“Shaken Not Broken” เพื่อบาร์เทนเดอร์ที่เจอพิษโควิด-19

Shaken Not Broken การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Corona 2019) หรือ โควิด-19 (COVID-19) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เรื่อยมาจนกระทั่งวันนี้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้ส่วนหนึ่งของแบรนด์ในเครือคัมพารี กรูุ๊ป

1919 Italian Bar & Restaurant

Another Round, Another Rally

C1

C2

C3

C5

C6

Campari Group

Cold cut & cheese  ของร้าน 1919

Davide Sambo

Davide,Tamaryn,Supawit a

Davide,Tamaryn,Supawit

Shaken Not Broken T-Shirt

Shaken Not Broken

Supawit Muttarattana

Tamaryn Cooper

ที่ลอนดอนกับผู้คนทุกหย่อมหญ้า ทุกแวดวง ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะรวยหรือจนโดนกันถ้วนหน้า และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดกับทั่วโลก มากน้อยต่างกันออกไป บางประเทศเริ่มคุมได้บ้าง ขณะที่อีกหลายประเทศยังไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้สิ่งที่ต้องทำคู่ขนานไปกับการควบคุมโรคร้ายดังกล่าวคือการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในหลากหลายสาขาอาชีพ หนึ่งในจำนวนนั้นคือ “ผู้ประกอบอาชีพการท่องเที่ยว และการโรงแรม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในแวดวงร้านอาหาร บาร์ และสถานบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ดังเดิมเหมือนที่ผ่านมาช้ากว่าอย่างอื่น
จากความเดือดร้อนดังกล่าวทำให้มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในจำนวนเอกชนนั้นคือ “คัมพารี กรุ๊ป” (Campari Group) ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่แห่งประเทศอิตาลี ที่มีแบรนด์กว่า 50 แบรนด์ระดับพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียม ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย “บาร์เทนเดอร์” ทั่วโลกที่ถือว่าได้รับผลกระทบโดยตรงเช่นกัน จากกิจการบาร์ต่าง ๆ ที่จำต้องปิดตัวลง
ในต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกา “คัมพารี อเมริกา” (Campari America) จัดโครงการการกุศล “Shaken Not Broken” บริจาคเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ “Another Round, Another Rally” โครงการการกุศลกองทุนฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพการท่องเที่ยวและการโรงแรม เพื่อช่วยเหลือบาร์เทนเดอร์ที่เดือดร้อนทางการเงินในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นอกเหนือจากการบริจาคเงินแล้วยังได้เชิญชวนแฟนๆ ให้เข้าร่วมกิจกรรม #AnotherRoundChallenge สนับสนุนให้นักดื่มทั่วอเมริกา ตั้งแต่แคลิฟอร์เนีย – เคนทักกี รวมทั้งทั่วทุกสารทิศให้การสนับสนุนบาร์ท้องถิ่น โดยติดตามได้จากแฮชแท็ก #AnotherRoundChallenge และทางเว็บไซต์ www.AnotherRoundAnotherRally.com
ในเมืองไทยบริษัท อัลเคมี ไวน์ แอนด์ สปิริตส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Alchemy Wines & Spirits (Thailand) Co,Ltd) ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าในเครื่อคัมพารี กรุ๊ป ภายใต้การสนับสนุนจาก คัมพารี กรุ๊ป (Campari Group) จับมือกับเว็บไซต์เทใจ.คอม (Taejai.com) จึงได้จัดโครงการ “Shaken Not Broken Thailand” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพการ ท่องเที่ยว และการโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในระหว่างวันที่ 1-13 มิถุนายน 2020 ร่วมกับนิตยสาร BK และร้านอาหาร 1919 Italian Bar & Restaurant โดยรายได้ 50% จากการจำหน่ายเสื้อยืด Shaken Not Broken, Aperitivo Gift Voucher และอุปกรณ์ผสมเครื่องดื่มจากคัมพารี จะนำไปบริจาคให้กับเว็บไซต์ Taejai.com ในโครงการ “Shaken Not Broken Thailand” เพื่อช่วยเหลือบาร์เทนเดอร์ในประเทศไทยในโอกาสต่อไป
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ LIVE Fund Raising Event จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่13 มิถุนายน 2563 ที่ 1919 Italian Bar & Restaurant เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ในรูปแบบของการไลฟ์สด โดยมีแขกรับเชิญ 3 คนคือ ดาวิเด แซมโบ (Davide Sambo) Campari Group Brand Ambassador Thailand) ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ (Supawit Muttarattana) Group Bar Manager Foodie Collection and the Winner of Campari Bartender Competition ASIA 2018 และ ธรรมาริน คูเปอร์ (Tamaryn Cooper) Bartender at Asia Today and the Winner of Campari Bartender Competition Thailand 2019
ดาวิเด แซมโบ ซึ่งเพิ่งมาทำหน้าที่ Campari Group Brand Ambassador Thailand ได้ไม่นานก่อนการระบาดของ COVID-19 และก็เจองานใหญ่และความท้าทายครั้งสำคัญในทันทีกล่าวว่า “Shaken Not Broken เริ่มจากในสหรัฐโดยคัมพารี กรุ๊ป เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในแวดวงท่องเที่ยว โรงแรม บาร์ ร้านอาหาร ฯลฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเน้นที่พนักงานเป็นหลัก ก่อนจะกระจายไปทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยซึ่งดำเนินการโดยบริษัท อัลเคมี ไวน์ แอนด์ สปิริตส์ (ประเทศไทย) จำกัด เราตั้งใจจะระดมทุนเพื่อช่วยเหลือบาร์เทนเดอร์ทั่วประเทศ โดยเรามีทั้ง Shaken Not Broken T-shirts,บัตรของขวัญ Aperitivo ที่ 1919 Italian Bar & Restaurant ซ.คอนแวนต์ และ Campari Bar Tool Set เป็นต้น ให้ท่านได้อุดหนุนเพื่อช่วยเหลือบาร์เทนเดอร์”
ขณะที่ ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รับรู้โครงการนี้ครั้งแรก เป็นโครงการที่ดีมากในยามที่ทุกคนกำลังอยู่ในภาวะเดือดร้อน ทุกคนทุกฝ่ายในแวดวงนี้ต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้ชีวิตและธุรกิจดำเนินต่อไปได้ อยากเชิญชวนทุกท่านมาให้การสนันสนุนโครงการนี้”
ธรรมาริน คูเปอร์ บอกว่า “บาร์เทนเดอร์ได้รับความเดือดร้อนกันทุกคน หลายคนตกงานและได้รับเงินเดือน หลายคนที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ต้องกลับบ้านที่ต่าจังหวัด รวมทั้งตัวเธอเองก็ต้องกลับไปทำร้านกาแฟกับคุณแม่ทางภาคเหนือ แน่นอนทุกคนตั้งความหวังรอว่าวันเก่า ๆ จะกลับมาอีก และโครงการ Shaken Not Broken ก็เป็นอีกความหวังหนึ่งที่พวกเราจะกลับมาพบกับทุกท่านในบาร์พร้อมเครื่องดื่มที่ท่านชอบ จึงขอเชิญชวนทุกท่านสนับสนุนโครงการนี้ค่ะ”
จริง ๆ แล้วในช่วงนี้สัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนหรือเกินไปเล็กน้อย ถ้าสถานการณ์ปกติ ในแวดวงเครื่องดื่ม ค็อกเทล บาร์ บาร์เทนเดอร์ทั่วโลกจะรู้กันดีกว่าอยู่ในช่วงของ “เนโกรนี วีค” (Negroni Week) หรือ “สัปดาห์แห่งเนโกรนี” เป็นสัปดาห์แห่งการดื่มค็อกเทล เนโกรนีเพื่อการกุศล จัดพร้อมกันตามบาร์ต่าง ๆ กว่า 6,000 แห่งทั่วโลก ครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้วในเมืองไทยก็มีบาร์กว่า 100 แห่งเข้าร่วมโคงการได้เงินบริจาคเพื่อการกุศลนับแสนบาท สำหรับปีนี้ด้วยพิษสงของ COVID-19 “เนโกรนี วีค” ต้องถูกงด ดังนั้นมาช่วยกันบริจาคช่วยบาร์เทนเดอร์ตามโครงการ Shaken Not Broken กันเถอะ ได้กุศลแรงเช่นกัน
สำหรับท่านที่ต้องการสนับสนุนบาร์เทนเนดอร์ สามารถเข้าไปได้ที่ https://www.ticketmelon.com/alchemy/shakennotbrokenth ส่วนบาร์เทนเดอร์ที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถเข้าไปลงทะเบียนรับความช่วยเหลือได้ที่ : https://shakennotbrokenth.com/
สำหรับ คัมพารี กรุ๊ป (Campari Group) ก่อตั้งขึ้นในปี พ. ศ. 2403 เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลก มีแบรนด์กว่า 50 แบรนด์ทั้งระดับพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียม กระจายอยู่กว่า 190 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดหลักอยู่ในยุโรปและอเมริกา ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของกรุ๊ปได้แก่ Aperol,Appleton Estate,Campari, SKYY, Wild Turkey และ Grand Marnier ปัจจุบันเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
Campari Group มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และมีโรงงานทั้งหมด 18 แห่งทั่วโลก พร้อมมีเครือข่าย การจัดจำหน่ายของตัวเองใน 20 ประเทศ มีพนักงานประมาณ 4,000 คน หุ้นของบริษัทแม่ Davide Campari-Milano S. P. A. (Reuters CPRI.MI – Bloomberg CPR IM) ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิตาลีตั้งแต่ปี 2544
จากการระบาดของ COVID-19 ประเทศอิตาลีก็ได้รับผลกระทบมากเช่นกัน โดยเฉพาะเมืองมิลานเป็นจุดแรก ๆ ของการระบาด ทาง Campari Group ก็มีส่วนช่วยเหลืออย่างมากนอกจากบริจาคเงินหลายล้านบาทแล้ว ยังใช้โรงงานกลั่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของบริษัท รวมทั้งเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญ ฯลฯ ระดมผลิตแอลกอฮอล์เพื่อมอบให้บุคคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ในการต่อสู้กับไวรัสร้ายดังกล่าว
ส่วนบริษัท อัลเคมี ไวน์ แอนด์ สปิริตส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งในปี 2013 อัลเคมี เอเชียเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายสุราแบรนด์หรูระดับสากล ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บุกเบิกตลาดในเวียดนาม ไทย กัมพูชา ลาว และพม่า ความสำเร็จของอัลเคมีมาจากการตลาดที่แข็งแกร่งและช่องทางการจัดจำหน่ายที่ส่งเสริมแบรนด์ระดับโลกต่างๆ รวมทั้งคัมพารี กรุ๊ป
ขณะที่ “เทใจดอทคอม” ( www.taejai.com) เป็นเว็บไซต์ระดมทุนที่เชื่อมต่อระหว่าง “ผู้บริจาค” ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า กับ “ผู้รับบริจาค” หรือองค์กรเพื่อสังคมที่ต้องการเงินสนับสนุนและผ่านเกณฑ์การพิจารณา มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนที่อยากทำเรื่องดีๆ เพื่อสังคม ซึ่งก็มีทั้งที่เป็นองค์กรไม่แสวงกำไร NGOs กลุ่มคน และกิจการเพื่อสังคม (social enterprise) เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถทำเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นจริง

******************************
“คัมปารี” หรือ “กัมปารี” หรือ “คัมพารี” (Campari) เหล้าที่สำคัญในวงการเครื่องดื่ม เป็นเหล้าประเภทเรียกน้ำย่อยหรือก่อนอาหาร (Apéritif) ตระกูลบิตเตอร์ (Bitter) เป็นเหล้ายาที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของความหอมหวาน ความขม และสไปซี จนได้รสชาติที่กลมกล่อม จุดกำเนิดคือการนำเหล้ากลั่นไปผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพรเป็นร้อย ๆ ชนิด ตามสูตรของแต่ละเจ้า ในปัจจุบัน Bitter มีอยู่เป็นร้อยยี่ห้อและเป็นพัน ๆ สูตร โดยอิตาลีเป็นหัวแถวของชาติที่ผลิต Bitter
Campari กำเนิดราวปี 1860 ที่เมืองโนวารา (Novara) แคว้นเพียดมอนต์ (Piedmont) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี โดยนายกัสปาเร คัมปารี (Gaspare Campari :1828–1882) เจ้าของภัตตาคารและคาเฟระดับสุดยอดของเมืองตูริน (Turin) ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวจัดอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ที่มีมิลานเป็นเมืองหลวง Campari จึงได้ชื่อว่าเป็นสปิริตแห่งมิลาน หลังเปิดตัวในปี 1904 ไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ส่งออกต่างประเทศครั้งแรกไปยังเมืองนิซ (Nice) เมืองตากอากาศยอดนิยมของ French Riviera
คนอิตาเลียนบอกว่า Campari เป็นสุดยอดเหล้าที่มีอบอวลไปด้วยรสชาติที่หอมหวลชวนลิ้มลอง ขณะที่นํ้าเนื้อก็อร่อยอย่างอัศจรรย์ ที่สำคัญสามารถดื่มได้ทุกโอกาส ดื่มได้ในหลายรูปแบบ และเชื่อกันว่าสมุนไพรนับร้อยชนิดที่อยู่ในในเหล้าสีแดงสดใสนี้ จะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพดี และมีอายุยืนยาว ส่งผลให้ยอดขายของ Campari อยู่เหนือกว่าบิตเตอร์ทุกยี่ห้อ
“เนโกรนี” (Negroni) เป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการดัดแปลงจาก อเมริกาโน (Americano) ซึ่งเป็นค็อกเทลที่มีส่วนผสมง่ายๆ สามส่วนคือ คัมพารี เวอร์มุธ และโซดา (Campari,Vermouth และ Soda) เสิร์ฟครั้งแรกใน Caffè Campari บาร์ของ Gaspare Campari ในปี 1860
Negroni กำเนิดครั้งแรกในช่วงปี 1919 โดยเคาท์ กามิลโล เนโกรนี (Count Camillo Negroni) ผู้ชื่นชอบค็อกเทล วันหนึ่งท่านเคาท์ไปร้านกาฟเฟ กาโซนี (Caffè Casoni) ในเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ปกติท่านจะชอบค็อกเทล อเมริกาโน (Americano) แต่วันนั้นเกิดเบื่อขึ้นมา จึงบอกบาร์เทนเดอร์ให้ช่วยทำค็อกเทลใหม่ ๆ ให้สักแก้ว แต่ต้องมีแคแลกเตอร์ของ Americano อยู่ด้วย บาร์เทนเดอร์จึงปรับแต่งด้วยการใส่จิน (Gin) และส้มลงไป 1 ชิ้นลงไป ปรากฎว่าท่านเคานท์ถูกใจมาก
ด้วยส่วนผสมที่ไม่มากและเรียบง่าย จิน (Gin) เวอร์มุธ (Vermouth) และคัมปารี (Campari) เสิร์ฟด้วยแก้วโอลด์ แฟชั่น เติมแต่งด้วยเปลือกส้มฝานบาง ๆ ประกอบกับการทำที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ทำให้ไม่นาน Negroni ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และแม้จะเนิ่นนานเพียงใดสูตร Negroni ก็ไม่ได้ถูกดัดแปลงเลยเป็นเวลาเกือบ 100 ปีก่อตั้งมา แต่กลายเป็นเสน่ห์ที่สำคัญ เพราะเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตในบาร์ฮิป ๆ และค็อกเทลบาร์เก๋ ๆ มากมายที่ เริ่มนำค็อกเทลคลาสสิคมานำเสนอโดยไม่มีการดัดแปลงปรุงแต่งใดๆ อาจเป็นเพราะ Negroni เป็นค็อกเทลที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว กระทั่งกลายเป็นเครื่องดื่มที่ชาวอิตาเลียนนิยม ทั้งเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารและหลังอาหาร

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...