Negroni Week 2017 : สัปดาห์“ดื่มเพื่อการกุศล”

“In cafés you have to drink the least offensive of the musical comedy drinks that go with them.”
เจมส์ บอนด์ (James Bond) สั่งค็อกเทล อเมริกาโน (Americano) ในตอน “From a View to a Kill” ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของเซอร์โรเจอร์ มัวร์ (Roger Moor) ที่รับบทนักสืบรหัส 007 ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยวัย 89 ปี เขาสั่ง Americano ในคาเฟแห่งหนึ่งเป็นปฐมฤกษ์ พร้อมคำพูดดังกล่าว และนั่นเป็นการสั่งค็อกเทล อเมริกาโน เป็นครั้งแรกในหนังดังชุดนี้ หลังจากนั้นก็ถูกสั่งโดยแดเนียล เครก (Daniel Craig) ในตอน Casino Royale
อเมริกาโน (Americano) ที่มีส่วนผสมของ Campari,Sweet vermouth และ Club soda เสิร์ฟครั้งแรกใน Caffè Campari บาร์ของ Gaspare Campari ในปี 1860 เดิมชื่อ “Milano-Torino” เนื่องจากส่วนผสมหลักคือ Campari มาจากมิลาน (Milan หรือ Milano) และเวอร์มุธ Punt e Mes มาจากตูริน (Turin หรือ Torino) ตอนนั้นในช่วงทศวรรษ 1900 ผู้ประกอบการชาวอิตาลีเห็นว่านักท่องเที่ยวมาจากอเมริกาชอบค็อกเทลมาก จึงตั้งชื่อว่า “Americano” ประกอบกับคำว่า “amaro” ในภาษาอิตาลีหมายถึงขม หรือ “bitter”
ค็อกเทล อเมริกาโน มีความเกี่ยวพันในฐานะต้นกำเนิดของ “เนโกรนี” (Negroni) ค็อกเทลที่กำลังจัดกิจกรรมการกุศลพร้อมกันทั่วโลกรวมทั้งเมืองไทยระหว่างวันที่ 5 -11 มิถุนายนนี้ภายใต้ชื่อ “เนโกรนี วีค” (Negroni Week)
“เนโกรนี” กำเนิดครั้งแรกในเมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ตอนกลางของอิตาลี เมื่อปี 1919 (พ.ศ.2462) หรือเมื่อ 98 ปีที่แล้ว ท่าน เคานท์ กามิลโล เนโกรนี (Count Camillo Negroni) ชอบไปดื่มค็อกเทลที่ร้านกาฟเฟ กาโซนี (Caffè Casoni / ชื่อเดิม Caffè Giacosaa) ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นกาฟเฟ กาวัลลี (Caffè Cavalli) ท่านชอบค็อกเทลชื่ออเมริกาโน (Americano) วันหนึ่งเกิดอาการเบื่อ จึงบอกฟอสโก สการ์เซลลี (Fosco Scarselli) บาร์เทนเดอร์หนุ่มให้ทำค็อกเทลใหม่ ๆ สักแก้ว แต่ต้องมีแคแลกเตอร์ของ Americano อยู่ด้วย นายสการ์เซลลีจึงปรับแต่งด้วยการใส่จิน (Gin) และส้ม 1 ชิ้นลงไป ปรากฏว่าถูกอกถูกใจท่านเคานท์มาก ไม่นานค็อกเทล Negroni และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
ออร์สัน เวลเลส (Orson Welles) ดารา นักแสดง และนักเขียนของหนังสือพิมพ์รายวัน Coshocton Tribune ซึ่งตีพิมพ์ในเมือง Coshocton รัฐโอไฮโอ,สหรัฐ ในช่วงปี 1909 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เป็นผู้ให้คำจำกัดความของ Negroni ในยุคแรก ๆ ว่า “The bitters are excellent for your liver, the gin is bad for you.They balance each other”
“…The Negroni cocktail has made bitterness palatable for generations of drinkers. It can be served on the rocks or up in a cocktail glass, and it has inspired countless riffs, including the Boulevardier and the Kingston Negroni. It’s also the inspiration for Negroni Week, a charitable initiative presented by Imbibe and Campari…..”
เป็นคำจำกัดความของค็อกเทลที่ชื่อ “เนโกรนี” (Negroni Cocktail) ซึ่งในแวดวงของค็อกเทลทั่วโลก ในช่วงระหว่างวันที่ 5-11 มิถุนายนนี้ จัดกิจกรรมที่เรียกว่า “เนโกรนี วีค” (Negroni Week) หรือ “สัปดาห์แห่งเนโกรนี” เป็นสัปดาห์แห่งการดื่มค็อกเทล เนโกรนีเพื่อการกุศล จัดพร้อมกันตามบาร์ต่าง ๆ กว่า 6,000 แห่งทั่วโลก
“เนโกรนี วีค” ถูกจัดครั้งแรกในปี 2013 จากการจับมือประสานใจของนิตยสาร ‎Imbibe และ ‪‎Campari Group ผู้แทนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายอย่าง เพื่อเป็นการระดมไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุทอร์นาโด ในรัฐโอคลาโฮมา ของสหรัฐ ปีแรกมีบาร์ประมาณ 100 แห่ง เข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบาร์ในสหรัฐ และประเทศใกล้เคียง โดยให้แต่ละบาร์ดังกล่าวบริจาคเงินอย่างน้อย 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการขายค็อกเทล เนโกรนี 1 แก้ว แล้วนำเงินนี้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ปี 2014 ไม่ได้มีพายุที่ไหน แต่ทางผู้จัดเห็นว่าควรจัดต่อไป จึงได้ทำเวบไซต์ Negroni ขึ้นมาเพื่อให้บาร์ต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมโปรแกรมได้อย่างเป็นระบบ แต่ครั้งนี้ต่างจากปีแรกคือ เงินที่ได้จากการขายค็อกเทล เนโกรนี ในช่วง Negroni Week แต่ละร้านสามารถเลือกบริจาคให้กับองค์กรใดก็ได้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม แต่ยังคงไว้ซึ่งคอนเซปต์เดิมคือ “บริจาคเงินอย่างน้อย 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อการขาย Negroni 1 แก้ว”
ปี 2013 – 2014 ความร่วมมือของบรรดาบาร์ต่าง ๆ ทั่วโลกเติบโตอย่างมาก จากปี 2013 ประมาณ 100 บาร์ พอปี 2014 เพิ่มเป็นประมาณ 1,200 แห่ง และยอดบริจาคมีมูลค่าถึง 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2014 ประเทศไทย ไม่ได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีเหตุจำเป็นบางประการ ปีต่อมาจึงเข้าร่วม ตอนนั้นมีบาร์ประมาณ 10 กว่าบาร์เข้าร่วมกิจกรรม จากจำนวนบาร์ทั้งหมดทั่วโลกประมาณ 3,500 กว่าบาร์ พร้อมยอดเงินบริจาคประมาณ 320,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2016 Negroni Week มีบาร์และร้านอาหารทั่วโลกเข้าร่วมประมาณ 6,000 แห่ง รวมทั้งประเทศไทยที่มีบาร์และร้านอาหารเข้าร่วมการกุศลนี้ประมาณ 40 กว่าแห่ง ส่วนใหญ่จะหักรายได้เป็นการกุศล 30 บาท มีบางแห่งให้ 50 บาท รวมยอดเงินบริจาคจากทั่วโลกประมาณ 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ปี 2017 เป็นที่น่ายินดีมีบาร์และร้านอาหารทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเข้าร่วมรายการนี้ถึง 100 แห่ง เป็นสิ่งยืนยันในความสำเร็จของโครงการนี้ โดยบริษัท IWS ผู้นำเข้าคัมปารี จัดงานเปิดตัวที่โวก เลาจน์ (Vogue Lounge Bangkok) ร้านอาหารคอนเซ็ปต์บาร์ชื่อดังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ก่อนอื่นเมื่อพูดถึง Negroni และ Americano ก็ต้องพูดถึง “คัมปารี หรือ กัมปารี” (Campari) เพราะถ้าไม่มี Campari ก็ไม่มี Negroni เข้ามาในเมืองไทยกว่าครึ่งศตวรรษ น่าจะมาพร้อมกับชาวอิตาลีคนแรก ๆ ที่เดินทางมาเมืองไทย กระทั่งปัจจุบันกลายเป็นเหล้าที่สำคัญในวงการเครื่องดื่ม
Campari เป็นเหล้าประเภทเรียกน้ำย่อยหรือก่อนอาหาร (Apéritif) ตระกูลบิตเตอร์ (Bitter) เป็นเหล้ายาที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของความหอมหวาน ความขม และสไปซี จนได้รสชาติที่กลมกล่อม จุดกำเนิดคือการนำเหล้ากลั่นไปผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพรเป็นร้อย ๆ ชนิด ตามสูตรของแต่ละเจ้า ในปัจจุบัน Bitter มีอยู่เป็นร้อยยี่ห้อและเป็นพัน ๆ สูตร โดยอิตาลีเป็นหัวแถวของชาติที่ผลิต Bitter
Campari กำเนิดราวปี 1860 ที่เมืองโนวารา (Novara) แคว้นเพียดมอนต์ (Piedmont) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี โดยนายกัสปาเร คัมปารี (Gaspare Campari :1828–1882) เจ้าของภัตตาคารและคาเฟระดับสุดยอดของเมืองตูริน (Turin) ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวจัดอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ที่มีมิลานเป็นเมืองหลวง Campari จึงได้ชื่อว่าเป็นสปิริตแห่งมิลาน หลังเปิดตัวในปี 1904 ไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ส่งออกต่างประเทศครั้งแรกไปยังเมืองนิซ (Nice) เมืองตากอากาศยอดนิยมของ French Riviera
คนอิตาเลียนบอกว่า Campari เป็นสุดยอดเหล้าที่มีอบอวลไปด้วยรสชาติที่หอมหวลชวนลิ้มลอง ขณะที่นํ้าเนื้อก็อร่อยอย่างอัศจรรย์ ที่สำคัญสามารถดื่มได้ทุกโอกาส ดื่มได้ในหลายรูปแบบ และเชื่อกันว่าสมุนไพรนับร้อยชนิดที่อยู่ในในเหล้าสีแดงสดใสนี้ จะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพดี และมีอายุยืนยาว ส่งผลให้ยอดขายของ Campari อยู่เหนือกว่าบิตเตอร์ทุกยี่ห้อ
มีสูตรของค็อกเทล เนโกรนี มาฝากเผื่อท่านที่อยากจะทำเองที่บ้าน เพราะส่วนผสมไม่มากและทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
1 oz. Gin
1 oz. Campari
1 oz. Sweet vermouth
Tools: mixing glass, barspoon, strainer
Glass: cocktail or double rocks
Garnish: orange twist Stir ingredients in a mixing glass with ice, strain into a chilled cocktail glass (or ice-filled double rocks glass) and garnish.
แต่ถ้าไม่แน่ใจวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนนี้ เป็นวันและคืนสุดท้ายของ Negroni Week 2017 ไปตามบาร์ที่ร่วมโครงการ สั่งค็อกเทล เนโกรนี ดื่มเพื่อกุศล แล้วคุยกับบาร์เทนเดอร์ถึงวิธีการทำ..!!

Americano

Blessed Thistle Negroni

Campari

Classic Negroni

Dessert Negroni

Print

Negroni ส่วนผสมไม่มากและทำง่าย

Pistola Negroni

Rad Negroni

นายพล Pascal Olivier Count de Negroni

ร้านที่ร่วมกิจกรรม Negroni Week 2017

ส่วนผสมที่ลงตัวของ เนโกรนี

Thawatchai Tappitak

ธวัชชัย เทพพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ รวมทั้งด้านอาหาร เคยเดินทางไปทำไวน์ในยุโรป 5 ปีครึ่ง จึงนำประสบการณ์ด้านดังกล่าวมาถ่ายทอดสู่แวดวงที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 20 ปี เป็นกรรมการตัดสินไวน์ บาร์เทนเดอร์ ฯลฯ ปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และนิตยสาร เช่น Thailand Restaurant News,GQ,Gastrogsm ฯลฯ นอกจากนั้นยังสอนไวน์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย ------------- ข้อมูลบทความ/ภาพ/วิดีโอ ในเว็บไซต์ ThatwatchaiGURU.com เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน การนำไปเผยแพร่ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ (นอกจากการแชร์) ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ----------- ติดต่อ: ThawatchaiGURU@at-Bangkok.com

You may also like...