เสียดายที่ชาร์โดห์เนย์ตัวนี้ไม่มีโอค ถ้ามีสักหน่อยจะเข้ากันได้ดีมาก แต่ก็มีวิธีแก้คือเวลากินต้องห่อเครื่องปรุงด้วยผัก จะเข้ากับไวน์ได้ดีพอสมควร
เซคริด ฮิลล์ “ฮาโล” มาร์ลโบโรจ์ ปิโนต์ นัวร์ 2015 (Sacred Hill Halo Marlborough Pinot Noir 2015) : ตั้งชื่อตามรัศมีบนโลโก้ของ Sacred Hill เป็นปิโนต์ นัวร์ระดับคุณภาพ ในสไตล์ถนัดของนิวซีแลนด์คือผลไม้นำตามด้วยความสดชื่น ทำให้สามารถดื่มได้ทุกวัน และดื่มกับอาหารได้หลากหลาย…สีแดงทับทิมสดใส หอมกลิ่นผลไม้ เช่น เรดเบอร์รี สตรอร์เบอร์รี แบล็คเชอร์รี พีช วานิลลา ซีดาร์ สไปซีโอค จาการที่บ่มในถังโอคฝรั่งเศส 12 เดือน แอซสิดกำลังดี จบยาวด้วยผลไม้สุกและสไปซี
จับคู่กับ Grilled Opaka paka – short tail pink Snapper : Homemade black truffle tofu,gingered baby broccoli Chinese sausage,shitake mushroom,peanut oil…เป็นอีกหนึ่งปิโนต์ นัวร์ที่สามารถจับคู่กับปลาได้อย่างลงตัว สาเหตุคือเป็นไวน์แดงที่แอซสิดค่อนข้างสูง ขณะที่ปลาปรุงด้วยการกริลล์ มีควันนิด ๆ เข้ากับควันของโอคฝรั่งเศสที่ใช้บ่มไวน์
เซคริด ฮิลล์ “เฮมส์มัน” ฮอว์ค เบย์ 2014 (Sacred Hill “Helmsman” Hawke’s Bay 2014) : เป็นไวน์สไตล์ บอร์กโดซ์ เบลนด์ (Bordeaux Blend) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 54 % แมร์โลต์ (Merlot) 42 % และกาแบร์เนต์ ฟรัง (Cabernet Franc) 4 % หมักในถังเปิดและใช้ยีสต์ธรรมชาติ บ่มในโอคฝรั่งเศสใหม่ 50 % กรองด้วยไข่ขาว …สีแดงเข้มเกือบดำ ดมครั้งแรกนึกถึงไวน์จากเมด็อคของฝรั่งเศสทันที หอมกลิ่นดอกไม้ ตามด้วยผลไม้ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และพลัม กรีนเปปเปอร์ แคซซิส ชอกโกแลต ไวโอเลต ควันไฟคล้ายย่างเนื้อ เฮิร์บแห้ง ๆ สไปซี แทนนินและนุ่มหวาน จบยาวด้วยผลไม้และเฮิร์บ
เสิร์ฟกับเมนคอร์ส Grilled New York Striploin : Beer marinated wagyu beef 250 grams potato leek gratin,blue cheese salad..เป็นเนื้อวากิวขนาด 250 กรัมหมักด้วยเบียร์นุ่มเนียน คู่นี้ไม่มีปัญหา ทั้งเนื้อและไวน์เกี่ยวก้อยกันได้อย่างสนิทสนาม
เซคริด ฮิลล์ (Sacred Hill) เป็นหนึ่งในไวน์ นิวซีแลนด์ ที่คุ้มค่าเกินราคา สามารถแบ่งปันเพื่อนฝูงและคนรอบข้างได้ ขณะเดียวกันก็ดื่มกับอาหารได้หลากหลาย.