“Find the Photobooth” บาร์ลับ ที่รอท่านไปค้นหา

บรรยากาศ Find the Locker Room

บรรยากาศของ Find the Photobooth

เปิดประตูเข้่าไปจะเห็นบาร์เทนเดอร์ที่ Find the Photobooth

เมนูของ Find the Photobooth

สปีคอีซี ในสมัยก่อน

หนึ่งในค็อกเทลที่ Find the Photobooth

หนึ่งในบาร์เทนเดอร์ที่่ Find the Photobooth

หนึ่งในรางวัลของ Find the Locker Room

หย6

ห้องล้างรูปที่่ Find the Photobooth

อีกหนึ่งในบาร์เทนเดอร์ที่่ Find the Photobooth“Find the Photobooth”
“บาร์ลับ”ที่รอท่านไปค้นหา
“Taste&Travel “ ตอนนี้เปลี่ยนบรรยากาศ ชวนท่านท่องไปในโลกของบาร์และค็อกเทลรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในบ้านเรา นั่นคือ “สปีคอีซี บาร์” (Speakeasy Bar) หลายท่านอาจจะเคยได้ยินแต่ไม่เคยไป บางคนไม่กล้าไป ฯลฯ ดังนั้นไปกันเลย
“สปีคอีซี บาร์” เป็นรูปลักษณ์ใหม่ของบาร์ที่เพิ่งปรากฏเป็นรูปเป็นร่าง และเติบโตอย่างชัดเจนเมื่อประมาณ 2 -3 ปีที่ผ่านมา จากผลพวงของการเติบโตของวงการค็อกเทลบาร์และบาร์เทนเดอร์ในเมืองไทย
“สปีคอีซี บาร์” หรือ “บาร์ลับ” (Hidden Bar) เนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ในที่ลับและแทบไม่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นบาร์ แม้แต่ชื่อร้านก็ยังไม่มี บางแห่งต้องใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี กว่าจะค้นพบ
Speakeasy เป็นคำที่นักดื่มอเมริกันรู้กันดีเพราะกำเนิดในแผ่นดินสหรัฐ ถูกนำมาใช้ครั้งแรกประมาณปี 1920 -1933 ซึ่งอยู่ในช่วง “Prohibition in America” รัฐบาลห้ามผลิต ขายเหล้า ห้ามขนส่ง และห้ามดื่มเหล้าทุกชนิด โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้ผู้คนเป็นทาสของอบายมุขและสุราเมรัย
บางคนบอกว่าส่วนหนึ่งของ Speakeasy Bar เกิดขึ้นจากการกดทับและกดดันของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัจธรรมที่ว่า “ไม่มีใครสามารถเอาแอลกอฮอล์ออกจากวิถีชีวิตของมนุษย์ได้หมดสิ้น ” จึงมีคนคิดลักลอบขายเหล้าขึ้นมาในรูปแบบของสถานที่ต่าง ๆ
Speakeasy Bar มีหลากหลายขั้นตอนและรูปแบบกว่าที่จะเข้าไปสัมผัส บางแห่งเป็นร้านกาแฟธรรมดา ๆ หรือร้านอาหาร แต่ถ้าต้องการดื่มแอลกอฮอล์ ต้องมีบัตรสมาชิกหรือรหัสลับบางอย่าง บางแห่งจะมีคนเฝ้าประตูจะเข้าไปต้องแสดงสัญลักษณ์หรือรหัสที่เป็นที่รู้กัน ฯลฯ บางแห่งเมื่อเข้าไปแล้วต้องนั่งเงียบ ๆ ไม่ต้องสั่งอะไร เพราะขึ้นอยู่กับว่าเขามีเหล้าอะไรก็จะเสิร์ฟเหล้านั้น บางแห่งเจ้าของร้านจะบอกลูกค้าว่าให้พูดเบา ๆ ประมาณว่า จุ๊ ๆ อย่าเสียงดัง (Speakeasy) เดี๋ยวตำรวจได้ยินจะเดือดร้อนกันหมด เป็นต้น เพราะเป็น…บาร์ขายเหล้าเถื่อน
Speakeasy Bar เป็นสถานที่รวมคนหลากหลายชนชั้นวรรณะ ตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ กรรมกรร จนถึงเศรษฐี นักเลง มาเฟีย ฯลฯ ที่มาดื่มและพบปะพูดคุยกัน แล้วเดินผิวปากจากไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่สำคัญในยุคนั้นเฉพาะในนิวยอร์กเมืองเดียวก็มีบาร์ลักษณะนี้กระจายอยู่กว่า 100,000 แห่ง ไม่รวมเมืองต่าง ๆ
ขณะเดียวกันในช่วง “Prohibition in America” นั้นก็มีคนอเมริกันอีกเป็นจำนวนมากที่ทนต่อแรงกดดันของกฎหมายไม่ไหวหรือไม่พอใจกฎหมายฉบับนี้ พากันอพยพไปต่างแดนหลาย ๆ ประเทศ และมีหลายคนที่ทำธุรกิจบาร์จนโด่งดังและเปิดบริการมาจนถึงปัจจุบันนี้ เช่น Harry’Bar ในเมืองเวนิช ประเทศอิตาลี เปิดตั้งแต่ปี 1931 และค็อกเทลที่ชื่อ Bellini Cocktail ก็กำเนิดที่นี่ อีกแห่งหนึ่งคือ Harry’s New York Bar ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ยังเป็นที่โหยหาจนถึงปัจจุบัน เป็นต้น
ปี 1933 ที่กฎหมายห้ามขายเหล้าถูกยกเลิก ความลับไม่มีในโลก จากเหล้าเถื่อนไม่กี่ขวดกลายเป็นฟูล บาร์ (Full Bar) มีเครื่องดื่มขายอย่างมากหมายก่ายกอง แต่ก็มีหลาย ๆ แห่งคงเสน่ห์แห่งความลึกลับนี้เอาไว้ ซึ่งหลายคนชื่นชอบ เพราะเสมือนสิ่งที่ท้าทาย นอกจากจะค้นหาสถานที่แล้ว ยังต้องค้นหาว่าค็อกเทลหรือสิ่งที่จะได้ดื่มนั้นคืออะไร ?
จริง ๆ แล้ว Speakeasy Bar เริ่มจุดประกายในบ้านเรามาเมื่อประมาณ 6 -7 ปีที่แล้ว แต่มาเริ่มส่องสว่างสดใสประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเฉพาะในกรุงเทพฯมีบาร์ประเภทนี้กว่า 10 แห่ง และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือ “ไฟน์ เดอะ โฟโตบูธ” (Find the Photobooth) ณ อาคาร 8 on Eleven กลาง ๆ ซอยสุขุมวิท 11 ซึ่งชั้นล่างเป็นห้องอาหาร ชั้น 2 เป็นสปอร์ตบาร์ชื่อ “สกอร์ บาร์” (Score Bar) ที่มีหลาย ๆ เกี่ยวกับการกีฬา ล่าสุด 2 อดีตนักฟุตบอลชื่อดังก็แวะมาเยี่ยมเยียนคือ เอียน รัช และเท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม เป็นต้น จากตรงนี้เป็นหน้าที่ของท่านที่จะหา Find the Photobooth ให้เจอ ซึ่งไม่ยาก แค่หาตู้ถ่ายรูปให้เจอ และท่านสามารถถ่ายรูปกับตู้นั้นได้ด้วย ก่อนจะเข้าไปด้านในที่ ต้องผ่านห้องมืดที่เสมือนห้องล้างและอัดรูปสมัยก่อน ที่มีหลอดไฟเล็ก ๆ สีแดง ถาดล้างฟีล์ม ราวแขวนรูป และรูปขาว-ดำที่ล้างแล้ว ใครที่เคยทำงานร้านถ่ายรูปรวมทั้งหนังสือพิมพ์มาก่อนจะนึกภาพได้ชัดเจน จากนั้นจึงผ่านเข้าไปข้างในบาร์ที่จุคนได้ประมาณ 50-60 คน
ทีมงานของ Find the Photobooth ก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นผู้ทำ #Find the Locker Room จนโด่งดังที่ทองหล่อ ซอย 10 นั่นเอง ประกอบด้วยรณภร คณิวิชาภรณ์ (Backstage Cocktail Bar) อดีตแชมป์ World Class ประเทศไทย 2 สมัย,ฮิเดสึโกะ อุเอโนะ (Bar High Five,โตเกียว) ปรมาจารย์ค็อกเทล,นิค วู (East End,ไต้หวัน),คอลิน เจีย (Nutmeg & Clove,สิงคโปร์) และเจนณรงค์ ภูมิจิตร เมื่อ #Find the Locker Room จำต้องย้ายสถานที่ จึงมารวมตัวกันเปิด Find the Photoboothด้วยทีมงานดังกล่าวจึงไม่ต้องห่วงในทุก ๆ ด้าน รอเพียงว่าท่านจะไปค้นหาความลับนั้นเมื่อใด ?
แต่ถ้ายังอยากสัมผัสกลิ่นอาย รสชาติ และบรรยากาศของ #Find the Locker Room ที่ย้ายจาก Arena10 กลางทองหล่อ ซ.10 ออกมาอยู่ติดถนนในซอยทองหล่อ แถวๆ Iron Fairy ทุกอย่างยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้ค้นหาเช่นเดิม รวมทั้งที่มาของร้าน “Find the Locker Room” ที่ต้องหาตู้ล็อกเกอร์ ซึ่งเป็นทางเข้าของบาร์ให้เจอ จึงจะได้ลิ้มรสค็อกเทลของเขา
“ไฟน์ เดอะ โฟโตบูธ” (Find the Photobooth) แม้จะเป็น “สปีคอีซี บาร์” (Speakeasy Bar) น้องใหม่ แต่เป็นน้องใหม่ที่ไม่ธรรมดา ส่วนจะไม่ธรรมดาอย่างไรเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องไปค้นหาด้วยตัวเอง…..!!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...