“Luce” 20 ปีที่พร้อมโชติช่วง…1

สีของ Luce 1993

สีของ Luce 1995

สีของ Luce 2012

Elegance

Lamberto Frescobaldi

Luce 1993

Luce 1994

Luce 1995

Luce 2012 ขนาด 6 ลิตร

Luce 2012 ขนาด 18 ลิตร

Luce 2012

Powerful ตามภาษาเขมร ในแวดวงไวน์อิตาลีและระดับโลกชื่อของ “มาร์เคซี เดอ เฟรสโคบัลดี” (Marchesi De Frescobaldi) หรือ “เฟรสโคบัลดี” (Frescobaldi) รับประกันความผิดหวังด้วยประการทั้งปวง อย่างน้อยก็เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ทำไวน์มากว่า 700 ปี ด้วยทายาทกว่า 30 ชั่วคน
บริษัท Marchesi De Frescobaldi ก่อกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 บรรพบุรุษเป็นขุนนางเก่าราชวงศ์หนึ่งในอิตาลี บางคนในตระกูลเป็นนักการเมือง เป็นนายธนาคาร และศิลปิน บางคนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเป็นนักธุรกิจและนายธนาคารในอังกฤษ กระทั่งจับธุรกิจไวน์ และนำเข้าไวน์เพื่อส่งเข้าถวายในราชสำนักอังกฤษ
ครอบครัวเฟรสโคบัลดี จับมือกับโรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) เจ้าพ่อไวน์นาปา แวลลีย์ ผลิตไวน์รุ่นที่โด่งดังและรู้จักกันในนาม “3 ทหารเสือแห่งตำบลมอนตาลชิโน” (Comune di Montalcino) คือ ลูเช (Luce) ลูเซนเต (Lucente) และลูเช บรูเนลโล ดี มอนตาลชีโน (Luce Brunello di Montalcino) เป็นผลผลิตภายใต้ชื่อบริษัท เตนูตา ลูเช เดลลา วีเต (Tenuta Luce della Vite)
Tenuta Luce della Vite เกิดจากแนวคิดของ โรเบิร์ต มอนดาวี (Robert Mondavi) ชาวอเมริกันที่มีสายเลือดจากแคว้นมาเค (Mache) ในอิตาลี แต่ไปเกิดในรัฐมินเนโซตา (Minnesota) สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าพ่อไวน์นาปา แวลลีย์ มีความฝันว่าอยากจะกลับไปทำไวน์คุณภาพบนแผ่นดินแม่ วันหนึ่งได้พบกับวิตตอรีโอ เฟรสโคบัลดี (Vittorio Frescobaldi) เจ้าของบริษัท Marchesi de Frescobaldi แห่งเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) แคว้นทัสกานี (Tuscany) เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงจับมือกันตั้งบริษัท Tenuta Luce della Vite ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
Tenuta Luce della Vite ถูกผลิตอย่างเป็นทางการวินเทจแรกคือ 1995 ไวน์พระเอกชื่อ “Luce” หมายถึง “ดวงไฟ” ขณะที่พระรองชื่อ“Lucente” หมายถึง “แสงสว่างจากดวงไฟ” คำว่า Luce มีที่มาจากเมื่อครั้งที่ Margrit Biever Mondavi เมียของ Robert Mondavi กำลังเดินทางไปยัง Comune di Montalcino ตามถนน Via San Spirito ในเมือง Florence เธอเหลือบไปเห็นพระอาทิตย์ดวงโต เปล่งประกายไฟแรงกล้า ลอยอยู่เหนือยอดตึก จึงเกิดความคิดว่าบริษัทใหม่น่าจะมีอะไรที่เหมือนกับพระอาทิตย์ เมื่อปรึกษากับโรเบิร์ตและหุ้นส่วนแล้ว ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าต้องเป็นชื่อนี้ Tenuta Luce della Vite หมายถึง…ดวงไฟแห่งชีวิต จากนั้นจึงออกแบบให้คำว่า Luce อยู่ในวงกลมสีแดง ล้อมรอบด้วยประกายไฟ 12 แฉก โดยดวงไฟนี้นำมาจากฐานแท่นบูชาในโบสถ์ San Spirito ในเมือง Florence ซึ่งสร้างอยู่ในที่ดินของตระกูล Frescobaldi
จริง ๆ แล้วก่อนหน้านั้น Luce ถูกผลิตออกมาแล้ว 2 วินเทจคือ 1993 และ 1994 เป็นไวน์ทดลองเบลนด์จากองุ่น 2 พันธุ์คือแมร์โลต์ (Merlot) กับซานโจเวเซ (Sangiovese) โดยวินเทจ 1993 ใช้ Merlot 40 % Sangiovese 60 % ส่วนวินเทจ 1994 ใช้ Merlot 60 % Sangiovese 40 % เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 1997
หลังจากนั้นส่วนสัดที่สเลนเดอร์ของ Luce ก็ลงตัวที่วินเทจ 1995 ใช้ Merlot และ Sangiovese ในอัตรา 50 – 50 เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 1998
จากการผลิตไวน์ดังกล่าว วงการไวน์อิตาลีจึงต้องบันทึกไว้ว่า นับเป็นครั้งแรกใน Comune di Montalcino ที่มีการเบลนด์ไวน์จาก Merlot และ Sangiovese เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็น Cabernet Sauvignon กับ Sangiovese
อย่างไรก็ตามอัตราส่วนดังกล่าวก็ไม่ได้ตายตัว เพราะผลผลิตขององุ่นขึ้นอยู่กับธรรมชาติเป็นสำคัญ เช่นวินเทจ 1996 และ 2000 ใช้ Merlot และ Sangiovese ในอัตรา 40 – 60 ขณะที่วินเทจ 2002 ใน Merlot และ Sangiovese ในอัตรา 75 – 25 เพราะผลผลิต Sangiovese) ไม่ค่อยดี เป็นต้น
วินเทจ 2004 เป็นวินเทจสุดท้ายที่ 2 ยักษ์ใหญ่ทำธุรกิจร่วมกัน โดยต้นปี 2005 Robert Mondavi ขายหุ้นครึ่งหนึ่งให้กับ Marchesi de’ Frescobaldi ปีถัดมา บริษัท Tenuta Luce della Vite ถูกนำไปควบรวมกับบริษัท Tenuta di Toscana ในเครือของ Marchesi de’ Frescobaldi นั่นเอง ขณะที่ Lamberto Frescobaldi ก้าวขึ้นเป็นประธานของบริษัท Marchesi de’ Frescobaldi เมื่อปี 2013
เมื่อกลาง ๆ ปี 2015 แล้วผมได้รับเชิญไปร่วมงานเฉลิมฉลอง Luce วินเทจ 2012 ในฐานะวินเทจฉลองครบรอบ 20 ปีที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่ง “ลัมแบร์โต เฟรสโกบัลดี” (Lamberto Frescobaldi) ประธานของบริษัทเดินทางมาร่วมฉลองด้วย พร้อมชิม Luce หลายวินเทจ ณ ที่นี่ขอแนะนำวินเทจสำคัญ ๆ เป็นอันดับแรกคือ 2012,1993,1994 และ 1995 ที่เหลือค่อยว่ากันในโอกาสต่อไป
ลูเช เดลลา วีเต ทอสกานา “ลูเช” 2012 (Luce della Vite Toscana “Luce” 2012) วินเทจฉลองครบรอบ 20 ปีนี้เก็บเกี่ยว Sangiovese 75 % ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน ส่วน Merlot 25 % เก็บสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม บ่มในโอคใหม่ 85 % อีก 15 % บ่มในถังโอคที่ใช้แล้ว 1 ครั้ง รวมระยะเวลาในการบ่ม 24 เดือน เพิ่งบรรจุขวดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้เอง บรรจุขวด 5 ขนาดคือ Srandard 0.75 ลิตร,Magnum 1.5 ลิตร,Jeroboam หรือ Double Magnum 3 ลิตร,Mathusalem หรือ Mathusalah 6 ลิตร และ Melchior 18 ลิตร พร้อมฉลากสีทองอร่าม และตัวเอง 20 รอบขวดด้านล่าง
Lamberto Frescobaldi บอกว่าวินเทจ 2012 นี้เป็นไวน์สไตล์ “Elegance,Force,Aromatic and Complexity” สีแดงเข้มจนเกือบดำ หอมกลิ่นผลไม้สุกห่ามๆ เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม และเชอร์รีกรุ่น ๆ สไปซีเฮิร์บ กานพลู และแบล็ค เปปเปอร์ นอกจากนั้นยังมีมิเนอรัล บาซามิก ลิคเคอร์ ไวโอเลต ควันไฟกรุ่น ๆ แอซสิดค่อนข้างสูง แทนนินหนักแน่นและเริ่มจะสุก จบด้วยผลไม้และสไปซี ยังไม่เปิดตัวนัก น่าจะเริ่มดื่มได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
นั่นคือวินเทจ 2012 ซึ่งฉลองครบรอบ 20 ปี และเพิ่งเริ่มให้ชาวโลกได้ลิ้มรสในปี 2015 หมาด ๆ นี่เอง และเราน่าจะเป็นคนไทยกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ชิมพร้อมกับประธานบริษัท Lamberto Frescobaldi คราวนี้ลองมาดูวินเทจแรก ก่อนที่ดวงไฟที่ชื่อ Luce จะส่องสว่างไปทั่วโลกเมรัยอมตะจนถึงวันนี้
ลูเช เดลลา วีเต ทอสกานา “ลูเช” 1993 (Luce della Vite Toscana “Luce” 1993) อย่างที่กล่าวในตอนต้นคือ 1993 เป็นหนึ่งในวินเทจทดลอง ทำจากองุ่น Merlot 40 % Sangiovese 60 % ผลิต 28,000 ขวด เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 1997 ในเมืองไทยน้อยคนที่ได้ชิมวินเทจ 2 วินเทจทดลองนี้
Luce 1993 บ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศสใหม่ 50 % อีก 50 % บ่ม 6 เดือนในถังโอคสลาโวเนียนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแทกติกโบราณของไวน์ทัสกานี จากนั้นปล่อยให้นอนสงบนิ่งในขวดอีก 18 เดือนก่อนบรรจุขวด ส่งให้ชาวโลกได้ลิ้มรส แอลกอฮอล์ 13.5 %
น้ำไวน์สีแดงน้ำตาลขอบส้ม กลิ่นผลไม้สุกยังเยอะ เช่น แบล็คเบอร์รี บลูเบอร์รี ลูกเกดแห้ง และพรุน นอกนั้นยังมีไวโอเล็ตกรุ่น ๆ มิเนอรัล มอคคา วานิลา ไวโอเลต เฮิร์บแห้ง ๆ ซีดาร์ ยาสูบ แทนนินยังแน่นปากแต่นุ่มเนียน แอซสิดยังดีมาก ดื่มแล้วสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้สุก มิเนอรัล และเฮิร์บ
ลูเช เดลลา วีเต ทอสกานา “ลูเช” 1994 (Luce della Vite Toscana “Luce” 1994) เป็นวินเทจทดลองเหมือน 1993 แต่วินเทจนี้ทำจากองุ่น Merlot มากกว่าคือ 60 % และลด Sangiovese ลงเป็น 40 % ผลิต 28,800 ขวด และเปิดตัวพร้อมกัน
Luce 1994 บ่มเหมือนกัน 1993 คือบ่ม 12 เดือนในโอคฝรั่งเศสใหม่ 50 % อีก 50 % บ่ม 6 เดือนในถังโอคสลาโวเนียนขนาดใหญ่ จากนั้นปล่อยให้จำศีลในขวดอีก 18 เดือนก่อนบรรจุขวด ส่งให้ชาวโลกได้ลิ้มรส แอลกอฮอล์ 13.5 %
น้ำไวน์สีแดงบราวน์คล้าย ๆ กับ 1993 แต่ยังมีเฉดแดงเข้มกว่า หอมกลิ่นผลไม้สุกที่โดดเด่นกว่าคือราสพ์เบอร์รี ตามด้วยพลัม เชอร์รี แบล็คเบอร์รี และลูกเกด ไวโอเลต สไปซี เฮิร์บแห้ง ๆ โป๊ยกั๊ก ดอกไม้แห้ง ๆ มอคคา วานิลลา แทนนินสุกหอมหวาน แอซสิดดีมากเช่นเดียวกับ 1993 จบยาวด้วยผลไม้สุก ลูกเกด และเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ
หลังจาก 2 วินเทจทดลองผ่านไป คราวนี้ลองมาดูวินเทจ 1995 ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นวินเทจอย่างเป็นทางการของ “Luce” ก็ได้
ลูเช เดลลา วีเต ทอสกานา “ลูเช” 1995 (Luce della Vite Toscana “Luce” 1995) : หลังจากทดลองวินเทจ 2003 และ 2004 จนได้สัดส่วนที่ลงตัว Luce วินเทจ 1995 ก็ถูกผลิตขึ้นอย่างมั่นใจด้วยการใช้ Sangiovese และ Merlot ในอัตรา 50 – 50 % เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 1998 จากการผลิตไวน์ดังกล่าว ทำให้เกิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไวน์อิตาลีว่าเป็นครั้งแรกในคอมมูน ดี มอนตาลซิโน (Comune di Montalcino) ที่มีการเบลนด์ไวน์จาก Merlot กับ Sangiovese เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็น Cabernet Sauvignon กับ Sangiovese เสียมากกว่า
Luce 1995 เก็บเกี่ยว Sangiovese สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม ส่วน Merlot เก็บเกี่ยวสัปดาห์แรกของเดือนเดียวกัน บ่ม 12 เดือนในถังโอคฝรั่งเศสใหม่ 66% และ 33 % บ่มในถังโอคสลาโวเนียนอีก 6 เดือน บ่มต่อในขวดอีก 18 เดือน แอลกอฮอล์ 13.5 % จำนวนผลิต 80,000 ขวด
Luce 1995 สีแดงบราวน์ขอบสีส้มจาง ๆ หอมกลิ่นผลไม้สุก เช่น แบล็คเบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ พลัม และบลูเบอร์รีกรุ่น ๆ ตามด้วยชอกโกแลต มอคคา ซีดาร์ สไปซี จันทน์เทศ ยี่หร่า วานิลลา มิเนอรัล แทนนินนุ่มเนียนและแฝงความหนักแน่น โครงสร้างยอดเยี่ยมมาก แอซสิดปานกลางและรับกับผลไม้ จบยาวด้วยผลไม้สุกและสไปซี มีน้ำมีเนื้อมากกว่า 1993 และ 1994
“Luce”…ณ วัยกำดัด 20 ปี คงต้องเป็นดวงไฟที่ลุกโชติช่วงต่อไปอย่างไม่มีวันดับ..!!!

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...